เตือนภัย! หนุ่มโพสต์ทำบ้านน็อคดาวน์ขาย สุดท้ายเทงาน พบผู้เสียหายเพียบ

25 มิ.ย. 2567 – ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียน จากชาวบ้านในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ว่า โดนช่างผู้รับเหมารายหนึ่ง Facebook ชื่อว่า “ท็อป‘เท็น” ซึ่งได้โพสต์ลงตามกลุ่มต่างๆ ว่ารับเหมาสร้าง “บ้านน็อคดาวน์สไตล์นอดิก” หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวลงในกลุ่ม ชาวบ้านหลายคนที่กำลังอยากได้บ้านที่ขนาดเล็ก บางคนก็อยากทำเป็นร้านกาแฟ หลังจากที่เห็นรู้สึกชอบเกิดความสนใจเพราะราคาถูกบางหลังราคาไม่ถึงแสน

ซึ่งตามรูปภาพที่หนุ่มดังกล่าวโพสต์นั้น คนสนใจเยอะและได้มีการเข้ามาคอมเม้นสอบถาม ซึ่งหนุ่มดังกล่าวก็ได้เข้ามาตอบคอมเม้นในโพสต์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ พูดคุยทั้งเรื่องราคา และขนาดของบ้าน หลายคนที่หลงเชื่อก็ได้ติดต่อไปทำสัญญา และโอนเงินมัดจำค่าดำเนินการไว้ก่อน หลังจากนั้นคนที่โอนเงินก็ทักท้วงว่า งานถึงไหนแล้ว หนุ่มคนนี้ก็กลับพูดบ่ายเบี่ยง พลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยอ้างนั้นอ้างนี้สุดท้ายก็ทิ้งงานละไม่เข้ามาทำให้เสร็จ ทราบต่อมาว่าตอนนี้มีคนที่เสียหายเยอะหลายราย ที่โดนในลักษณะเดียวกัน จึงเกรงว่าคนอื่นๆที่หลงเชื่อจะเป็นเหยื่อรายต่อไปจึงร้องสื่อ เพื่อเตือนภัยสังคม

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.สังขะ เพื่อพบ นางนภัสสร เพิ่มเพียร อายุ 27 ปี(ผู้เสียหายที่ร้องสื่อ) และได้สัมภาษณ์พูดคุยสอบถามข้อมูลเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนจะเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.ฐากูร กะการดี พนักงานสอบสวน สภ.สังขะ ว่าเมื่อวันที่ (30 พ.ค.67) ที่ผ่านมา ตนได้ทำสัญญาจ้างรับเหมาก่อสร้างกับ บริษัท เท็นสุรินทร์สร้างบ้าน (น็อคดาวน์) โดยมีนนายชินวัตร แท่นแก้ว (คนโพสต์) เป็นผู้ทำสัญญากับผู้เสียหายโดยมีการแบ่งจ่ายชำระ 3 งวด งวดที่ 1 50000 บาท เป็นค่าเตรียมอุปกรณ์ งวดที่ 2 10000 บาท ค่าโครงสร้างแล้วเสร็จ งวดที่ 3 10000 บาท ชำระไปแล้ว 66,000 บาท เมื่อครบกำหนดส่งมอบ คนเสียหายพบว่าบ้านน็อคดาวน์ยังไม่เสร็จ จากนั้นวันที่ 20 มิ.ย.67 ผู้เสียหายได้ไปดูบ้านน็อคดาวน์ที่บ้านของนายชินวัตร แท่นแก้ว(ช่างรับเหมาดังกล่าว) โดยไม่มีความคืบหน้าอะไร และมีการบ่ายเบี่ยงไปเรื่อยและ บอกว่าจะมาทำให้แล้วเสร็จโดยมีการเลื่อนวันไปเรื่อยๆ สุดท้ายไม่มาทำงานแต่อย่างใด โดยทางผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความผู้รับเหมาดังกล่าวในข้อหา “ฉ้อโกงทรัพย์”และ “ฉ้อโกงประชาชน” จะไม่ยอมความจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

สัมภาษณ์ นางนภัสสรเพิ่มเพียร อายุ 27 ปี (หนึ่งในผู้เสียหายที่มาแจ้งความ) เล่าว่า ตนเห็นหนุ่มคนนี้ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นคนรับเหมาและได้โพสต์รูปบ้านลงในกลุ่มต่างๆ และในเพจ Facebook ตนจึงได้ติดต่อไปเห็นว่าราคาถูกดีจึงได้มีการพูดคุยกับหนุ่มคนนี้และมีการโอนเงินเป็นค่าดำเนินการไปจำนวนเงิน 66,000 บาท แต่สิ่งที่ได้คือโครงเหล็กที่ถูกวางอยู่ด้านหน้าทางเข้าหมู่บ้าน ซึ่งหนุ่มคนนี้ได้บอกว่ารถเข้าไม่ได้เดี่ยวจะต้องตัดเป็นครึ่ง และผ่านไปหลายวันก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรตนจึงคิดว่าน่าจะถูกหลอก เพราะตนได้สอบถามพูดคุยติดต่อไปหานายชินวัตร แท่นแก้ว หลายรอบถามถึงความคืบหน้าว่าบ้านไปถึงไหนแล้ว ด้านผู้รับเหมากลับพูดบ่ายเบี่ยงเลื่อนวันไปเรื่อยๆ โดยวันนี้ตนได้เดินทางมาแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอสังขะในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ และฉ้อโกงประชาชน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรไปพูดคุยและ สัมภาษณ์ผู้เสียหาย ที่โดนหนุ่มคนนี้หลอก และมีการโอนเงินไปให้ในการดำเนินงานแต่ก็โดนเทงานทิ้งไม่ทำต่อ ชื่อคุณหนิง อายุ 47 ปี เล่าว่า ลักษณะของช่างคนนี้ทำท่าทีมีความหน้าเชื่อถือเพราะว่ามีการทำสัญญาระหว่าที่เซ็นเสร็จจะขอเบิกล่วงหน้าอย่างน้อย 20 % ของราคาบ้านจากนั้นก็จะทิ้งงานไปเลยไม่มาทำต่อ โดยยอดทั้งสิ้นที่โดน 14,000 และได้คุยกันเหลืออยู่ที่ 8,400บาทและมีการฟ้องแพ่งไปแล้ว และมีการไกล่เกลี่ยโดยที่หนุ่มคนนี้บอกว่าจะยอมเคลียร์ แต่ก็หายเงียบไป

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สังขะกำลังอยู่ในการดำเนินการออกหมายเรียกช่างคนนี้มารับทราบข้อกล่าวหาและเตรียมดำเนินการทางกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดีอี เตือนภัยระวัง ‘มิจฉาชีพ’ชวนลงทุน หุ้น OR ข่าวปลอม

‘ดีอี’ เตือนภัยหลังตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง OR เปิดให้นักลงทุนร่วมถือหุ้นอเมซอน เพียง 1,260 บาท รับผลตอบแทนรายวัน ผ่านเพจ AMz cf̲ae Target Price IPO ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หวั่นสร้างความเสียหายทั้งข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน

'มาดามแป้ง'แจ้งความ มิจฉาชีพใช้AI ทำคลิปชวนเล่นพนันออนไลน์

"มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มอบอำนาจให้ทนายความ เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ กรณีถูกผู้นำวีดีโอการแถลงข่าวของ "มาดามแป้ง" ไปตัดต่อ ดัดแปลง ปรากฎข้อความโฆษณาชวนเชื่อให้ลงทุน หรือ ชักชวนให้เล่นพนันออนไลน์ ซึ่งได้ยิง Ads ให้เกิดการเข้าถึงประชาชนจำนวนมาก 

ETDA ชี้ 8 เดือนแรกปี 68 ร้องเรียนออนไลน์พุ่ง 2.7 หมื่นราย

ETDA เผยสถิติร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 8 เดือนพุ่งน์ 27,332 เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 67 ในช่วงเวลาเดียวกันถึง 4,574 เรื่องหรือ 20.10% เผย ปัญหาซื้อขายออนไลน์-เว็บไซต์ผิดกฎหมาย ยังคงครองแชมป์ 98.03% พร้อมเร่งเครื่องปิดช่องโหว่มิจฉาชีพ ด้วย ‘กลไกร่วมกำกับภายใต้กฎหมาย DPS-สร้างคุ้มกันคนไทยรู้ทันภัยออนไลน์’