ศาลชี้คดีมีมูลรับฟ้อง 'ผู้การแต้ม' ฟ้องกลับ 'บิ๊กโจ๊ก' ให้สัมภาษณ์สื่อหมิ่นประมาท

แฟ้มภาพ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม

10 ก.พ.2568 - ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องในคดี ที่ พลตำรวจตรี วิชัย สังข์ประไพ หรือผู้การแต้มยื่นฟ้อง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีต รอง ผบ.ตร.ยื่นฟ้อง ในความผิดฐานหมิ่นประมาท

คำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2567 จําเลยได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนหลายสํานัก เผยแพร่ทาง โทรทัศน์และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งการสัมภาษณ์ดังกล่าว จําเลยได้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะใส่ความซึ่งถ้อยคําว่า “กูรูทางกฎหมายรู้จริงบ้าง ไม่รู้จริงบ้าง” ดังกล่าว หมายถึง โจทก์ซึ่งเป็นผู้ ทรงคุณวุฒิทางกฎหมาย เคยเป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร (ข้าราชการ การเมือง) และเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยโจทก์ได้รับหน้าที่ดูแลหลายด้าน รวมถึงด้านกฎหมาย

ปัจจุบันโจทก์มีอาชีพเป็นสื่อมวลชน ให้ความเห็นทางกฎหมายผ่านสื่อสาธารณะอยู่เป็นประจํา ซึ่งคําว่า “กูรูทางกฎหมาย” นั้น ประชาชนทั่วไปรับรู้ได้ว่าหมายถึงตัวโจทก์ เพราะในช่วงระยะเวลาที่จําเลยได้ให้สัมภาษณ์นั้น เป็นช่วงระยะเวลาเดียวกันกับที่โจทก์ได้รับการติดต่อจากสื่อมวลชน รายการทีวีหลายสํานักในการให้ไปเผยแพร่ความรู้ ความเห็นกรณีของจําเลยต่อสังคม ซึ่งเป็น เรื่องที่สื่อมวลชน และประชาชนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ทําให้ประชาชนทั่วไป ที่ได้รับชมหรืออ่าน

การให้สัมภาษณ์ของจําเลย ในคําว่า “กูรูทางกฎหมาย” ย่อมเข้าใจได้ทันทีว่าเป็นโจทก์ ถ้อยคําดังกล่าว ของจําเลยมีลักษณะเป็นการใส่ความโจทก์ว่าเป็นกูรูทางกฎหมายที่รู้ไม่จริง อันเป็นการลดความ น่าเชื่อถือหรือความเชี่ยวชาญความรู้ อ่านการให้สัมภาษณ์ของจําเลย แม้จําเลยจะไม่ได้เอ่ยชื่อโจทก์โดยตรง แต่ข้อความดังกล่าวมีลักษณะ เฉพาะเจาะจงถึงตัวโจทก์ ทําให้ประชาชนทั่วไปสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นโจทก์

ซึ่งภายหลังต่อมาเมื่อ วันที่ 28 มิ.ย.2567 จําเลยได้ยื่นฟ้องโจทก์ในคดีอาญาฐาน ความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ จึงเป็นการยืนยันว่าในการให้สัมภาษณ์ ความเห็นทางด้านกฎหมายของโจทก์ต่อประชาชนที่ได้รับชมหรือ ของจําเลยต่อสื่อมวลชนหลายสํานัก เป็นการจงใจใส่ความโจทก์อันเป็นเท็จต่อบุคคลที่สามจริง และถ้อยคําว่า “รับราชการตํารวจก็ไม่ประสบความสําเร็จ” ถ้อยคําดังกล่าวมีลักษณะ เป็นการใส่ความโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการตํารวจ ยศพลตํารวจตรี มีชื่อเล่นว่า “แต้ม” ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชนทั่วไปรู้จักโจทก์ในนาม “พลตํารวจตรีวิชัย” หรือ “ผู้การแต้ม” หรือ “รองแต้ม” หรือ “มือปราบหูดํา” ทําให้ประชาชนเข้าใจว่า โจทก์ไม่ประสบความสําเร็จทางราชการตํารวจ

โดยโจทก์เคยรับราชการตํารวจมาเป็นเวลากว่า 30 ปี เคยดํารงตําแหน่งรองผู้บัญชาการตํารวจนครบาล ได้รับรางวัล สืบสวนดีเด่นของกรมตํารวจ ปี 2539 รางวัลข้าราชการดีเด่นของสมาคมวิชาชีพผู้สื่อข่าวแห่งประเทศ ไทย ปี 2543 รางวัลปราบปรามยาเสพติดดีเด่นของ ป.ป.ส. จากสํานักนายกรัฐมนตรี ปี2545-2546 เป็นต้น

การที่จําเลยใส่ความว่าโจทก์รับราชการตํารวจก็ไม่ประสบความสําเร็จดังกล่าวเป็นเท็จ แม้จําเลยจะไม่ได้เอ่ยชื่อโจทก์โดยตรง แต่ข้อความดังกล่าวมีลักษณะชี้เฉพาะเจาะจงถึงตัวโจทก์ ทําให้ประชาชนทั่วไปสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นโจทก์

จําเลยจงใจหมิ่นประมาท ใส่ความโจทก์ จําเลยได้ให้สัมภาษณ์ในลักษณะใส่ความโจทก์ด้วย ถ้อยคําว่า “เดี๋ยวภายในวันศุกร์ เดี๋ยวฟ้องแน่นอน” “ก็หมิ่นประมาทไง พูดเยอะไง” ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ถาม จําเลยว่า “ก.ตร. กับอดีตนายตํารวจที่ท่านพูดถึงนี่คนละคนกัน” จําเลยก็รับว่าเป็นบุคคลคนละคนกัน และจําเลยยังให้สัมภาษณ์ต่อผู้สื่อข่าวอีกว่า “เดี๋ยวจะสอนมวยพวกกูรูหน่อย ๆ เดี๋ยวไม่บอกก่อน เอ่อ น่ะ จะสอนมวยพวกกูรู พวกๆ กูรูที่ ๆ อะไรเค้าเรียกว่า รู้เยอะอ่ะ พูดจนชาวบ้านงงไปหมดแล้ว

ซึ่งถ้อยคําว่า “เดี๋ยวภายในวันศุกร์ เดี๋ยวฟ้องแน่นอน” “ก็หมิ่นประมาทไง พูดเยอะไง” และจําเลยได้ยืนยันกับนักข่าวว่าบุคคลที่จะยื่นฟ้องมีอดีตตํารวจด้วย และถ้อยคําว่า “เดี๋ยวจะสอนมวย พวกกูรูหน่อย พวก ๆ กูรูที่ ๆ อะไรเค้าเรียกว่า รู้เยอะอ่ะ พูดจนชาวบ้านงงไปหมดแล้ว” ถ้อยคําดังกล่าว มีลักษณะเป็นการใส่ความโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการตํารวจยศพลตํารวจตรี เป็นเจ้าของกิจการค่าย มวย ชื่อว่า “ว.สังข์ประไพ” และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมาย โจทก์เคยเป็นที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการ จังหวัดกรุงเทพมหานคร (ข้าราชการการเมือง) และเป็นที่ปรึกษาให้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยโจทก์ได้รับหน้าที่ดูแลหลายด้าน รวมถึงด้านกฎหมาย อีกทั้งโจทก์ยังประกอบอาชีพเป็นสื่อมวลชน ให้ความเห็นทางกฎหมายผ่านสื่อสาธารณะอยู่เป็นประจํา ถ้อยคําดังกล่าวของจําเลยที่ประชาชนทั่วไป ได้รับชมหรืออ่านการให้สัมภาษณ์ของจําเลยนั้น ประชาชนทั่วไปสามารถรับรู้ได้ทันทีว่าเป็นโจทก์

ถ้อยคําดังกล่าวของจําเลยมีลักษณะเป็นการใส่ความโจทก์ว่า โจทก์เป็นอดีตตํารวจที่รู้เยอะ และการ เผยแพร่ให้ความรู้ทางกฎหมายของโจทก์ไม่น่าเชื่อถือ จนทําให้ชาวบ้านหรือประชาชนงงไปหมด ซึ่งได้ ลดทอนความน่าเชื่อถือทางวิชาชีพของโจทก์ และการกล่าวว่าจะสอนมวย และฟ้องฐานหมิ่นประมาท โจทก์ ทั้ง ๆ ที่โจทก์ก็เป็นเจ้าของกิจการค่ายมวย การให้สัมภาษณ์ของจําเลยเป็นการข่มขู่หรือทําให้เสื่อม เสียชื่อเสียงของโจทก์ แม้จําเลยจะไม่ได้เอ่ยชื่อโจทก์โดยตรง

จําเลย จงใจหมิ่นประมาท ใส่ความโจทก์ได้ให้สัมภาษณ์ต่อรายการ ชื่อว่า “THE STANDARD NOW” โดยได้เผยแพร่ทางโทรทัศน์และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งการสัมภาษณ์ดังกล่าว จําเลยได้ให้สัมภาษณ์ ในลักษณะใส่ความโจทก์ด้วยถ้อยคําว่า “แล้วมีกูรูด้านกฎหมายหลาย ๆ คน บางคนนะครับ ไม่ได้ประสบความสําเร็จเลย แถมตอนก่อนจะเกษียณหนีคดี ป.ป.ช. ด้วยซ้ํา นะ พูดทุกวันเนี่ย ๆ พูดไปพูดมา อ่าว หมิ่นประมาทผมจนได้”ซึ่งข้อความที่กล่าวเป็นการหมิ่นประมาทใส่ความโจทก์รวมถึงข้อความอื่นๆ

พิเคราะห์พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว เห็นว่า โจทก์เบิกความ ยืนยันข้อความตามคำฟ้องที่จำเลยให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนและมีการนำไปเผยแพร่ทางโทรทัศน์และสื่อออนไลน์อาทิ แอปพลิเคชันยูทูปสู่สาธารณะชนนั้น แม้จำเลยไม่ได้กล่าวถึงโจทก์โดยตรง แต่เมื่อนำถ้อยคำที่จำเลยกล่าวถึงมาประกอบเข้าด้วยกันแล้วทำให้บุคคลที่ได้รับชมอาจเข้าใจได้ว่าหมายถึงตัวโจทก์ อันมีลักษณะเป็นการใส่ความโจทก์ต่อบุคคลที่สามโดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ฟ้องโจทก์ครบองค์ประกอบความผิดคดีจึงมีมูลตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 328 ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา หมายเรียกจำเลยมาให้การตรวจพยานหลักฐานและกำหนดวันนัดสืบพยาน วันที่ 19 พ.ค.2568

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมว.สธ. ตอก 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดเว็บรับแจ้งศพน้ำท่วม ชี้วัดอะไรไม่ได้ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร

"พัฒนา​" เมิน​ "บิ๊กโจ๊ก" ปูด​ตัวเลขผู้เสียชีวิตน้ำท่วมใต้หลักพัน​ ชี้ตัวเลข​ 140 รายของสธ.​ ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง บอก​ หลักฐานชัดคือใบมรณะบัตร ตัวเลขในเว็บไซต์​ชี้ชัดอะไรไม่ได้

อีกแล้ว ‘โจ๊ก’ จะแฉข่าวใหญ่! หลังโผล่กองปราบ ยันไม่หนีคดีหมิ่น สตช.

อดีตรอง ผบ.ตร. เข้าพบพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง ระบุคดีนี้เป็นการแจ้งความเพื่อปิดปาก ย้ำยังไม่มีหมายเรียก-ไม่มีข้อหาใด พร้อมตั้งคำถามกลับถึงเหตุฟ้องร้อง ชี้ตล

'อนุทิน' เมินดรามา 'บิ๊กโจ๊ก' เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอกเรื่องปกติถูกโจมตี

นายกฯ เมิน ดรามา ‘บิ๊กโจ๊ก’เปิดแชทไลน์ผู้บริหาร สธ. คุยคนตาย บอก ‘ผมมาทำงาน อยู่แวดวงการเมืองมานาน’ มองเรื่องปกติถูกโจมตี

ผงะ 'บิ๊กโจ๊ก' นับได้ 550 ศพ! จี้นายกฯ เปิดเผยตัวเลขจริงของผู้เสียชีวิต

“บิ๊กโจ๊ก-สุรเชชษฐ์ หักพาล” จี้นายกฯอนุทิน เปิดเผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมอย่างตรงไปตรงมา ระบุข้อมูลที่มีนับได้ 550 ราย พร้อมขอให้รัฐเร่งจัดระบบส่งมอบศพ เยียวยา และอธิบายขั้นตอนช่วยเหลือให้ประชาชนเชื่อมั่น

'โจ๊ก' ฟาด 'อนุทิน' โยนอำนาจให้ ผบ.ทสส. คุมน้ำท่วมหาดใหญ่ จี้ต้องรับผิดชอบทุกศพ

พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เรื่องน้ำท่วมที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

'โจ๊ก' ถาม 'อนุทิน' ทำอะไรอยู่ เว็บพนันระบาดหนัก เรื่องซื้อขายเก้าอี้ตำรวจ ก็ไม่ตรวจสอบ

'บิ๊กโจ๊ก' ผิดหวังตัวแทนฝั่งตำรวจไม่เข้าแจงกมธ.ความมั่นคงฯ ฝากถึง 'อนุทิน' ตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เหตุเว็บพนันยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง