‘ผู้ต้องขังชาวเมียนมาร์’ ใช้เชือกหูกางเกงผูกคอฆ่าตัวตาย บนโรงพักสำโรงใต้

6 ก.พ.2565-ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.วีระพล  ดอนหัวร่อ  รองสารวัตรสอบสวน สภ.สำโรงใต้ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุผู้ต้องขังชายชาวเมียนมาร์ ใช้เชือกผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขังชั้น 2 ของ สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จักรพงศ์  นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ และอัยการจังหวัดสมุทรปราการ ปลัดอำเภอพระประแดง แพทย์เวรโรงพยาบาลบางจากเดินทางไปตรวจสอบ  ที่เกิดเหตุภายในห้องขังพบศพนายสามเกียง  รัตนา อายุ 35 ปี สัญชาติเมียนมาร์  ผู้ต้องขัง ซึ่งถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อกลางเดือนพ.ย.2564 ในข้อหามียาเสพติดประเภทที่ 1 ยาบ้า และยาไอซ์ ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย  รวมทั้งหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งได้รับโทษตามกระบวนการของกฎหมายแล้วรอการผลักดันกลับประเทศ   นอนหงายเสียชีวิตอยู่ภายในห้องขังที่ลำคอมีรอยถูกรัดข้างตัวผู้ตายพบเชือกผ้าซึ่งเป็นหูของกางเกงเจเจสีขาววางอยู่ 1 เส้น แพทย์พร้อมอัยการ และปลัดอำเภอพระประแดง ได้ร่วมกันตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด  จึงได้มอบศพให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ 

พ.ต.อ.จักรพงศ์  นุชผดุง ผกก.สภ.สำโรงใต้ ได้กล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันนี้ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสิบเวร ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องขังได้โทรมาแจ้งว่า มีผู้ต้องขังชาวเมียนมาร์ ใช้เชือกหูกางเกงผูกคอตัวเองกับเหล็กลูกกรงห้องขังเสียชีวิตในห้องขัง  ซึ่งก็ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่สิบเวรว่า เมื่อช่วงสามทุ่มคืนวานนี้ ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตน่าจะเกิดอาการเครียดพยายามจะทำลายห้องขังโดยการใช้มือแงะลูกตาข่ายของห้องขังออกน่าจะหวังหลบหนี้ ทำให้ลูกกรงเหล็กเสียหายแต่ผู้ตายก็ไม่สามารถออกไปได้  ซึ่งเจ้าหน้าที่สิบเวรได้เห็นพฤติกรรมจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ภายในห้องขัง จึงขอกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไประงับเหตุ ซึ่งปกติแล้วเจ้าหน้าที่สิบเวรจะเข้าตรวจความเรียบร้อยห้องขังทุก ๆ 1 ชั่วโมงอยู่แล้ว ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นการเสียชีวิตในขณะอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีขั้นตอนตามกฎหมายได้เชิญท่านอัยการเชิญหมอและฝ่ายปกครองมาร่วมชันสูตรด้วย และจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่าเหตุการณ์ในครั้งเกิดขึ้นจากอะไร เนื่องจากจุดที่ผู้ต้องขังผูกคอมันเป็นมุมอับที่กล้องวงจรปิดมองไม่เห็น

ส.ต.ท.ธนพล  เสมอใจ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามทำหน้าที่สิบเวร เล่าว่า จากพฤติกรรมของผู้เสียชีวิตที่พยายามงัดลูกกรงห้องขังเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ ตนได้เรียกกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้ามาช่วยระงับเหตุและทำการย้ายผู้ต้องขังชาวไทยที่สติไม่ค่อยดีที่พยายามช่วยผู้เสียชีวิตงัดห้องลูกกรงห้องขัง ออกมาขังอีกห้องหนึ่งเพื่อไม่ให้เกิดชุลมุนมากกว่านี้ ซึ่งตอนแรกห้องขังที่เกิดเหตุมีผู้ต้องขังอยู่ด้วยกัน 3 คน เป็นผู้ต้องขังชาวกัมพูชา ผู้ต้องขังชาวไทย และผู้ต้องขังชาวเมียนมาร์ผู้เสียชีวิต ผู้ต้องขังที่จับแยกออกไปเป็นผู้ต้องหาชาวไทย ในห้องขังที่เกิดเหตุจึงเหลือผู้ต้องขังชาวกัมพูชา และผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องขังเพียงสองคน และในช่วงเวลาประมาณตีหนึ่งของวันนี้ตนได้เข้าไปตรวจห้องขังก็ยังพบผู้เสียชีวิตนั่งเล่นอยู่เป็นปกติ และมาพบอีกที่ขณะเข้าไปตรวจอีกครั้งเวลาตี่สองครึ่งพบว่าผู้ตายใช้เชือกผ้าหูกางเกงเจเจสีขาวผูกคอตัวเองกับลูกกรงห้องขังแล้ว ตนจึงได้ทำการปลดเชือกที่ผูกคอนำร่างของผู้เสียชีวิตลงมาและทำการปั้มหัวใจพยายามช่วยชีวิตแต่ไม่ทันผู้ตายเสียชีวิตก่อนแล้ว จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ต้องขังน่าจะเกิดอาการเครียดทีถูกควบคุมตัวอยู่นานกว่า 2 เดือน จึงพยายามที่จะแหกห้องขังหนี แต่ไม่สำเร็จจึงใช้เชือกหูกางเกงเจเจผูกคอกับลูกกรงห้องขังเฆ่าตัวตายอย่างไรก็ตามจะได้ทำการสอบสวนข้อเท็จจริงอีกครั้งเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด้ง สารวัตรหญิง ตม. หลัง 'ทนายตั้ม' แฉ!

พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 (ผบก.ตม.3) มีหนังสือคำสั่งกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3

'บิ๊กต่าย' ชี้ตำรวจไซเบอร์ยังต้องทำงานหนัก แม้ภาพรวมจับเว็บพนันได้เยอะขึ้น

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังไม่พอใจผลการปฏิบัติงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ก.ตร. ไฟเขียวแต่งตั้ง 43 นายพลสีกากี 'สุรพงษ์ ชัยจันทร์' ผงาดที่ปรึกษาพิเศษตร.

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เป็นประธานเพื่อประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2567 โดยมีวาระการคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษ

แม่ร้องสื่อ! พาลูก 2 คนเปลี่ยนนามสกุล เจอปลัดหญิงเก็บหัวคิวเพิ่ม

ผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับการร้องเรียนจากนายเศรษฐา เกิดโอภาส อายุ 39 ปี ว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วยน้องสาว