เปิดคำฟ้อง “หมอบุญ” กับพวก หลอกเงิน ประชาชน 1.6 หมื่นล้าน นำมาลงทุนทำโครงการทิพย์ ใช้ความน่าเชื่อถือจงใจเสนอดอกเบี้ยสูง ศาลนัดสอบคำให้การ 17 ก.พ.นี้
14 ก.พ.2568 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ4 ยื่นฟ้อง น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 13 คน ในฐานความผิดร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
โดยคำฟ้องระบุว่า นายแพทย์บุญหรือนายบุญ วนาสิน ได้อาศัยความน่าเชื่อถือเกี่ยวกับการประกอบอาชีพแพทย์การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกิจการโรงพยาบาลในนาม."โรงพยาบาลธนบุรี" มีกลุ่มธุรกิจให้บริการทางการแพทย์ ธุรกิจการบริการผู้ป่วยและเครื่องมือแพทย์ ธุรกิจโรงพยาบาล ในนามบริษัทธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ปจำกัด (มหาชน) หรือ(THG) มีโรงพยาบาลในเครือทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดรวมถึงดำเนินกิจการผ่านบริษัทในเครือ กิจการร่วมค้าและโรงพยาบาลที่รับจ้างบริหารและกิจการอื่นๆอีกจำนวนมาก ได้กระทำการระดมเงินทุนจากประชาชนและได้ไปซึ่งเงินและทรัพย์สินจากประชาชนจำนวนมาก ประมาณ 16,000 ล้านบาทเศษ โดยร่วมกับจำเลยที่ 1-13 และพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้แบ่งหน้าที่กันทำ ดังนี้
กลุ่มพนักงานบริษัทที่บริหารจัดการระดมเงินกู้ มีจำเลยที่ 1-4 กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง กลุ่มบุคคลในครอบครัวที่ร่วมกันทำสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน จำนำหุ้น จำนองที่ดิน ฯลฯเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการระดมเงินกู้ มีจำเลยที่ 5-7 กลุ่มตัวแทนนายหน้าเพื่อจัดการระดมเงินทุน มีจำเลย 8-13 กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง
ครั้นเมื่อระหว่างประมาณต้นเดือน ม.ค. 53 เวลากลางวัน ถึงวันที่ 15 ธ.ค.67เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกันจำเลยทั้งสิบสาม.และนายแพทย์บุญหรือนายบุญวนาสินกับพวกที่หลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกรรมต่างกัน กล่าวคือจำเลยทั้ง13 กับพวกดังกล่าวโดยทุจริตได้บังอาจร่วมกันหลอกลวงประชาชนโดยโฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนทั่วไปหรือแก่บุคคลตั้งแต่สิบคนขึ้นไป รวมทั้ง ผู้เสียหาย 605 ราย ผ่านช่องทางสื่อมวลชนและสื่อสังคมออนไลน์
มีการนำเสนอบทบาทและความสำเร็จทางธุรกิจในฐานะผู้บริหารระดับสูงที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นนักธุรกิจที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในวงการธุรกิจต่างๆ ทั้งในด้านการบริหารกิจการโรงพยาบาลและการพัฒนาโครงการที่มีมูลค่าสูงหลายโครงการ เช่น โรงงานผลิตถุงมือยาง (Thai MedicalGroups Co..LTD) โครงการซื้อและปรับปรุงอาคารสหไทย (ติดกับโรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง) โครงการศูนย์สุขภาพและที่พักอาศัย ระดับ 6 ดาว บนพื้นที่ 5ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบด้วย อาคารที่พักอาศัย 56 ชั้น 376 ยูนิตและศูนย์การแพทย์ 4 ชั้นโครงการ Jin Well Being county โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุบนพื้นที่ 140ไร่ริมถนนพหลโยธินรังสิตอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ประกอบด้วย อาคารที่พักอาศัย 13 อาคารรวม 1,300 ยูนิตและศูนย์สุขภาพโครงการ The Belleville Borom โครงการที่พักอาศัยบนถนนบรมราชชนนี โครงการสิริพาร์ควิวภูเก็ตโครงการ The Cha-am wellness cityโดยมีการใช้พื้นที่สื่อมวลชน ทั้ง สื่อสังคมออนไลน์ เพื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์โครงการดังกล่าวทั้งหมด
นอกจากนี้ยังได้นำเสนอแผนการลงทุน โครงการทั้งในและต่างประเทศเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ ซึ่งได้นำเสนอแผนการลงทุนโครงการต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็งตั้งอยู่พื้นที่ 9ไร่ ย่านปิ่นเกล้า งบประมาณ 4พันล้านบาท
2.โครงการสร้างศูนย์ดูแลสุขภาพเวลเนส เซ็นเตอร์ (Wellness Center) เนื้อที่ 5ไร่เศษ ย่านพระราม3 ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นอาคาร 52 ชั้น งบประมาณ 4,000-5,000ล้านบาท
3.โครงการสร้างโรงพยาบาลที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จำนวน3 แห่งๆ ละประมาณ 2,000 ล้านบาท
4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในประเทศเวียดนาม งบประมาณ4,000-5,000ล้านบาท
5.โครงการสร้าง medical inteligence ทำหน้าที่บริหารด้านไอทีให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อลดต้นทุนและปรับปรุงคุณภาพให้ดียิ่งขึ้นใช้งบประมาณ 1,600ล้านบาท
เมื่อจำเลยทั้งสิบสามกับพวกได้ร่วมกันนำเสนอบทบาทความน่าเชื่อถือของนายแพทย์บุญ หรือนายบุญ วนาสิน และโครงการทั้งห้าดังกล่าวแล้ว จึงได้ร่วมกันนำเสนอแผนการระดมเงินทุนในรูปแบบการกู้ยืมเงินจากประชาชนทั่วไปจำนวน 6 แผนการลงทุน ดังนี้
(1) การให้กู้ยืมเงินโดยไม่มีหลักประกัน (Clean Loan) โดยออกเช็คชำระหนี้ และ มีบุคคลอาวัลเช็คและมีผู้ค้ำประกัน (กู้แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน) กำหนดให้ผลตอบแทน ร้อยละ 8.5-15%ต่อปี
(2) การให้กู้ยืมเงินโดยอ้างว่าจะนำหุ้น บริษัทธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มามอบให้ผู้ให้กู้ โอนหุ้นให้ผู้ให้กู้) ให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ7-12 % ต่อปี
(3) การให้กู้ยืมเงินโดยอ้างว่าจะนำหุ้น หรือ เช็คมาค้ำประกัน (จำนำหุ้น) หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน ให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ 7-12% ต่อปี
(4) การให้กู้ยืมเงินโดยมีบุคคลหรือนิติบุคคลมาค้ำประกันให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ8.5-15 % ต่อปี
(5) การให้กู้ยืมเงินโดยนำใบหุ้นสามัญของบริษัทธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) THG มาค้ำประกัน โดยมอบให้ผู้ให้กู้ถือครองไว้ให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ7-12 % ต่อปี
(6) การร่วมลงทุน หุ้นไอพีโอ (IPO) หุ้นที่กำลังจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยอ้างว่าจะมอบหุ้นของบริษัทโรงพยาบาล ธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด ให้ผู้ให้กู้ โดยให้ผลตอบแทนประมาณร้อยละ 5-8% ต่อปี
การระดมทุนในรูปแบบการทำสัญญากู้ยืมเงินดังกล่าวจะกำหนดระยะเวลากู้เงินตั้งแต่ 3เดือน จนถึง 1ปี และกำหนดระยะเวลาชำระดอกเบี้ยเริ่มตั้งแต่ 15วันเป็นต้นไป จนถึง 6เดือน แล้วแต่กรณีซึ่งการระดมเงินทุนในรูปแบบดังกล่าวในช่วงแรกจะคืนเฉพาะดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์ตอบแทนเพื่อให้ผู้ให้กู้ยืมหรือผู้ลงทุนได้คงเงินทุนไว้ต่อไปหรือลงทุนเพิ่มเติมต่อไป
การเข้าร่วมลงทุนตามเงื่อนไขต่างๆ ตามที่จำเลยทั้ง 13 กับพวก ได้กล่าวอ้างดังกล่าวข้างต้น ผู้ลงทุนหรือประชาชนจะได้รับเงินคืนหรือผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละ7-15 ต่อปี ของเงินลงทุนต่อโครงการ ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึ่งจ่ายได้
การโฆษณาชักชวนประชาชนของจำเลยทั้ง13 ดังกล่าวข้างต้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น ซึ่งความจริงแล้วจำเลยทั้ง13กับพวก ไม่ได้นำเงินที่ได้จาการกู้ยืมเงินไปลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับโครงการทั้งห้าเนื่องจากโครงการต่างๆ ที่จำเลยทั้งสิบสามได้กล่าวอ้างไว้ ยังไม่มีการเริ่มก่อสร้างจริงเป็นเพียงแผนการลงทุนที่นำมาหลอกลวงประชาชนทั่วไปเท่านั้น และปรากฏว่ากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้ยืนยันว่าสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ไม่มีการอนุมัติโครงการก่อสร้างโรงพยาบาลและไม่มีข้อมูลการร่วมลงทุนระหว่างนายแพทย์บุญหรือนายบุญ วนาสิน หรือบริษัท ธนบุรีเฮลแคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG และบริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด เกี่ยวกับการสร้างโรงพยาบาลที่แขวงจำปาสัก หรือกรุงเวียงจันทร์ หรือกับนักธุรกิจจีน และโรงพยาบาลที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตามที่ได้กล่าวอ้างไว้แต่อย่างใด และการดำเนินโครงการเกี่ยวกับโครงการ 3 โครงการในประเทศไทย ก็ไม่ได้มีดำเนินการและไม่ปรากฏว่ามีการขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งจำเลยทั้งสิบสามกับพวก รู้อยู่แล้วว่า โครงการทั้งห้าโครงการดังกล่าวไม่ได้มีการประกอบธุรกิจจริงและมิได้ประกอบกิจการอย่างใดให้ได้รับผลตอบแทนคืนตามสัญญากู้ยืมเงินที่ได้ทำไว้กับประชาชนได้ และเมื่อหนี้เงินกู้ครบกำหนดตามสัญญาต้องมีการชำระเงินต้นคืนและผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามสัญญา จำเลยทั้งสิบสามกับพวกยังได้หลอกลวงให้ประชาชน ซึ่งเป็นผู้เสียหายกับพวกเข้าทำสัญญาให้กู้ยืมเงินฉบับใหม่ หมุนเวียนแทนฉบับเดิมเพื่อจูงใจว่าจะให้ดอกเบี้ยต่อไปหรือดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเดิม
โดยมีเจตนาที่จะไม่คืนเงินกู้ยืมให้กับผู้เสียหายกับพวก และจำเลยทั้งสิบสามกับพวก มีเจตนาหลอกลวงประชาชนที่หวังจะได้รับเงินตอบแทนในอัตราสูงให้นำเงินมาให้กู้ยืมเงินหรือลงทุนด้วย การใช้วิธีจ่ายเงินตอบแทนให้ในอัตราสูงเป็นเครื่องล่อใจ แล้วนำเงินที่ได้มาจากผู้ร่วมลงทุนรายอื่นๆจ่ายเป็นผลประโยชน์ให้แก่ผู้ร่วมลงทุนรายก่อนๆ ในลักษณะต่อเนื่องกันเป็นแชร์ลูกโซ่ และในที่สุดเมื่อไม่มีผู้ใดลงทุนเพิ่มทำให้ประชาชนจำนวนมากไม่ได้รับเงินคืน แต่อย่างใด อันเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน
จำเลยทั้งสิบสามกับพวก ได้ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและฉ้อโกงประชาชนให้ร่วมลงทุนในโครงการต่างๆ ได้สักระยะหนึ่ง ก็ไม่สามารถจ่ายเงินหมุนเวียนคืนให้แก่ผู้ร่วมลงทุนได้และไม่สามารถดำเนินการในโครงการต่างๆ ได้ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
การกระทำของจำเลยทั้งสิบสามกับพวกดังกล่าวที่ระดมเงินทุนในรูปแบบการทำสัญญากู้ยืมเงินจึงเป็นการรับเงินในลักษณะของการรับฝาก การกู้ การยืม การรับเข้าเป็นสมาชิก การรับเข้าร่วมลงทุนการรับเข้าร่วมกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจำเลยทั้งสิบสามกับพวกดังกล่าวจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนหรือตกลงว่าจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ให้ยืมเงิน อันเป็นการกู้ยืมเงินตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และในการกู้ยืมเงินดังกล่าว จำเลยทั้งสิบสามกับพวกจะจ่ายหรืออาจจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ตามพฤติการณ์แห่งการกู้ยืมเงินในอัตราเฉลี่ยประมาณ ร้อยละ ถึง 15 ต่อปีซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบันการเงินจะพึงจ่ายได้ ซึ่งในขณะเกิดเหตุอัตราดอกเบี้ยที่สูงที่สุด คือ อัตราร้อยละ 6.44ต่อปี โดยเป็นของบริษัท เครดิตฟองซิเอร์ ลินน์ ฟิลลิปส์ มอร์ทเก็จ จำกัดโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าตนจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นหรือรายอื่นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงินหรือโดยที่ตนรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่สามารถประกอบกิจการใดๆ โดยชอบด้วยกฎหมายที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนเพียงพอที่จะนำมาจ่ายในอัตรานั้นได้ และเป็นการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน
โดยการหลอกลวงดังกล่าวเป็นเหตุให้ จำเลยทั้งสิบสามกับพวกดังกล่าวได้กู้ยืมเงินและรับเงินไปในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินจากผู้เสียหายรวม 605 คน และประชาชนผู้ถูกหลอกลวงอีกจำนวนมาก ซึ่งรวมทั้งผู้เสียหายที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ในคดีนี้ จำนวน 605คน ซึ่งมีจำนวนเกินกว่าสิบคน และมีจำนวนเงินกู้ยืมรวมกัน เฉพาะที่มาร้องทุกข์ดำเนินคดีนี้รวมกันประมาณ 16,100,602,806 บาท (หนึ่งหมื่นหกพันหนึ่งร้อยล้านหกแสนสองพันแปดร้อยหกบาท) และได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้นเป็นเงินจำนวน 14,539,048,033.76 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันห้าร้อยสามสิบเก้าล้านสี่หมื่นแปดพันสามสิบสามบาทเจ็ดสิบหกสตางค์) อันเป็นการกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนและฉ้อโกงประชาชน และเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระกัน รวม 605 กรรมตามจำนวนผู้เสียหายที่แจ้งความร้องทุกข์ ดังมีพฤติการณ์กระทำความผิดดังกล่าวมาแล้วข้างต้น และมีรายละเอียดเกี่ยวกับ วันเวลากระทำความผิด จำนวนและรายชื่อผู้เสียหาย จำนวนเงินที่ผู้เสียหายแต่ละรายถูกฉ้อโกงไปปรากฏตามบัญชีทรัพย์ถูกประทุษร้าย
เหตุเกิดที่แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง ,แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร และหลายจังหวัดทั่วราชอาณาจักร เกี่ยวพันกัน
ชั้นสอบสวน จำเลยทั้งสิบสามให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3,4,5,9,12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา83,91 และ 343 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 พ.ศ. 2534 มาตรา3 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2526 มาตรา4 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา4
ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการโจทก์ ระบุด้วยว่า ขอให้ศาลมีคำพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิด และให้พวกจำเลยชดใช้เงินต้น และเงินร่วมลงทุนคืนแก่ผู้เสียหายแต่ละรายที่พวกจำเลยร่วมกันฉ้อโกงฯ พร้อมภาษีตามที่กฎมายนับแต่วันที่กู้ยืมเงินไปด้วย ส่วนการปล่อยชั่วคราวจำเลยขอให้อยู่ในดุลพินิจของศาล
ศาลอาญาพิจารณาแล้วให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำอ.387/2568และให้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำมาสอบคำให้การวันที่ 17 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น.
โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่ารายชื่อจำเลยที่ยื่นฟ้อง ทั้ง 13 คนประกอบด้วย น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ , น.ส.ศิวิมล จาดเมือง , นางจารุวรรณ วนาสิน ภรรยาหมอบุญ , นางนลิน วนาสิน ลูกสาวหมอบุญ , น.ส.อัจจิมา พาณิชเกรียงไกร , นายภาคย์ วัฒนาพร , นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา , นายธนภูมิ ชนประเสริฐ , นางณวรา กุญชร ณ อยุธยา , น.ส.มาสฤดี คณาพิทักษ์พงศ์ , นายเนติวรรธน์ สุวรรณกูฏ , น.ส.นัญญากรณ์ ธรรมา และ น.ส.ชัญญ์ญาณ์ พุฒิพงศ์ชญาห์
ซึ่งทั้งหมดยังคงถูกควบคุมตัวในเรือนจำเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวตั้งเเต่ชั้นฝากขัง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จำคุก 5 ปี 'เอกลาภ ยิ้มวิไล' อดีตผู้บริหาร Zipmex ฉ้อโกงประชาชน สูญกว่า 1 พันล้าน
ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาคดีที่มีผู้เสียหายป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัท ซิปเม็กซ์ จำกัด ซึ่งเคยเป็นผู้ให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่โด่งดังและเป็นที่นิยมมากที่สุดรายหนึ่งของประเทศไทย
ทลายเครือข่าย 'บอสจีน' ลวงเศรษฐีระยองลงทุนร้านค้าในแอปฯ TikTok ปลอม สูญ 60 ล้าน
ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 (บก.สส.ภ.2) พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 (ผบช.ภ.2), พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2 และ พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 แถลงตำรวจภูธรภาค 2 ทลายเครือข่ายหลอกลงทุนออนไลน์
ดีเอสไอ สั่งฟ้อง 'หมอบุญ' กับพวก ฉ้อโกงประชาชน 605 ราย เสียหาย 1.4 หมื่นล้าน
ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)ได้รับโอนสำนวนการสอบสวนคดีอาญาจาก กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณี นพ.บุญ กับพวก ถูกกล่าวหาว่าร่วมกันกระทำความผิดตามพระราชกำหนดก
'อี้ แทนคุณ' นำผู้เสียหายร้องกองปราบเร่งจับตัว 'หมอบุญ' หวั่นคดีเงียบหาย
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ และคณะชมรมสันติประชาธรรมพาผู้เสียหายคดี นพ.บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช
'บอสพอล' โวยเหมือนถูกมัดมือมัดเท้า ย้อนถามผมผิดอะไร คดีนี้ไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว
เพจเฟซบุ๊ก "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอส พอล)" ของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และ แชร์ลูกโซ่ ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร
'แทนคุณ' แฉ 'หมอบุญ' เตรียมไปซุกบ้านในยุโรปเสวยสุข!
'แทนคุณ' เผยหมายจับล็อต 3 เครือข่าย 'หมอบุญ' เป็นกลุ่มเซล ปูดศุกร์นี้ คนใกล้ชิดหมอ จ่อคุยผู้เสียหายบางส่วนที่ตึกแถวรัชดา ชี้แทบเป็นไปไม่ได้กลับไทย แฉเตรียมหนีไปบ้านที่ยุโรป ประเทศ อ.