
สตม.ชี้แจง ‘สส.โรม’ ระบุไม่เก็บ Biometrics นักท่องเที่ยว 17 ล้านคนปี 67 ยันจัดเก็บข้อมูลเดินทางเข้า-ออกประเทศ มีระบบติดตามตรวจสอบ สามารถจับกุมบุคคลกระทำความผิด มีหมายจับ อยู่เกินกำหนดได้จำนวนมาก
22 ก.พ.2568-พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง รอง ผบก.ตม.3 ในฐานะโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ชี้แจงกรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กระบุสตม.ไม่ได้จัดเก็บข้อมูล Biometrics ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวน 17 ล้านคน เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมาซึ่งอาจเป็นโอกาสให้ทุนสีเทาแฝงตัวเข้ามาก่ออาชญากรรมในประเทศได้ว่า ปัจจุบัน สตม. คัดกรองและควบคุมคนต่างด้าว ที่เดินทางเข้าประเทศด้วยระบบสารสนเทศ หลายระบบ ได้แก่ ระบบ Biometrics ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลของทุกคนที่เดินทาง เข้า- ออก ประเทศได้ โดยก่อนอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศ จะมีการตรวจสอบว่าคนต่างด้าวเป็นบุคคลต้องห้าม บุคคลที่มีหมายจับ หรือเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์
จากฐานข้อมูลที่ สตม.ได้รับแจ้งและจัดเก็บไว้จากหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศหรือไม่ หากคนต่างด้าวไม่มีลักษณะต้องห้าม จะอนุญาตให้เข้ามาในประเทศ ซึ่งข้อมูลการ เข้า-ออก ประเทศของคนต่างด้าวนี้ สามารถตรวจสอบได้ว่าเดินทางเข้ามาในประเทศเมื่อใด ช่องทางใด ด้วยวัตถุประสงค์หรือวีซ่าประเภทใด และเดินทางออกเมื่อใด ช่องทางใด
ต่อมาเมื่อคนต่างด้าวได้รับอนุญาตให้เข้ามาในประเทศแล้ว สตม. ใช้ ระบบสารสนเทศอีกระบบหนึ่ง คือ ระบบ PIBICS ในการควบคุมคนต่างด้าว โดยเมื่อเข้าพักอาศัย ณ ที่ใด ภายใน 24 ชม. สตม.จะมีข้อมูลการรับแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวนั้น และหากคนต่างด้าวต้องการจะอยู่ในประเทศเป็นระยะเวลานาน โดยอยู่ในหลักเกณฑ์ที่สามารถต่อวีซ่าได้ คนต่างด้าวสามารถยื่นขอต่อวีซ่า ข้อมูลการอนุญาตต่อวีซ่าจะถูกบันทึกรายละเอียดไว้ในระบบนี้ทั้งหมด เช่น วัตถุประสงค์ในการอยู่ ระยะเวลาในการที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ สถานที่พัก สถานที่ที่ทำงาน ใบอนุญาตทำงาน รายได้ บัญชีเงินฝาก การเสียภาษี ฯลฯ ตลอดจนหากคนต่างด้าวมีครอบครัวเป็นคนไทย จะเก็บหลักฐานทางทะเบียนต่างๆ เช่น ทะเบียนสมรส ทะเบียนการจดรับรองบุตร เป็นต้น
นอกจากนี้ระบบยังมีการบันทึกข้อมูลที่พักของคนต่างด้าวเมื่ออยู่ในประเทศทุกๆ 90 วัน หากคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยแล้วต่อมาการอนุญาตสิ้นสุด( Overstay ) และไม่ได้มายื่นต่อวีซ่า สตม.สามารถตรวจสอบข้อมูลจากระบบสารสนเทศได้ว่าคนต่างด้าวผู้นั้นอยู่ในประเทศโดยผิดกฎหมาย ซึ่งจะเห็นได้จากผลการสืบสวนจับกุมของ สตม. มีผลการจับกุมคนต่างด้าวที่กระทำผิด บุคคลที่ต้องการตัว บุคคลตามหมายจับ หรือบุคคลที่อยู่เกินกำหนดอนุญาต ( Overstay) จำนวนมากอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยอาศัยข้อมูลจากระบบสารสนเทศดังกล่าวนี้
โฆษก สตม. กล่าวว่า ในกรณีที่ต่อมาภายหลังหากคนต่างด้าวมีการกระทำผิดกฎหมาย หรือ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานต่างๆ ว่าคนต่างด้าวนั้นมีลักษณะต้องห้าม จะมีการบันทึกรายชื่อคนต่างด้าวนั้นๆ ลงในบัญชีบุคคลต้องห้าม ( Blacklist ) ซึ่งการบันทึกข้อมูลต้องห้ามนี้จะถูกบันทึกลงในระบบฯ และมีการเก็บอัตลักษณ์ของคนต่างด้าวไว้เพื่อเปรียบเทียบ แม้ในกรณีที่คนต่างด้าวมีการเปลี่ยนแปลงเอกสารการเดินทาง ( Passport ) ในครั้งต่อไป เมื่อเดินทางกลับเข้ามาในประเทศก็สามารถตรวจสอบยืนยันได้ว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ทำให้สามารถปฏิเสธการเข้าเมืองได้ ซึ่งการบันทึกข้อมูลเพิ่มเติมในระบบลักษณะนี้ สามารถจัดเก็บได้อย่างไม่จำกัดจำนวน ดังนั้นจึงไม่เป็นอุปสรรคต่อข้อมูลที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคตแต่อย่างใด
ดังนั้น จากข้อมูลและข้อเท็จจริงทั้งหมดดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นได้ว่าระบบสารสนเทศ ของ สตม. ยังสามารถควบคุม ติดตามและตรวจสอบ คนต่างด้าว ที่เดินทางเข้ามาและอยู่ในประเทศได้ ส่วนกรณีข้อมูลของคนต่างด้าวที่ถูกบันทึกลงในระบบฯ ที่ยังไม่มี License นั้น มีการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์คนต่างด้าวตามปกติ เพียงแต่ในส่วนของการประมวลผลบางรายการ อาจลดประสิทธิภาพลงบ้าง แต่ไม่กระทบต่อการควบคุมคนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาและอยู่ในประเทศไทยในภาพรวมของ สตม. ทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้ สตม. ได้จัดทำโครงการระบบบริหารจัดการตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติ Thailand Immigration System (TIS) ซึ่งเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูง และหลายประเทศได้มีการใช้งานระบบที่มีลักษณะเดียวกันนี้อยู่แล้วมาทดแทน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'ผบช.นพศิลป์' สั่ง ตร.จัดกำลังคุมเข้มเคานต์ดาวน์ปีใหม่ ยกระดับความปลอดภัยสูงสุด
พล.ต.ท.นพศิลป์ นำทัพตำรวจวางกำลังเข้ม 522 นาย คุมความปลอดภัยงาน Asiatique Thailand Countdown 2026 คืนแห่งความสุข ต้องมาพร้อมความปลอดภัย ยกระดับมาตรการป้องกันเหตุและอำนวยความสะดวกจราจรขั้นสูงสุด
ระทึก! ตร.ไล่ล่า 3 พ่อค้ายา ซิ่งหนีตาย เจอฉลามบกรวบ
พ.ต.ท.อภิชาติ วงษ์ศรี สารวัตรใหญ่ สถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 5 (ทล.3 กก.5) สั่งการให้ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ยุทธ จตุรชัยภิญโญ สว.ทางหลวง, ร.ต.ต.สินจัย เจียรเพชร
แห่ฝากบ้านกับตำรวจ 3 พันหลัง 'บิ๊กต่าย' สั่งตรวจตราเข้ม
พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2569 นี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)
โปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชฯ อดีตข้าราชการตำรวจ 6 ราย
ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิ
ตำรวจเปิดตัว 'ของขวัญปีใหม่' 4 โครงการ ดูแลปชช.ช่วงเทศกาล
'ผบ.ตร.' กำชับ 3 มาตรการ ดูแลประชาชนช่วงเทศกาล พร้อมเปิดตัวของขวัญปีใหม่ 4 โครงการ 'Police Care - ฝากบ้าน - Cyber Check – ห้องพักทั่วไทย'

