'บิ๊กต่อ' กำหนดแนวทาง 9 ข้อ แต่งตั้งตำรวจระดับ รอง ผบก. ถึง สว. วาระปี 66

9 พ.ย.2566 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ลงนามในบันทึกข้อความที่ 0009.231/4320 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน 2566 ถึงผบช. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ผบก. ในสังกัด สง.ผบ.ตร. หรือตำแหน่งเทียบเท่า เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาถึง สว. วาระประจำปี 2566 ใจความว่า

ด้วยขณะนี้การดำเนินการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบ.ตร. และ จตช. ลงมาถึง ผบก. วาระประจำปี 2566 ได้เสร็จสิ้นแล้ว คงเหลือการดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ดำรงตำแหน่งระดับ รอง ผบก. ลงมาถึง สว. ซึ่งจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 พ.ย. 66 ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาศัยอำนาจตามความในข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2566 ข้อ 5 จึงกำหนด แนวทางการปฏิบัติให้ทุกหน่วยดำเนินการ ดังนี้

1.ผู้มีอำนาจสั่งแต่งตั้งต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 และข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2566 โดยเคร่งครัด

2.การพิจารณาความรู้ความสามารถเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสม เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นและข้อมูลเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ให้พิจารณาโดยคำนึงถึงองค์ประกอบ ดังต่อไปนี้
2.1 ประวัติการรับราชการ ให้พิจารณาตั้งแต่เริ่มรับราชการชั้นสัญญาบัตรเพื่อแสดงให้เห็นถึงความต่อเนื่องของประสบการณ์และความชำนาญงานในการปฏิบัติงานด้านต่างๆ
2.2 ผลการปฏิบัติงาน ให้พิจารณาตั้งแต่เริ่มดำรงตำแหน่งในระดับปัจจุบัน โดยพิจารณา จากผลงานในหน้าที่รับผิดชอบที่แสดงถึงความมุ่งมั่นในการทำงาน การติดตามงานให้บรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมายของหน่วยงาน ความรอบคอบในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรืองานอื่นที่ได้รับมอบหมายเป็นพิเศษ รวมถึงการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2566 ครั้งที่ 1 และการประเมินผลการปฏิบัติราชการของข้าราชการตำรวจประจำปี 2566 ครั้งที่ 2
2.3 ความประพฤติ ให้พิจารณาจากการรักษาวินัย การประพฤติตนตามประมวล จริยธรรมข้าราชการตำรวจ ตลอดจนเคารพสิทธิและศักดิ์ศรีของผู้อื่น โดยมุ่งประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน รวมถึงภาวะความเป็นผู้นำ ความสามารถในการปกครองบังคับบัญชา การทำงานร่วมกับ ผู้อื่นในหมู่คณะ มนุษยสัมพันธ์ในการทำงานที่สามารถร่วมกับผู้อื่นได้

3.การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามที่ อ.ก.ตร.ร้องทุกข์ มีมติให้เยียวยาหรือแก้ไขให้กับ ผู้ร้องทุกข์ ให้หน่วยพิจารณากลับไปดำรงตำแหน่งเดิมทุกราย ทั้งนี้ ให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการเยียวยากับหน่วยที่เกี่ยวข้องโดยตรง

4.การพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจตามมติคณะทำงานพิจารณาคำร้องขอรับการแต่งตั้ง ข้าราชการตำรวจ ตามข้อกำหนด ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ. 2565 ข้อ 43 ภายใต้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้โดยให้พิจารณาตามความเหมาะสมและไม่กระทบ กับสถานภาพกำลังพลของหน่วย

5.ภ.1 และ ภ.2 ที่ยังคงมีจำนวนตำแหน่ง สวป. ในสถานีตำรวจเกินกรอบตำแหน่งที่ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 12/2561 เมื่อ 27 พ.ย.61 กำหนดไว้ ให้ปรับเกลี่ยให้เป็นไปตามกรอบตำแหน่งที่ ก.ตร. กำหนด โดยพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าวไปดำรงตำแหน่งอื่นทุกราย

6.หน่วยงานในสังกัด สง.ผบ.ตร. ให้ดำเนินการจัดส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่ง สูงขึ้น บัญชีข้อมูลผู้ไม่เหมาะสมที่จะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ข้อมูลเสนอแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง ไปยัง ตร. (ผ่าน ทพ.) ภายใน 20 พ.ย. 66

7.บช. ที่มิได้สังกัด สง.ผบ.ตร. ให้ดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก. ลงมาถึง สว. ให้เสร็จสิ้น และมีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยใน 29 พ.ย.66 โดยให้คำสั่งมีผลใช้บังคับ พร้อมกันใน 30 พ.ย. 66 และรวบรวมสำเนาคำสั่งแต่งตั้ง รวมทั้งสรุปจำนวนคำสั่งที่แต่งตั้งและรายชื่อ ข้าราชการตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งระหว่างส่วนราชการแล้วจัดส่งไปยัง ตร. (ผ่าน ทพ.) ภายใน 30 พ.ย.66 ก่อนเวลา 16.30 น.

8.ให้หน่วยเป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งของ ข้าราชการตำรวจที่จะแต่งตั้ง ยศ ชื่อ ชื่อสกุล ตำแหน่ง เลขตำแหน่ง สถานภาพข้าราชการตำรวจและ รายละเอียดอื่นๆ ด้านธุรการให้ถูกต้อง โดยเฉพาะการแต่งตั้งเข้าสู่ตำแหน่งในกลุ่มสายงานป้องกันปราบปราม จะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งกลุ่มสายงานป้องกันปราบปราม พ.ศ.2561 และบทเฉพาะกาล ตามมติ ก.ตร. ในการประชุมครั้งที่ 10/2564 เมื่อ 27 ก.ย. 64

9.การเดินทางไปรับตำแหน่งใหม่และการรายงานตัวเมื่อได้รับคำสั่งแต่งตั้งของข้าราชการตำรวจ ให้ถือปฏิบัติตามนัยหนังสือ 0004.25/ว073 ลง 24 พ.ค. 50 โดยเคร่งครัด

ทั้งนี้ การจัดส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น บัญชีการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งไปยัง ตร. ผ่าน ทพ.นั้น ให้ทุกหน่วยจัดส่งทั้งในรูปแบบเอกสาร และไฟล์ Excel ผ่านทาง e-mail address และให้ดำเนินการตาม ระเบียบ ตร.ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 29 ความลับ โดยเคร่งครัด เพื่อทราบและถือปฏิบัติโดยเคร่งครัด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก.ตร. ไฟเขียวแต่งตั้ง 43 นายพลสีกากี 'สุรพงษ์ ชัยจันทร์' ผงาดที่ปรึกษาพิเศษตร.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานเพื่อประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567 โดยมีวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ

คกก.สอบ 2 บิ๊กตำรวจ ยอมรับเชิญ 'บิ๊กต่อ' ให้ถ้อยคำแล้ว นัดแถลงทุกประเด็นสัปดาห์หน้า

พล.ต.อ.วินัย ทองสอง หนึ่งในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีปรากฏเป็นข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับความขัดแย้งในเรื่องคดีของบุคคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ชุดสอบคดี 'บิ๊กต่อ' ยันไม่ล่าช้า มีหลักฐานพอสมควรแต่เปิดเผยไม่ได้

พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2(ผบก.น. 2) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงินเว็บพนันออนไลน์บีเอ็นเคและในส่วนที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม

'บิ๊กต่าย' ยันไม่กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผบ.ตร. ไม่ติดใจถูกกล่าวหาหลอกนายกฯ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้กล่าวพาดพิงจากประเด็นที่ลงนามคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนว่า

'บิ๊กต่าย' เซ็นแบ่งงานรองผบ.ตร. 'ธนา-สราวุฒิ' แทน 'บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กรอย'

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) มีคำสั่ง ตร.ที่ 176/2567 ลงวันที่ 17 เม.ย. 2567 เรื่องกำหนดลักษณะงานและการมอบอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

'โจ๊ก' เดือดรายวัน! ถ้าอยากเป็นผบ.ตร. บอกกันตรงๆ ยอมให้ก็ได้ เล่นแบบนี้จะติดคุกเสียเอง

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.เข้ายื่นหนังสือเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.เพื่อแจ้งให้ทราบถึงการสอบสวนของคณะพนักงานสอบสวนเว็บพนันออนไลน์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่สามารถตรวจยึดหรืออายัดทรัพย์ใดๆได้