29 เมษายน 2568 - ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร. และรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผอ.ศปชก.ตร.) พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และรองผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (รอง ผอ.ศปชก.สตม.) , พล.ต.ต. ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม. และเลขานุการ ศปชก.สตม.ร่วมแถลงข่าวผลการ “ปฏิบัติการรุกฆาตนักขนคน ครั้งที่ 2”
เพื่อกวาดล้างจับกุมขบวนการ เครือข่าย นำพา ช่วยเหลือ คนต่างด้าวให้หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย สามารถสืบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับได้รวม จำนวน 34 หมายจับ ผู้ต้องหา จำนวน 32 คน โดยทำการปิดล้อมตรวจค้นทั่วประเทศ จำนวน 60 จุด สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 27 หมายจับ ผู้ต้องหา จำนวน 25 คน เสียชีวิต จำนวน 1 คน 1 หมายจับ คงเหลือผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีกจำนวน 6 คน 6 หมายจับ พบความเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย จำนวน 5 ขบวนการใหญ่
1. ขบวนการลักลอบขนชาวเมียนมา พื้นที่ จว.ตาก เป็นกลุ่มเครือข่ายที่รับงานลักลอบขนชาวเมียนมาจากทางพื้นที่ จว.ตาก ลงมาพื้นที่ชั้นใน กทม. และปริมณฑล และบางส่วนขนชาวเมียนมาต่อไปทางภาคใต้ ปลายทางประเทศมาเลเซีย โดยพบความเชื่อมโยงจำนวน 5 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายนายไพทูลย์ฯ จว.สุราษฎร์ธานี, เครือข่ายนายกามารูดิง จว.สงขลา, เครือข่ายบังกอล์ฟ จว.ชุมพร, เครือข่ายนายธงทองฯ จว.ปทุมธานี และเครือข่ายหมอโพชิ จว.ลพบุรี และมีการจับกุมผู้ต้องหารวม 56 คน, ออกหมายจับ 33 หมายจับ, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 260 คน และตรวจยึดยานพาหนะ 15 รายการ
2. ขบวนการลักลอบขนชาวจีน พื้นที่ จว.ตาก เป็นกลุ่มลักลอบขนชาวจีนหลบหนีเข้าเมืองจากฝั่งประเทศเมียนมาเข้าประเทศไทยด้าน จว.ตาก แล้วพาเข้ามาสู่พื้นที่ กทม. และปริมณฑล หรือเดินทางต่อไปยังชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน กัมพูชา หรือลาว กลุ่มเครือข่ายที่เคลื่อนไหวในช่วงนี้ คือเครือข่ายนายสุทิวัสฯ ซึ่งถูกออกหมายจับเนื่องจากเป็นผู้ว่าจ้างรถขนชาวจีน และขณะถูกจับกุมพบเป็นผู้ขับรถขนชาวจีนหลบหนี เข้าเมือง จำนวน 2 คน เหตุเกิดในพื้นที่ จว.พระนครศรีอยุธยา โดยมีความเชื่อมโยงเครือข่ายนายวงศกรฯ นายหน้าแนวชายแดนคนสำคัญ ซึ่งเป็นเครือข่ายลักลอบขนชาวจีนโซนภาคเหนือ เชียงราย, น่าน, ตาก มีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารมากกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งได้จับกุมไปแล้วในปฏิบัติการรุกฆาตนักขนคน ครั้งที่ 1
3. ขบวนการลักลอบขนชาวเมียนมา พื้นที่ จว.กาญจนบุรี เป็นกลุ่มลักลอบขนชาวเมียนมาทางพื้นที่ จว.กาญจนบุรี เพื่อส่งต่อให้กลุ่มขนต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ และข้ามไปประเทศมาเลเซีย รวมถึงบางส่วนลักลอบขน เข้ามาพื้นที่ชั้นใน เช่น กทม .และปริมณฑล, จว.สมุทรสาคร, จว.ราชบุรี โดยมักใช้ยานพาหนะขนาดใหญ่ประเภทรถบรรทุก รถพ่วง ซึ่งจะลักลอบขนได้ครั้งละจำนวนมาก และไม่เป็นเป้าเฝ้าระวังของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยังใช้รถประจำทางเป็นพาหนะในลักลอบขนชาวเมียนมาด้วย โดยมีคนขับรถประจำทางร่วมขบวนการด้วย อีกทั้งพบข้อมูลและพิสูจน์ทราบผู้ทำหน้าที่นายหน้าแนวชายแดนทั้งไทย-เมียนมา และ ไทย-มาเลเซีย รวมไปถึงผู้ประสานงาน ผู้ว่าจ้างรถขน ผู้ดูแลจุดพักคอย ทั้งนี้ขบวนการนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 43 คน, ออกหมายจับ 24 หมายจับ, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 443 คน และตรวจยึดยานพาหนะได้ 14 รายการ
4. ขบวนการลักลอบขนชาวเมียนมา พื้นที่ จว.เชียงราย เป็นกลุ่มเครือข่ายลักลอบขนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง ที่มีพื้นที่เคลื่อนไหวอยู่ในภาคเหนือ จว.เชียงราย, จว.เชียงใหม่ ซึ่งมีพฤติการณ์ลักลอบขนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมือง จากพื้นที่ภาคเหนือมายังพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ปัจจุบันพบเครือข่ายที่เคลื่อนไหวอยู่ คือ เครือข่ายนายแก้วฯ จว.เชียงใหม่ ซึ่งพบพัวพันคดีตั้งแต่ปี 2567 ถึงปัจจุบัน ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ จำนวน 3 คดี โดยมีการจับกุมผู้ต้องหารวม 7 คน, ออกหมายจับ 5 หมายจับ, คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 31 คน และตรวจยึดยานพาหนะได้ 3 รายการ
5. ขบวนการลักลอบขนชาวบังกลาเทศ พื้นที่ จว.สระแก้ว เป็นกลุ่มเครือข่ายช่วยเหลือชาวบังกลาเทศหลบหนีเข้าประเทศไทยด้านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยชาวบังกลาเทศมีเป้าหมายลักลอบเพื่อข้ามไปยังประเทศมาเลเซีย ซึ่งจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยจะมีรถขนชาวบังกลาเทศจากพื้นที่ จว.สระแก้ว เข้ามายัง กทม. ที่เป็นจุดพักคอย และจะมีรถขนรับช่วงขนชาวบังกลาเทศต่อไปยังพื้นที่ภาคใต้ จนกระทั่งถึงชายแดนไทย-มาเลเซีย ในพื้นที่ จว.นราธิวาส ปัจจุบันพบเครือข่ายที่ยังคงเคลื่อนไหวคือ เครือข่ายเฮียไก่ อรัญประเทศ พบมีประวัติเกี่ยวข้องกับการจับกุมถึง 5 คดี ทั้งการจับกุมในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา, การจับกุมจากจุดพักคอยในพื้นที่ กทม. และการจับกุมในพื้นที่ภาคใต้ รวมมีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 14 คน, ออกหมายจับ 5 หมายจับ, คนต่างด้าว หลบหนีเข้าเมือง 56 คน และตรวจยึดยานพาหนะ 11 รายการ
พล.ต.ท.อิทธิพล เปิดเผยต่อว่า การรวบรวมข้อมูลขบวนการขนคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายจากการจับกุมของทุกหน่วยงานในสังกัด ตร. ผ่านหน่วยงานในสังกัด สตม. ทั่วประเทศ และได้นำมาวิเคราะห์ สถิติ สถานการณ์ รวมไปถึงการสืบสวนขยายผลเพื่อนำไปสู่การขออนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการ เครือข่าย โดยในห้วงปีงบประมาณ พ.ศ.2568 (1 ต.ค.2567 – 31 มี.ค.2568) มีสถิติการจับกุมดังนี้
1. จับกุมการลักลอบขนคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 184 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 193 คน (อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผล จำนวน 48 คดี และยุติการสืบสวนขยายผลแล้ว จำนวน 136 คดี) 2. จับกุมคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง รวมจำนวน 2,641 คน 3. ตรวจยึดยานพาหนะ รวมจำนวน 177 รายการ 4. สืบสวนขยายผลรวบรวมพยานหลักฐาน ศาลอนุมัติหมายจับ จำนวน 68 หมายจับ (จับกุมแล้ว 60 หมายจับ เสียชีวิต 1 หมายจับ และหลบหนี 7 หมายจับ) 5. ขยายผลพบมีความเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย จำนวน 22 เครือข่าย (อยู่ระหว่างการสืบสวน 13 เครือข่าย และยุติการสืบสวนแล้ว จำนวน 9 เครือข่าย)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ตร.สายตรวจคู่หูซิ่ง จยย. ไล่ล่ารถต้องสงสัย เสียหลักชนเกาะกลางถนน ดับ 1 สาหัส 1
พ.ท.ต.นพดล ไม้งาม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งรถสายตรวจจักรยานยนต์ สภ.เมืองพิษณุโลก เกิดอุบัติเหตุชนเกาะกลางมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บสาหัส 2 นาย
โถ! สาวคนสนิท 'อดีตเจ้าอาวาส' อ้างไม่รู้โอนให้ร้อยล้านเป็นเงินวัด
นายอนิสร รุ่งเรือง ทนายความของ น.ส.อรัญญาวรรณ วังทะพันธ์ นายหน้าเว็บพนันออนไลน์ให้ นายแย้ม อินทร์กรุงเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง
'เปรมชัย' นั่งวีลแชร์เข้า สน.บางซื่อ มอบตัวคดีตึกถล่ม ปิดปากเงียบ
นายเปรมชัย กรรณสูต กรรมการบริหารผู้มีอำนาจลงนามบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน
'ป.ป.ท.-ตำรวจ' ลุยค้นวัดไร่ขิง หาหลักฐานเพิ่มมัดอดีตเจ้าอาวาส ยักยอก 300 ล้าน
นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท.
มรดกเลือด! พี่ปืนโหดรัว 9 มม. ยิงน้องชายอาการสาหัส
ร.ต.อ.อนัน บุญเพชร รอง. สว.(สอบสวน) สภ.พรพรหม จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธปืนที่บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 7 ต.ท้ายสำเภา
'เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง' ยอมสึก! สารภาพโอนเงินหลักร้อยล้านให้นายหน้าเว็บพนันจริง
'เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง' ยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง รับโอนเงินให้สาวนายหน้าเว็บพนันกว่าร้อยล้าน 'บิ๊กเต่า' ยันพ้นจากพระโดยสมบูรณ์ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมในฐานะผู้ต้องหา