ผบ.ตร. มอบ 'พล.ต.อ.ธนา' คุมคดีหมอบุญ เร่งประสานอินเตอร์โพลออกหมายแดงล่าตัว

ผบ.ตร. ตั้ง ‘พล.ต.อ.ธนา’ คุมสอบสวนคดี ‘หมอบุญ’ เผยสอบเชิงลึกหลบหนีไปประเทศไหน จ่อดูสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ยันเร่งไล่เส้นทางการเงิน

25 พ.ย.2567 - ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ถึงความคืบหน้ากรณี นพ.บุญ วนาสิน อดีตประธานกรรมการและผู้ก่อตั้งบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด ที่ถูกกล่าวหาในคดีฉ้อโกงประชาชน ว่า คดีนี้ทุกคนไม่ได้รับการประกันตัว ทั้งนี้ มีผู้ต้องหา 9 คน ขณะนี้จับได้แล้ว 8 คน และอยู่ในชั้นกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (บ.ช.ก.) นอกจากนี้ ตนได้ตั้งคณะทำงานแล้ว ตนจึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน เพราะถือว่าคดีนี้เป็นคดีใหญ่ และมีผู้เสียหายหลายราย โดยต้องมีการสอบสวนความผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งเมื่อดูแล้วเรื่องนี้เป็นคดีฉ้อโกงประชาชน

ถามว่า มีกระแสข่าวว่า นพ.บุญ เดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เจ้าตัวอาจรู้ตัวก่อน แต่ผู้เสียหายเริ่มมาร้องทุกข์ทีหลัง ซึ่งตนคิดว่าเจ้าตัวมีเจตนาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า แบบนี้จะตรวจสอบเส้นทางการเงินได้หรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ยังไล่เส้นทางการเงินอยู่ เพราะยังไงเรื่องการฟอกเงินก็ต้องโดน ส่วนเรื่องการติดตามตัว กำลังดำเนินการอย่างเต็มที่ และประสานกับองค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ (อินเตอร์โพล) อยู่ ยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้มาก ยิ่งหากมีพฤติการณ์เรื่องฉ้อโกงหลอกลวงประชาชน ขยายวงกว้าง ทำให้เกิดการสูญเสียทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก

ถามว่า ประเทศปลายทางที่ นพ.บุญหลบหนีไปมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า กำลังสืบสวนอยู่ว่าอยู่ประเทศไหน และต้องดูสนธิสัญญาระหว่างกันว่าจะส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างไร ซึ่งขณะนี้กำลังประสานอินเตอร์โพลและสืบสวนเชิงลึกอยู่

ด้าน พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงการติดตาม นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ ผู้ต้องหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนเกี่ยวกับธุรกิจทางการแพทย์เสียหายกว่า 7,500 ล้านบาท ว่า จากที่มีกระแสข่าวว่า หมอบุญ เดินทางออกจากประเทศไทย ไปยังประเทศจีน ตั้งแต่เดือนกันยายนนั้น จะต้องมีการตรวจสอบแหล่งที่อยู่ให้ชัดเจนก่อน แต่เชื่อว่า มีการเตรียมการล่วงหน้า โดยระหว่างนี้ กองการต่างประเทศ อยู่ระหว่างจัดทำหมายแดง และประสานตำรวจสากล เพื่อให้ติดตามจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งหากประเทศใดมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็สามารถดำเนินการได้ทันที โดยในส่วนของประเทศจีนนั้น มีสัญญาส่งผู้ข้ามแดนระหว่างกันอยู่ อีกทั้งที่ผ่านมา ระหว่างสองประเทศมีความร่วมมือด้านต่าง ๆ ร่วมกันเป็นอย่างดี

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวว่า ขณะนี้ ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากพบหลักฐานพาดพิงถึงใคร ก็จะมีการออกหมายจับเพิ่ม  ส่วนที่มีการตั้งข้อสงเกตว่า หมอบุญ อายุมากแล้ว จะเอาเงินจำนวนมากไปทำอะไร ซึ่งอาจจะมีผู้ร่วมขบวนการเพิ่มเติมนั้น ย้ำว่า หากตำรวจพบใครเกี่ยวข้อง ก็จะออกหมายจับเพิ่มแน่นอน  

ส่วนที่ภรรยาหมอบุญอ้างว่า ถูกปลอมแปลงเอกสารลายมือชื่อ ก่อนมีการฉ้อโกงประชาชนนั้น พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า ขอตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ทั้งช่วงเวลาหย่าร้าง การประกาศโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การเซ็นสัญญาการกู้ยืมเงิน การลงลายมือเป็นพยาน รวมถึงเส้นทางการเงิน ตั้งแต่ผู้เสียหายโอนเงิน ทั้งเงินสด เช็ค และมีการโอนออกไปให้ใคร ก็ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม

รอง ผบช.น.กล่าวต่อว่า ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ตรวจสอบคดีตั้งแต่ปี 2566 ที่มีการแจ้งความคดีเกี่ยวกับเช็คเป็นแรก ว่าเหตุใดถึงล่าช้า แต่เมื่อถึงช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2567 เป็นต้นมา กลับพบว่า เริ่มมีผู้เสียหายมากขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ จนเชื่อว่า ไม่ใช่เพียงคดีเช็ค หรือกู้ยืมเงิน อีกทั้ง เมื่อตรวจสอบสิ่งก่อสร้างตาม 5 โครงการที่กล่าวอ้าง กลับไม่มีอยู่จริง จึงเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน และการโฆษณาชวนเชื่อ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล จึงเร่งรัดให้มีการออกหมายจับหมอบุญ และผู้เกี่ยวข้อง รวม 9 ราย พร้อมเชื่อว่า ยังมีเสียหายอีกจำนวนมาก ซึ่งหากประชาชนรายใดได้รับความเดือดร้อน หรือเป็นผู้เสียหาย ขอให้รีบมาแจ้งความทันที

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

จับโบรกเกอร์สาว ร่วมก๊วน 'หมอบุญ' คดีฉ้อโกงหลอกลงทุน

จากกรณี นพ.บุญ วนาสิน กับพวก ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิด ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และความผิดอื่น ที่เกี่ยวข้อง เป็นคดีพิเศษที่ 136/2567 เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา

บริษัทแบรนด์เนม แจ้งตำรวจดำเนินคดี ‘ดิว-อริสรา’ ฉ้อโกงนำสร้อย Bvlgari  มาจำนำ

นายวิฑูรย์ เก่งงาน หรือ ทนายอ๋อง ทนายความของบริษัท แบรนด์เนม มันนี่ จำกัด พร้อมตัวแทนบริษัทฯ เดินทางมายัง สน.ปทุมวัน เพื่อแจ้งความดําเนินคดีกับ ดิว-อริสรา

เบิกตัว 'ทนายตั้ม-เมีย' กับพวก ขึ้นศาล ตรวจหลักฐานคดีโกง 'เจ๊อ้อย'

ศาลนัดตรวจหลักฐาน คดีหมายเลขดำอทย.109/2568 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ฟ้อง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

จำคุก 14 ปี ปรับ 7 หมื่นบาท 'นารา เครปกะเทย' ฉ้อโกงกล่องสุ่ม

ศาลจังหวัดราชบุรีพิพากษา จำคุก "นารา เครปกระเทย" 14 ปี ปรับ 7 หมื่น คดีฉ้อโกงกล่องสุ่ม ชี้จำเลยสำนึกผิดและขอผ่อนชำระค่าเสียหาย

เมีย-ลูก 'หมอบุญ' ขึ้นศาล ปฏิเสธข้อหาเเชร์ลูกโซ่

ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยในคดีหมายเลขดำ ที่อ.387/2568 ที่พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 5 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ , น.ส.ศิวิมล จาดเมือง , นางจารุวรรณ วนาสิน ภรรยาหมอบุญ