ศาลมีคำสั่งรับฎีกาคดี 'ฤทธิรงค์' ฟ้อง สตช. ชดใช้ซ้อมทรมานปี 52

28 เม.ย. 2568 – เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลแพ่งกรุงเทพใต้นัดฟังคำพิพากษา/คำสั่งศาลฎีกา หลังจากนายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร (โจทก์) ผู้เสียหายจากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจซ้อมทรมานให้รับสารภาพเมื่อปี 2552 ได้ยื่นคำฟ้องฎีกา และคำร้องขออนุญาตฎีกา ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จำเลย) ได้ยื่นคำร้องคัดค้านฎีกาของโจทก์ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้อ่านคำสั่งศาลฎีกาตามวันเวลาที่กล่าวมาข้างต้น

ศาลฎีกามีคำสั่งว่า “ฎีกาของโจทก์เป็นปัญหาสำคัญที่ศาลฎีกาควรวินิจฉัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 จึงมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ฎีกาและรับฎีกาของโจทก์ไว้พิจารณา ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการให้จำเลยแก้ฎีกา เมื่อจำเลยยื่นคำแก้ฎีกาหรือครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ยื่นคำแก้ฎีกา ให้ศาลชั้นต้นรวบรวมสำนวนคืนศาลฎีกาเพื่อดำเนินการต่อไป”

ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้มีคำสั่งให้จำเลยยื่นคำแก้ฎีกาภายใน 15 วัน นับแต่วันนี้ ซึ่งคดีนี้พนักงานอัยการเป็นทนายความของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จำเลย)

สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2552 นายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ขณะศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ถูกตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรีจับกุมและซ้อมทรมานทำร้ายร่างกาย โดยใช้ถุงดำคลุมศีรษะให้ขาดอากาศหายใจ เพื่อบังคับให้รับสารภาพในคดีวิ่งราวทรัพย์ โดยฤทธิรงค์ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด ซึ่งต่อมาตำรวจและอัยการได้ดำเนินคดีอื่นที่กระทำผิดวิ่งราวทรัพย์ นายฤทธิรงค์จึงฟ้องดำเนินคดีอาญา ที่ศาลจังหวัดปราจีนบุรี ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้กระทำความผิดในกรณีซ้อมทรมานดังกล่าว คดีดังกล่าวมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าตำรวจยศพันตำรวจโท (ขณะเกิดเหตุยศพันตำรวจตรี) มีความผิดจริง

หลังจากนั้นนายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ได้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซ้อมทรมานซึ่งทางแพ่งเป็นกระทำละเมิดต่อตน ตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ พ.ศ. 2539 ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ949/2560 หมายเลขแดงที่ พ2003/2562

คดีนี้ที่ผ่านมา ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษาสั่ง สตช. ชดใช้ค่าเสียหายให้ฤทธิรงค์ จำนวน 3.38 ล้านบาท ฤทธิรงค์ได้ยื่นอุทธรณ์และศาลชั้นอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยพิพากษาให้ สตช. ชดใช้ค่าเสียหายเหลือเพียง 3.8 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 28 ม.ค. 2552 ถึงวันที่ 10 เม.ย. 2564 และอัตราร้อยละ 5 ต่อปีนับแต่วันที่ 11 เม.ย. 2564

ต่อมานายฤทธิรงค์ ชื่นจิตร ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นอุทธรณ์ จึงมีความประสงค์ยื่นฎีกา ขอให้ศาลสูงพิจารณาในความเสียหายที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 15 – 16 ปี โดยได้ยื่นฎีกาและคำร้องขออนุญาตฎีกา เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2567 และศาลได้มีคำสั่งยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลให้โดยไม่ต้องไต่สวน เนื่องจากเห็นตามคำร้องของโจทก์ว่ามีเหตุผลอันสมควรที่จะฎีกา และในชั้นอุทธรณ์ โจทก์ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมศาล เมื่อสถานะของโจทก์มิได้เปลี่ยนแปลงไป เชื่อว่าโจทก์ไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลในชั้นฎีกาจริง และโจทก์จะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร ศาลแพ่งกรุงเทพใต้จึงได้ส่งสำนวนคดีไปยังศาลฎีกา เพื่อศาลฎีกาจะได้พิจารณาคำร้องขออนุญาตฎีกา และคำฟ้องฎีกาของโจทก์ต่อไป

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอเชิญชวนสื่อมวลชนหรือประชาชนที่ให้ความสนใจติดตามความคืบหน้าทางคดีตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้น และติดตามการต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยวของครอบครัวชื่นจิตร ตลอด 15 -16 ปีที่ผ่านมา ว่ากระบวนการยุติธรรมจะคืนความยุติธรรมและเยียวยาความเสียหายที่เหมาะสมแก่ครอบครัวฤทธิรงค์ ชื่นจิตร หรือไม่เพียงใดต่อไป.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส

ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ เร่งฟื้นฟู 'หาดใหญ่'

'ผบ.ทสส.' สั่ง ศป.กฉ.ส่วนหน้า 8 ข้อ จัดระเบียบ ‘ศูนย์พักพิง-การแพทย์’ เร่งเปิดระบบ ‘ไฟฟ้า-ประปา’ แจกถุงยังชีพ-อาหาร มาตรการ รปภ. เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต ตั้งจุดรวบรวมขยะ 4 พื้นที่ ย้ายยานพาหนะกีดขวาง