ศาลฎีกา ยืนจำคุกเจ้าของเนิร์ซเซอรี-พี่เลี้ยง 'คดีน้องนาวา' ถูกทำร้ายเสียชีวิต

20 ม.ค.2565 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 8 ศาลจังหวัดสมุทรปราการ ผู้พิพากษา ศาลจังหวัดสมุทรปราการได้มีการนัดอ่านคำพิพากษาศาลฏีกา คดีหมายเลขดำที่ ฮ.6016/2561 คดีหมายเลขแดง อ 1261/2562 พนักงานอัยการจังหวัดสมุทรปราการ โจทก์ และนางสาววราลี เสริมจันทร์ โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นางกมลวรรณ จีนจะโปะ อายุ 53 ปี เจ้าของเนิร์ซ'เซอรีเซอรี่แห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ ภายในหมู่บ้านสวัสดิ์ดี ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จำเลยที่ 1 นางอัมพร ดาวเรรัมย์ อายุ 31 ปี จำเลยที่ 2 ครูพี่เลี้ยง ข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

สืบเนื่อง จากวันที่ 30 เมษายน 2561 น.ส.วราลี เสริมจันทร์ อายุ 39 ปี มารดาของ ด.ช.จตุภัทร วรศาสตร์ อายุ 11 เดือน หรือน้องนาวา เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ช่วยให้ช่วยเร่งรัดคดี กรณีลูกชายวัย 11 เดือนเสียชีวิตปริศนาหลังจากพาน้องนาวา ไปฝากเลี้ยงที่เนิร์ซ'เซอรี ครูอ้อ ภายในหมู่บ้านสวัสดี เลขที่ 986 / 116 หมู่ 4 ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้เพียง 6 วัน ก่อนลูกชายจะเสียชีวิต

เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 13.25 น. วันที่ 25 เมษายน 2561 ขณะที่ด้านพี่เลี้ยงอ้างว่า น้องนาวา ขาดอากาศหายใจจากผ้าอ้อมปิดหน้า แต่เมื่อผลชันสูตรออกมากลับพบว่า กระดูกซี่โครงหักถึง 3 ซี่ อวัยวะภายในปอดและตับ ม้ามคั่งเลือด เซลล์สมองมีลักษณะเสื่อมและตายบางตัว ซึ่งได้ขัดแย้งกับคำให้การของจำเลยทั้งสองคน ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ต่อมาเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2562 ศาลอุธรณ์ภาค 1 พิพากษา จำเลยทั้งสอง จำคุกคนละ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญาและ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้คำสินไหมทดแทนเป็นเงิน 820,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.61 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปี นับแต่วันที่ 11 เม.ย.64 จากนั้น นางกมลวรรณ จีนจะโปะ จำเลยที่ 1 ได้ยื่นต่อสู้คดีในชั้นฎีกา ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้วว่าจำเลยทั้งสองมีเหตุสมควรไม่ให้ลดโทษ จึงพิพากษายืน ตามศาลอุทธรณ์

ขณะที่นางสาวราลี ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับทนายความ และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า สำหรับในเรื่องของคดีตนพอใจในคำตัดสินของศาลและดีใจที่เห็นผู้ต้องหาเข้าไปชดใช้กรรมในเรือนจำ ส่วนเรื่องค่าชดเชยนั้นตนเองมองว่าน้อยเกินไป กับการที่ต่อสู้คดีเกือบ 4 ปี เมื่อศาลท่านตัดสินแล้วก็ต้องยอมรับต้องขอบคุณมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวของทุกคนที่คอยติดตามเรื่องคดีมาโดยตลอด และวันนี้ตนเองรู้ว่ายังไงทางผู้ต้องหาก็ต้องติดคุกจึงอยากบอกกับลูกว่า เราได้รับความยุติธรรมแล้ว