สืบนครบาลรวบ 'สมโคลท์ พันกระบอก' ขายปืนเถื่อนออนไลน์ ตกใจฉี่ราด

27 ธ.ค. 2567 – พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีนโยบายปราบปรามอาวุธปืน โดยเฉพาะทางโลกออนไลน์เพื่อป้องกันเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ ชุดลาดตระเวนออนไลน์ โดย ผู้การจ๋อ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) สืบตรวจพบนักค้าปืนเถื่อนเลื่องชื่อ “สมโคลท์ พันกระบอก” ภายใน 1 ปี ขายปืนเถื่อนกว่า 1,000 กระบอก กระจายทั่วประเทศ คนร้ายรู้ช่องทางในวงการค้าปืนเถือนเป็นอย่างดี ทำตัวไร้ร่องรอย พกอาวุธปืนข้างกายตลอดเวลา การเข้าจับกุมคาดว่าจะมีอันตรายพร้อมบวก จึงรายงานให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. (สส) สั่ง น.1 ลงดาบใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด “สมโคลท์ พันกระบอก” ล่าสุดถูกทีมสารวัตรแจ๊ะ สารวัตรพงษ์ บุกจับแบบฉับพลัน แท็กทีมรวบคนร้ายลงพื้นแบบไม่ทันตั้งตัว จนปัสสาวะราดกางเกง

พล.ต.ต.ธีรเดช , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ,พร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนจับกุม นายจิรวัฒน์ หรือ “สมโคลท์” อายุ 48 ปี ภูมิลำเนา ต.ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี โดยกล่าวหาว่า “จำหน่ายอาวุธปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดยไม่มีเหตุสมควร” พร้อมด้วยของกลาง 1.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก (บรรจุกล่องพัสดุพร้อมส่ง) 2.อุปกรณ์ส่วนควบปืนหลายรายการ 3.โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง (พบข้อมูลการซื้อขายปืนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 กระบอก) จับกุมตัวได้ที่ตลาดหนองหญ้าไซ ต.หนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี

สืบเนื่องจากชุดสืบสวนตระเวนออนไลน์ สืบตรวจพบนักค้าปืนเถื่อนชื่อ “สมโคลท์ พันกระบอก” ภายใน 1 ปี ขายปืนเถื่อนกว่า 1,000 กระบอก กระจายทั่วประเทศ คนร้ายรู้ช่องทางในวงการค้าปืนเถือนเป็นอย่างดี ทำตัวไร้ร่องรอย พกอาวุธปืนข้างกายตลอดเวลา กระทั่งทราบว่าคนร้ายวนเวียนอยู่ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี-ชัยนาท-อุทัยธานี ตระเวนค้าปืนเถื่อนมาแรมปีหลายสิบกระบอกต่อวัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจงพื้นที่ที่กำลังถือกล่องพัสดุไปที่ร้านพัสดุใกล้ตลาด มีท่าทีระวังตัวอยู่ตลอด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่ซุ่มอยู่จึงพุ่งเข้าชาร์จเข้าจับกุม ตรวจค้นพบอาวุธปืน 1 กระบอก และจากการขยายผลก็พบข้อมูล ขายปืนเถื่อนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1พันกระบอก ในเวลาเพียง 1 ปีที่ผ่านมา

ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าปี 2553 ถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด จำนวน 10,000 เม็ด ติดคุกอยู่ 10 ปี เมื่อพ้นโทษออกมาปี 2563 หางานทำไม่ได้ ด้วยความที่ชอบเรื่องปืนตั้งแต่วัยรุ่นอยู่แล้ว จึงหากลุ่มเพื่อนเพื่อพูดคุยเรื่องปืน เมื่อพูดคุยกับเพื่อนแล้ว มีความรู้สึกว่าอาวุธปืนเป็นสิ่งที่คนต้องการ แล้วก็รู้สึกว่าอาวุธหาง่ายกว่าก่อนตนจะติดคุก จึงเห็นช่องทางหารายได้โดยการขายปืน เริ่มแรกเริ่มรับมาขายให้คนรู้จักได้กำไรกระบอกละ 1,000-5,000 บาท จากนั้นตนก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงการปืน ในฉายา “สม โค๊ว ซุปเปอร์ (380)” และตนภูมิใจกับชื่อนี้มาก โดยมีกลุ่มวัยรุ่นติดต่อขอซื้อปืนจำนวนมาก มีราคาตั้งแต่ 10,000-30,000 บาท ตนขายมาแล้วมากกว่า 1,000 กระบอก ทำให้มีรายได้หลายแสนบาท ที่เล็ดรอดหลบหลีกการสืบของเจ้าหน้าที่เพราะตนเป็นคนขี้ระแวง ตั้งแต่พ้นโทษมาก็มีประสบการณ์มากขึ้น จึงไม่มีใครจับตนได้ โดยช่วงนี้ที่ถูกจับกุมตนเองทราบว่าเป็นห้วงระดมเรื่องอาวุธปืน จึงไม่ได้เดินแรง ตนเองก็คาดไม่ถึงว่าจะมาถูกจับกุมในกระบอกสุดท้ายที่ค้างสต็อกนี้ ส่วนน้ำที่เป้ากางเกงคือปัสสาวะ เนื่องจากตกใจจากการชาร์จรวบตัวของเจ้าหน้าที่

ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากการสืบสวนในห้วงเวลาเพียง 1 ปีที่ผ่านมา คนร้ายรายนี้ส่งขายปืนเถื่อนไปทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 1,000 กระบอก จนเป็นที่รู้จักอย่างดีในวงการนักค้าปืนเถื่อน ถือได้ว่าเป็นต้นต่ออาชญากรรมรุนแรงที่เกิดขึ้น และที่น่ากลัวเห็นจะเป็นประสบการณ์และทักษะของคนร้ายรายนี้ ที่สามารถตัดช่องทางการสืบสวนได้อย่างมืออาชีพ ทำให้สามารถลอยนวลไร้หมายจับมาจนถึงปัจจุบัน โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดในการปราบคนร้ายรายนี้ จนเราต้องระดมกำลังหลายนายในการไล่ล่าติดตามคนร้ายรายนี้ จนสามารถจับกุมได้ในที่สุด และขอฝากเตือนผู้ซื้อ-ขายปืนออนไลน์ มีความผิดทั้งผู้ขายและผู้ซื้อ ผู้ซื้ออาวุธปืนออนไลน์มีความผิดฐาน “ซื้อ มี ใช้ สั่ง หรือนำเข้า อาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืน โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000-20,000 บาท ส่วนผู้ขายมีความผิดฐาน “ทำ ประกอบ มี หรือจำหน่ายอาวุธปืน หรือเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” มีโทษจำคุกตั้งแต่ 2-20 ปี และปรับตั้งแต่ 4,000-40,000 บาท” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวคนร้ายพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ดำเนินคดีต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'บิ๊กโจ๊ก' ระทึก! เปิด 3 แนวทางพิจารณา ผลสอบวินัยร้ายแรงเอี่ยวเว็บพนัน

พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กับพวกรวม 5 คน พัวพันเว็บพนันออนไลน์

'บิ๊กอ้วน' ลุยปัตตานี ถก กอ.รมน.ภาค 4 ปรับยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ใหม่

'บิ๊กอ้วน' ลงพื้นที่ปัตตานี ถก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า รับฟังความเห็นผู้ปฏิบัติงาน ก่อนปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ภาคใต้ใหม่ เน้นการพัฒนา

'ผบช.ภ.2' สั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 'ส.ต.อ.' ขับรถตราโล่ขนบุหรี่เถื่อน

พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2) กล่าวถึงกรณีรถตราโล่ติดสติกเกอร์ ภ.2 ประสบอุบัติเหตุ และพบว่าภายในรถมีบุหรี่ไม่มีอากรแสตมป์จำนวนหนึ่ง

สุดยื้อ! กู้ภัยปั๊มหัวใจช่วยทารก หลังแม่ชาวเมียนมาคลอดทิ้งกองขยะ

พ.ต.ท.ธัมมัญชิษฐ์ สิทธิศาสตร์ สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนงานก่อสร้างคลอดลูกทิ้งไว้ ภายในห้องพักแคมป์คนงานก่อสร้าง

งามหน้า! ตร.ภาค2 ใช้รถตราโล่ขนบุหรี่เถื่อน ความแตกรถเกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟ

ตำรวจภาค 2 ฉายเดี่ยวใช้รถตราโล่ขนบุหรี่เถื่อนเต็มรถ แต่รถเสียหลักลื่นชนเสาไฟฟ้าบาดเจ็บสาหัส ตำรวจท่าเลื่อนยึดบุหรี่หลายร้อยแท่งส่งสรรพมิตดำเนินคดี ส่วน ผกก. รับเป็นตำรวจจริง

ตำรวจยิง ‘เอ๋ ลาย’ พ่อค้ายาเสพติดบาดเจ็บ หลังไล่ล่าดวลปืนสนั่น ยึดยาบ้า-ไอซ์

พ.ต.ท.ประยูร ปัตตุลี รอง ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พ.ต.ต.วีระพันธ์ บุญหนัก สว.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.)