24 ก.ค.2567 - พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น.พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจับกุมตัวนายณรงค์ฤทธิ์ หรือไวท์ ตาคลี อายุ 30 ปี ชาว ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับหมายจับศาลอาญาที่ 3748/2566 ลงวันที่ 1 พ.ย.66 ข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 1043/2566 ลงวันที่ 14 พ.ย.66 ข้อหา ร่วมกันพยายามฉ้อโกง, ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และร่วมกันใช้เอกสารสิทธิปลอม ร่วมกันหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด
ในการจับกุมครั้งนี้ นายณรงค์ฤทธิ์ หรือไวท์ ตาคลีก่อเหตุหลอกลวงในโลกออนไลน์มาเป็นเวลาหลายปี จนมีทักษะพลิกแพลงการหลอกลวงตามเทรนด์ในสังคมได้อย่างแนบเนียน ต่อมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.1 จับกุมตัวไปเมื่อ 26 ก.พ.65 โดยได้ถูกจับกุมตัวตามหมายจับ 2 หมายจับ หลังก่อเหตุแอบอ้างปลอมตัวเป็น ฝ่ายไอที ของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วลวงโกงเงินค่าฉีดวัคซีนไปหลายราย ซึ่งหลังเจ้าตัวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ประกันตัวออกมาและอยู่ระหว่างสู้คดี แต่ยังคงหลอกลวงเหยื่อในรูปแบบต่างๆ เช่น ปลอมเป็นเภสัชเข้าไปในกลุ่มขายยาหลอกขายฟ้าทะลายโจร หลอกขายหวยกองสลากพลัส
นอกจากนี้ยังก่อวีรกรรมแสบต้มตุ๋นหลอกลววเจ้าหน้าที่ ใช้วิธีเลียนแบบหนัง Catch me if you can ซึ่งเคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งได้เข้าไปที่บ้านเพื่อจับกุมตัว แต่ได้มีการโวยวายอ้างว่าถูกจับกุมไปแล้ว สร้างความไขว้เขวกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะใช้จังหวะทีเผลอหลบหนีออกจากบ้านไป จนล่าสุดเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบนครบาลบุกไปถึงที่พักในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยขณะจับกุมเจ้าตัวยังคงใช้มุขเดิมโดยพยายามหลอกเจ้าหน้าที่ว่า ตนถูกจับกุมไปแล้ว แต่ชุดสืบนครบาลไม่หลงกล ทำการจับกุมตัวทันที และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือก็พบว่ามีการ “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” แล้วกำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหยื่อ
นายณรงค์ฤทธิ์ ให้การว่า เรื่องการขายโควต้าวัคซีนนั้น ยอมรับว่า เป็นผู้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่และประกาศหาคนที่ต้องการฉีดวัคซีนให้มาลงเป็นกับตน แต่ภายหลังไม่ได้การรับวัคซีน จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไปฟ้องตน ในส่วนนี้ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ต่อมาการหลอกขายสมุนไพรฟ้าทลายโจร ได้สร้างเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ ในช่วงเวลาเดียวกับเคสวัคซีน และก็ไม่ได้มีการจัดจัดส่งสมุนไพรให้ผู้สั่งซื้อแต่อย่างใด และกรณีล่าสุด ตนแอบอ้างเป็นสารวัตรแจ๊ะ กำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหล่าแฟนคลับแต่ว่ามาถูกจับได้เสียก่อน โดยหลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.พร้อมสอบทุกมิติคดีพินัยกรรมเจ๊อ้อย เผยหาก 'ษิทรา' ไม่มีทนายสามารถซักค้านเองได้
ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสว่าจะมีตัวแทนรับมอบอำนาจจาก น.ส.จตุ
โกงสนั่น! ผู้ใหญ่บ้าน-ทนาย-ขรก. ร่วมหลอกขายที่ดินเขากระทิง เสียหายเกือบ 40 ล้าน
ที่ห้องสอบสวน สภ.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี น.ส.ลำไย ซ่อมแก้ว อายุ 45 ปี ภรรยา นักโปรแกรมเมอร์ชาวเยอรมัน ผู้เสียหาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนชัย ชูรัตน์ ทนายความ นายธเนศ ทวิภมรกุลวงศ์ ทนายความ และครอบครัว ได้เปิดโต๊ะแถลงข่าวขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน
'เมียตั้ม ษิทรา' ร่ำไห้ ศาลไม่ให้ประกัน ยกเหตุผลสืบสวนยังไม่เสร็จสิ้น
ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ที่ นายอาคม คงสวัสดิ์ ทนายความของนางปทิตตา
ศาลให้ประกัน พี่เมียทนายตั้ม วงเงิน 1 ล้าน ห้ามออกนอกประเทศ
ภายหลังศาลรับฝากขังนางสาวปิณฑิรา หรือดาว การิวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหายื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ระหว่างฝากขังศาลคำร้องพร้อมหลักทรัพย์
ละเอียดยิบ! เปิดพฤติการณ์ พี่เมีย 'ทนายตั้ม' สมคบฟอกเงิน โกงเจ๊อ้อย 39 ล้าน
ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่งกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมตัว นางสาวปิณฑิรา หรือดาวการวัลย์ อายุ 43 ปี พี่สาวภรรยาทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ ในความผิดฐาน "ร่วมกันกันฟอกเงิน
คุมตัวพี่เมีย 'ทนายตั้ม' ฝากขังศาล ตร.ค้านประกัน เจ้าตัวไม่ยอมปริปาก
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งเป็นพี่สาวของภรรยานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันฟอกเงินและสมคบตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน” ในคดีเงิน 39 ล้านบาทของ