25 ม.ค.2568 - พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีแก๊งตำรวจนอกรีต และทหารพราน พร้อมพวก อุ้มหนุ่มจีน 7 คน รีดค่าไถ่ ถูกจับกุมยกแก๊งในพื้นที่ สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ว่า กรณีดังกล่าวได้รับรายงานจาก สภ.พิบูลมังสาหาร ว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร ได้รับแจ้งจากบุคคลชาวลาวผ่านทางแอปพิเคชันเฟซบุ๊ก ว่ามีกลุ่มบุคคลชาวต่างชาติ (ชาวจีน) ถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว และควบคุมตัวเอาไว้บนรถยนต์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2568 โดยเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวต่างชาติทั้งหมด และถูกนำมาควบคุมตัวเอาไว้ภายในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร จึงได้ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง วางแผนเข้าช่วยเหลือเหยื่อชาวจีนได้ทั้ง 7 ราย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย ประกอบด้วย ร.ต.ต.ประทีปฯ รอง สว.(สส.) กก.3 บก.ส.2 , ด.ต.ธีระพงษ์ฯ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ส.2 , จ.ส.ต.จักรกาวุธฯ ผบ.หมู่ กก.ตชด.12 , จ.ส.ต.ธีรวัฒน์ฯ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ส.2 , จ.ส.อ.สุมนัสฯ สังกัดกรมทหารพรานที่ 23 , นายอนุวงค์ฯ , นายกฤษรินทร์ฯ และ นายอ่าว จอ มิน สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางยานพาหนะรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 4 คัน
เบื้องต้นสอบสวนทราบว่าเจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุได้ควบคุมตัวผู้เสียหายทั้งหมดขึ้นรถ แล้วใช้แอปพลิเคชันแปลภาษาพูดข่มขู่เรียกเงินจากผู้เสียหาย 5,000,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว ภายหลังได้ต่อรองเหลือคนละ 500,000 บาท ก่อนที่ผู้เสียหายจะติดต่อเพื่อนชาวจีนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อนำเงินมาไถ่ตัวจำนวน 3,000,000 บาท และแอบเก็บโทรศัพท์ไว้ เพื่อติดต่อและส่งตำแหน่งให้เพื่อนชาวจีนแจ้งตำรวจชุดจับกุมเข้าช่วยเหลือ
นอกจากนี้ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการเด็ดขาดให้ พล.ต.ต.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผบก.กค.ภ.3 รรท.ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือ พร้อมขยายผลไปยังตัวการว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดอื่นอีกหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้มีตำรวจร่วมกระทำผิดหลายหน่วย ได้แก่ ตำรวจสันติบาล 3 นาย และตำรวตระเวนชายแดน 1 นาย ได้เร่งให้ทางหน่วยรายงานพฤติการณ์ พร้อมความเห็นการให้ออกจากราชการ เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อสั่งการต่อไป
ทั้งนี้ การจับกุมดังกล่าวถือเป็นหนึ่งใน 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยหากเจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพัน รู้เห็นเป็นใจ หรือแม้กระทั่งเพิกเฉย ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจในการทำหน้าที่ จะต้องถูกพิจารณาทางปกครอง วินัย และอาญา อย่างเด็ดขาดทุกราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาจริงเอาจังเรื่องนี้ทุกมิติ ได้กำชับหน่วยให้คุมเข้ม 7 มาตรการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ระทึก! ตร.ไล่ล่า 3 พ่อค้ายา ซิ่งหนีตาย เจอฉลามบกรวบ
พ.ต.ท.อภิชาติ วงษ์ศรี สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 5 (ทล.3 กก.5) สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ยุทธ จตุรชัยภิญโญ สว.ทางหลวง, ร.ต.ต.สินจัย เจียรเพชร
แห่ฝากบ้านกับตำรวจ 3 พันหลัง 'บิ๊กต่าย' สั่งตรวจตราเข้ม
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 นี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
โปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชฯ อดีตข้าราชการตำรวจ 6 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิ
ตำรวจเปิดตัว 'ของขวัญปีใหม่' 4 โครงการ ดูแลปชช.ช่วงเทศกาล
'ผบ.ตร.' กำชับ 3 มาตรการ ดูแลประชาชนช่วงเทศกาล พร้อมเปิดตัวของขวัญปีใหม่ 4 โครงการ 'Police Care - ฝากบ้าน - Cyber Check – ห้องพักทั่วไทย'
'ช่อ' หอบหลักฐานแจ้งความ 'นักการเมือง-IO' โพสต์บิดเบือน ยันไม่เคยบอกให้ทหารเปิดแผนการรบ
พรรณิการ์ วานิช กรรมการคณะก้าวหน้า แจ้งความกรณีมีการเผยแพร่ข้อความบิดเบือนที่ตนไปพูดในรายการหนึ่ง
ตร.คุมเข้มรอบ 'สุวรรณภูมิ' ผวาโดรนปริศนาใกล้สนามบิน
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว พร้อมด้วยรองผู้กำกับการฝ่ายป้องกันและปราบปราม ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนสุวรรณภูมิสาย 3

