
4 ก.พ. 2565 – ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ จ.สงขลา หลังจากช่วงหัวค่ำวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมา คนร้ายลอบวางกับระเบิดบริเวณริมสะพานรถไฟในพื้นที่ ม.8 บ้านโคกม้า ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา และทำให้นายสุทธิศักดิ์ หมีนเส็น อายุ 44 ปี ชาวบ้านที่ออกหาปลาในบริเวณดังกล่าวเหยียบกับระเบิดเข้าอย่างจัง จนทำให้บาดเจ็บสาหัสขาขวาขาดเกือบถึงเข่า และแขนขวาเป็นแผลฉีกขาด โดยคาดว่าอาจเป็นการตอบโตจากกลุ่มก่อความไม่สงบ หลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อม และปะทะกับกลุ่มของ นายจีรศักดิ์ เพ็งเลาะ โดยวิสามัญไป 3 ศพ และจับกุมได้ 1 คน นั้น
ล่าสุดวันที่ 4 ก.พ. 65 ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ทั้งทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมทั้งชุดอีโอดี ฉก.ตชด. 43 และชุดสุนัขทหาร ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุชาวบ้านเหยียบกับระเบิดอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยมีการปิดกั้นพื้นที่ในรัศมีประมาณ 1 กิโลเมตร จากจุดเกิดเหตุ และปิดเส้นทางบริเวณแยกบ้านน้ำเค็ม-บ่อต้นแซะ ชั่วคราว เพื่อให้ชาวบ้านและผู้สัญจรไปมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เพื่อความปลอดภัย
และหลังจากเจ้าหน้าที่อีโอดี และชุดสุนัขทหาร ได้เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงเช้านั้น ปรากฏว่า เมื่อช่วงประมาณ 09.30 น. ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง ใกล้กับจุดที่ชาวบ้านเหยียบกับระเบิดเมื่อคืนนี้ และเบื้องต้นมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี ฉก.ตชด.43 ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย คือ ด.ต.วิศิษฎ์ บัวศรี และ ด.ต.สรชา อนุญาโต และกำลังช่วยกันนำส่งโรงพยาบาล และพบว่าเป็นกับระเบิดที่คนร้ายนำมาวางไว้ใกล้ๆ กับใต้รางรถไฟไม่ไกลจากจุดเดิมมากนัก ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวมากขึ้นไปอีก

นายหวังสติ อุดมดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.9 บ้านนำเค็ม ต.บ้านนา อ.จะนะ เผยว่า พื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุเป็นรอยต่อกันระหว่าง 4 หมู่บ้าน ของ ต.บ้านนา โดยที่ชาวบ้านเหยียบกับระเบิดติดเขตพื้นที่ ม.8 บ้านโคกม้า และชาวบ้านคนนี้เป็นคนในพื้นที่ ม.9 บ้านบ้านน้ำเค็ม ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2 กิโลเมตร
โดยชาวบ้านรายนี้จะทำงานรับจ้างต่างๆ ไม่เกี่ยงว่าจะเป็นงานอะไร เนื่องจากฐานะครอบครัวค่อนข้างลำบาก มีลูก 6 คน และปกติจะออกมาปลูกอ้อย ตัดอ้อย ในพื้นที่ริมคลองชลประทานใกล้กับสะพานรถไฟที่เกิดเหตุ รวมทั้งหาปลาตามแอ่งน้ำใกล้ๆ นั้นด้วย
และตอนเกิดเหตุเมื่อช่วง 6 โมงเย็นวานนี้ ทราบว่า คนเจ็บได้ออกไปหาปลายังจุดเกิดเหตุ และเหยียบกับระเบิดที่คนร้ายนำมาวางไว้จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และชาวบ้านที่ออกหาปลาอยู่ใกล้ๆ อีกคน ได้รีบกลับไปยังบ้านของคนเจ็บที่อยู่ไม่ไกลกัน เพื่อตามให้ลูกๆ มาช่วยกันอุ้มนำไปขึ้นรถจักรยานยนต์ไปส่งที่โรงพยาบาลจะนะ และล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
นอกจากนี้จากการพูดคุยกับ นางรอมเล๊าะ และหวัง อายุ 70 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ เผยว่า ลูกชายเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ต้องดูแลทุกคน รวมทั้งลูกๆ 6 คน และหลาน ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านรวมกว่า 10 คน และบ้านที่อยู่กันนั้น ก็ได้รับการช่วยเหลือตามโครงการบ้านคนจนที่ทางอำเภอจะนะ และ อบต.บ้านนา ให้การช่วยเหลือ โดยลูกชายจะทำงานรับจ้างแทบทุกอย่าง แม้กระทั่งขุดหาไส้เดือนสิบบาทยี่สิบบาทก็รับทำหมด รวมทั้งปลูกอ้อย ปลูกผัก ริมคลองชลประทาน และหาปลา ซึ่งทำทุกอย่างที่พอจะสร้างรายได้ให้มาเลี้ยงครอบครัวจนแทบไม่ได้หยุดทั้งกลางวัน และกลางคืน
แม่ของผู้บาดเจ็บระบุด้วยว่า หลังทราบเรื่องว่าลูกชายเหยียบกับระเบิดก็รู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก และต้องขาดเสาหลักในการดูแลครอบครัว และจากนี้ก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง และหากหน่วยงานใดจะช่วยเหลือก็แล้วแต่จะเมตตา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประณาม 'กัมพูชา' ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโจ่งแจ้ง
ทร.ประณามกัมพูชา ฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ล่อทหารไทยเข้าสู่ทุ่งสังหาร ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างโจ่งแจ้ง
วอนรัฐเร่งเคลียร์ 'ภูเขาขยะ' กลางเมืองหาดใหญ่ หวั่นโรคระบาด
ายวรพัทธ์ เจนวิศาลพงศ์ เจ้าของที่ดินจุดพักกองขยะ บริเวณสี่แยกไฟแดงสะพานดำ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งทางเทศบาลนครหาดใหญ่ มีการขอเช่าและใช้พื้นที่
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%
ปภ. ยืนยันผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา ยื่นขอรับเงินเยียวยา 9,000 บาทโดยไม่ใช้เอกสาร
ปภ. ยืนยัน เยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมสงขลา 9,000 บาท ยื่นคำร้องโดยไม่ต้องใช้เอกสาร รัฐอำนวยความสะดวก ลดขั้นตอนปฏิบัติ ท้องถิ่นจะใช้ฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์และการยืนยันจากพื้นที่

