'ตร.ไซเบอร์' บุกจับ 2 พี่น้อง 'เจ้าทศกัณฐ์ เงินกู้' ดอกเบี้ยโหด

6 ก.ย. 2567 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดตรังรายงานว่า เมื่อเวลา 17.30 วันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 (ผบก.สอท.5) พ.ต.อ.ธีระ เชื้อสุวรรณ ผกก.4 บก.สอท.5 ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.กฤตภพ แก้วรอด สว.กก.4 บก.สอท.5 (ชป.ตรัง) และเจ้าหน้าที่ในสังกัด ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ สภ.เขาวิเศษ นำหมายค้นศาลจังหวัดตรัง ที่ ค.351/2567 ลงวันที่ 4 ก.ย. 2567 เข้าแสดงตัวเพื่อทำการตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งตั้งอยู่เลขที่ 92 หมู่ 12 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง

ก่อนร่วมกันจับกุมตัว นายพลเชษฐ์ แก้วยัง อายุ 45 ปี อยู่เลขที่ 92 หมู่ 12 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง และ นายสุพัฒน์ แก้วยัง อายุ 38 ปี ทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ฉายา “เจ้าทศกัณฐ์ เงินกู้” พร้อมยึดของกลาง จำนวน 10 รายการ ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ, สมุดจดใช้จดบันทึกรายชื่อลูกค้าเงินกู้,เอกสารหนังสือสัญญากู้ยืมเงินตามกฎหมายใหม่ พร้อมสำเนาบัตรผู้กู้และเอกสารที่เกี่ยวข้อง , กระดาษบันทึกภาพถ่ายหน้าจอโทรศัพท์มือถือแชตสนทนาปล่อยเงินกู้กับลูกค้า , อาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ ขนาด .38 ยี่ห้อ LUGER ชนิดรมดำ พร้อมเครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 บรรจุอยู่ในลูกโม่ จำนวน 6 นัด

พฤติการณ์ในการจับกุม เจ้าหน้าที่ ตร.กก.4 บก.สอท.5 (ชป.ตรัง) ชุด Cyber Guard (ชุดปฏิบัติการที่ 1 จ.ตรัง) ได้ทำการสืบสวนหาข่าวผ่านช่องทางสื่อโซเชียล เฟซบุ๊ก ไลน์ และสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ พบเพจเฟซบุ๊กของผู้ถูกจับกุมร่วมกันลักลอบให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน เรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ก่อนทำการสืบสวนหาข่าวเพื่อทราบตัวตนและสถานที่พักอาศัยของเจ้าของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเพื่อจับกุม ก่อนทราบตัวตนและสถานที่พักอาศัยเจ้าของบัญชีเพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นที่แน่ชัดแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาล จ.ตรัง ออกหมายค้น เพื่อเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว

กระทั่งวันที่ 5 ก.ย. เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันนำหมายค้น เดินทางไปบ้านดังกล่าว เมื่อไปถึงที่บริเวณหน้าต่างห้องนอนของนายพลเชษฐ์ ซึ่งขณะนั้นเปิดอยู่สังเกตเห็นนายพลเชษฐ์ นั่งอยู่ที่ริมหน้าต่างกำลังเปิดแชตเฟซบุ๊ก ดูข้อลูกค้าเงินกู้และนำบันทึกรายการลูกเงินกู้ลงในสมุดบันทึก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัว โดย นายพลเชษฐ์ รับว่าตนเองกำลังทำการบันทึกรายการลูกค้าเงินกู้จริง จึงได้ตรวจยึดของกลาง จากนั้นชุดตรวจค้นจับกุม จึงได้ขอทำการเข้าตรวจค้นที่ภายในห้องนอน ปรากฏพบของกลางหลายรายการ และรับว่าเป็นของ ต่อมาขณะเจ้าหน้าที่อยู่ภายในบ้านดังกล่าว นายสุพัฒน์ น้องชาย ได้เดินออกมาจากห้องนอน เค้นสอบถามนายสุพัฒน์ รับว่าตนเองและพี่ชาย คือนายพลเชษฐ์ ได้ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดจริง

จากการสอบถามทั้งสองให้รับสารภาพว่า ได้ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราจริง โดยเริ่มทำมาประมาณช่วงต้นปีที่ผ่านมา และรับว่าของกลางที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้เป็นของพวกตนเองจริง โดยในส่วนของการปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้า จากการสอบถามทั้งสองให้การว่าในการปล่อยเงินกู้ให้ลูกค้าพวกตนเองจะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากลูกค้าเป็นราย 10 วัน/ครั้ง เช่น กรณีมีลูกค้าขอกู้ยืมเงิน จำนวน 1,000 บาท พวกตนเองจะให้ลูกค้าเงินกู้ชำระเงินดอกเบี้ยเป็นราย 10 วัน/ครั้ง จนกว่าจะคืนเงินต้นตามจำนวน ซึ่งคิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 30 บาท/เดือน (โดยประมาณ) วงเงินหมุนเวียนประมาณ 2 ล้านบาท/เดือน เบื้องต้นมีผู้เสียหายหรือลูกหนี้กว่า 100 คน

ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา 1.ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงิน หรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด (ตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกรับดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 มาตรา 4 (1) 2.ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยการจัดมาซึ่งเงินทุน แล้วให้ผู้อื่นกู้ยืมโดยไม่ได้รับอนุญาต (ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ข้อ 5 (7) และข้อ 16) และ 3.ผู้ถูกจับที่ 1 โดยกล่าวหาว่ามีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน ก่อนนำตัวผู้ถูกจับพร้อมด้วยของกลางมาที่ สภ.เขาวิเศษ เพื่อทำการสืบสวนขยายผล และทำบันทึกจับกุม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'7 บิ๊กขรก.' พึงสังวร! หนีคดีตากใบ ต้องอยู่กับรอยเปื้อนใหญ่ตลอดชีวิต

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผู้ต้องหาที่หลบหนีในคดีตากใบ ล้วนเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงทั้งสิ้น อาทิ

โผตั้ง 'นายพล' วาระ67 เกณฑ์อาวุโส ส่ง 76 สีกากี ผงาด

เมื่อนำกฎ ก.ตร.ว่าด้ายการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ไปทาบบัญชีอาวุโส ตามเก้าอี้ว่างแต่ละตำแหน่ง ก็ส่งผลให้ 76 สีกากี ได้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

'ผบ.ตร.' กำชับคดีดิไอคอน ตร.ต้องเป็นที่พึ่งปชช. จนกว่าผู้กระทำผิดจะได้รับโทษ

“ผบ.ตร.” เผย คดีดิไอคอนคืบหน้า กำชับตำรวจต้องเป็นที่พึ่ง ปชช. ทำหน้าที่เหมือนทนาย มอบ  รอง ผบช.ก. เท่านั้นแถลง

ตร. จ่อแจ้งข้อหาผู้บริหาร 'ดิไอคอนกรุ๊ป' เหยื่อแห่ร้อง 120 ราย เสียหาย 50 ล้าน

'บิ๊กต่าย' แจงตำรวจเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาผู้บริหาร 'ดิไอคอนกรุ๊ป' ส่วนดาราแม้ไม่ได้บริหารงาน หากพบกระทำผิดชัดแจ้งตั้งข้อหาได้ทันที เผยเหยื่อร้องแล้ว 120 ราย มูลค่าเสียหาย 50 ล้าน