25 ม.ค.2567 - จากกรณีนายปัญญา คงแสนคำ อายุ 54 ปี หรือลุงเปี๊ยก (สามีผู้ตาย) เป็นแพะในคดีเกิดเหตุฆาตกรรมอุกฉกรรจ์ในจังหวัดสระแก้ว น.ส.บัวผัน ตันสุอายุ 47 ปีถูกกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 13-16 ปี จำนวน 5 ราย ซึ่งมีลูกชายของรองสารวัตรฝ่ายสืบสวน สภ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ร่วมกันทำร้ายร่างกายป้าบัวผันจนถึงแก่ชีวิต ก่อนนำร่างทิ้งสระน้ำ ต่อมาพบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิด จึงทราบว่าลุงเปี๊ยกคือแพะในคดี ต่อมาจึงมีการเริ่มเปิดเผยว่าในขั้นตอนสอบปากคำลุงเปี๊ยก พนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ ได้มีการใช้ถุงดำคลุมศรีษะ มีการเร่งแอร์จนหนาวเย็นและบังคับให้ลุงเปี๊ยกถอดเสื้อ เพื่อให้ได้มาซึ่งคำสารภาพ ซึ่งเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ หรือไม่นั้น วานนี้(24 ม.ค.)พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ ได้ลงนามเอกสารด่วนที่สุด ที่ ยธ. 0853/260 นำส่งไปยังอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน เพื่อแจ้งเรื่องรับสืบสวนสอบสวนเป็นคดีพิเศษ แล้วนั้น
เมื่อวันที่ 25 ม.ค.67 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ดีเอสไอได้รับกรณีของลุงเปี๊ยกเป็นคดีพิเศษ เนื่องจาก พ.ร.บ. พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ในมาตรา 31 ระบุไว้ว่าหน่วยงานที่มีอำนาจสอบสวนได้มีอยู่ 4 หน่วยงาน คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมการปกครอง และสำนักงานอัยการสูงสุด อีกทั้งเมื่อไปดูรายละเอียดในมาตรา 31 วรรคสอง ระบุไว้ว่าหากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับไว้ดำเนินการก็ให้เป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ดังนั้น กระบวนการที่จะต้องทำหลังจากนี้ คือ ดีเอสไอจะต้องแจ้งการรับคดีพิเศษนี้ไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อรับทราบและมอบหมายให้พนักงานอัยการเข้ามาร่วมในการตรวจสอบกับดีเอสไอ รวมถึงเราเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ และเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายครั้งแรก จึงมีความเห็นว่าควรเชิญหน่วยงานทั้ง 3 หน่วยงานที่กล่าวเข้ามาร่วมประชุม และเป็นพนักงานสอบสวนร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี โดยดีเอสไอจะเสนอเรื่องผ่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จากนั้นจึงจะมีการสอบสวนร่วมกันทั้ง 4 หน่วยงาน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปสอบปากคำเบื้องต้นกับลุงเปี๊ยกถึงพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ในวันเกิดเหตุนั้นในข้อเท็จจริงมีพยานหลักฐานพอสมควร มีเหตุที่จะเข้าสู่กระบวนการสอบสวนได้ ส่วนรายละเอียดเชิงลึกขอละเว้นการเปิดเผยไว้ก่อน แม้ส่วนใหญ่จะมีการเห็นได้จากสื่อสารมวลชนอยู่แล้ว ทั้งเรื่องคลิปวิดีโอ เป็นต้น จึงยังเร็วไปที่จะปักธงว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกระทำความผิด เพราะต้องดูรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อน อย่างไรก็ตาม แม้ท้ายสุดจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจริง กฎหมายก็ได้ระบุไว้ว่าให้พนักงานสอบสวนแจ้งไปยัง ป.ป.ช. เพื่อรับทราบและทำการสอบสวนต่อไป
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวต่อว่า สำหรับการดำเนินคดี หรืออัตราโทษ หากมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มีทั้งโทษทางปกครองและอาญา ขึ้นอยู่กับว่าประพฤติผิดในรายมาตราใดของกฎหมายดังกล่าว เบื้องต้นมีโทษจำคุกที่ 5-15 ปี และต้องรอดูการรวบรวมข้อมูลของทางคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของตำรวจด้วย ทั้งนี้ พฤติการณ์ทางคดีการเสียชีวิตของ น.ส.บัวผัน ตันสุ และของลุงเปี๊ยกถือว่าแยกขาดจากกัน แต่สามารถใช้รายละเอียดในคดีประกอบการพิจารณาได้ หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะรายงานให้สาธารณะได้รับทราบต่อไป และทั้ง 4 หน่วยงานจะนัดหมายประชุมในเรื่องลุงเปี๊ยกให้เร็วที่สุด.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดีเอสไอจ่อชงป.ป.ช.ฟัน ปูด4ชื่อบิ๊กสตง.มีเอี่ยว!
“ดีเอสไอ" เตรียมขน 30 ลังสำนวนคดีฮั้วประมูลสัญญาก่อสร้างตึก สตง
'ดีเอสไอ' จ่อขนสำนวนคดีฮั้วประมูลร้างตึกสตง. ส่ง 'ป.ป.ช.' หลังพบ '4 บิ๊ก สตง.' มีเอี่ยว
'ดีเอสไอ' เตรียมขน 30 ลังสำนวนคดีฮั้วประมูลสัญญาก่อสร้างตึก สตง. ส่ง 'ป.ป.ช.' ไต่สวนอาทิตย์หน้า หลังพบ '4 บิ๊ก สตง.' โยงฮั้ว ขณะที่สำนวนคดีนอมินี บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ดีเอสไอคุมตัว 'บินลิง วู' นายทุนจีนคนสำคัญ ผู้ต้องหารายสุดท้าย ส่งฟ้องอัยการคดีพิเศษแล้ว ส่วนประเด็น 'ปูนเหล็ก' ไม่ได้มาตรฐาน อยู่ระหว่าง สมอ. ตรวจพิสูจน์ผล เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อดีเอสไอ
โฆษกดีเอสไอฟุ้งคดีฮั้วเดินหน้าเต็มสูบแม้ 'ทวี' หยุดปฏิบัติหน้าที่
'โฆษกดีเอสไอ' ยันคดีฟอกเงิน-อั้งยี่ ฮั้วเลือก สว.67 เดินหน้าตามกฎหมายเต็มสูบ ชี้ไร้ผลกระทบ 'ทวี' ถูกศาลสั่งหยุดคุม ไม่กังวลหาก สว. ดำเนินคดีกลับ
ดีเอสไอจ่อเปิดเอกสาร 121 ลังหาปมตึก สตง.ถล่ม
'ดีเอสไอ' เชิญ 'โยธาธิการฯ' พร้อมผู้แทนกิจการร่วมค้าทั้งหมดภายใต้สัญญาโครงการตึก สตง. และผู้แทน สตง. หารือเตรียมเปิดเอกสาร 121 ลัง หลังอายัด 26 ตู้คอนเทนเนอร์ในไซต์งานชั่วคราว
DSI ประสาน กทม. ลงพื้นที่ตึกถล่มหาหลักฐานเพิ่ม เตือน 3 ผู้ถือหุ้นไทยรีบเข้าให้ข้อมูล
‘ดีเอสไอ’ ประสาน กทม. ลงพื้นที่ตึก สตง.ถล่ม พร้อมกรมโยธาธิการฯ หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม แย้มฝาก 3 ผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เข้าพบดีเอสไอ ให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ดีกว่าซ่อนตัวเงียบ ระบุ ขยายผลฐานฟอกเงินได้ หากพบความผิดมูลฐาน ตาม 28 ประเภทความผิดกฎหมายฟอกเงิน
สรรพากรร้องดีเอสไอ เอาผิดบริษัทจีน ขายเหล็กสร้างตึก สตง. ปลอมใบกำกับภาษีกว่า 200 ล้านบาท
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่รวบรวมพยานหลักฐานในคดีดังกล่าว


