ผบ.ตร. ถกคดีฆ่าหนุ่มแคนาดาที่ภูเก็ต พบปืนใกล้ชายหาด เตรียมออกหมายจับเร็วนี้

10 ก.พ.2565 -  พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ติดตามคดีฆาตกรรมชาวต่างชาติ ที่ โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต  โดยมีพล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตพล.ต.ต.กฤษณ์ วาฤทธิ์ ผบก. ทท. 3  ,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ให้การต้อนรับและร่วมประชุมติดตามคดีฯ กับชุดสืบสวนฯ ณ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตจากกรณี นาย ซิง แมนดีฟ Mr.Singn Mandeep สัญชาติแคนาดา ถูกคนร้ายสองคน ใช้อาวุธปืน ยิงเสียชีวิต ทั่วทั้งร่างกาย พบปลอกกระสุนจำนวนมากตกในที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าวิลล่า A โรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลราไวย์ เหตุเกิด เมื่อวันที่ 4 ก.พ.65 เวลา 22.30น.ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้งมหาอาวุธปืนบริเวณชายหาดใกล้ที่เกิดเหตุ ตำบลราไวย์ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต  พบอาวุธปืนที่คาดว่าคนร้ายใช้ก่อเหตุ จำนวน 2 กระบอก  ได้แก่ 1.อาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติขนาด 9 มม.ยี่ห้อCZ  2.อาวุธปืนออโตเมติก ขนาด 9 มม.ยี่ห้อวอลเทอร์  อาวุธปืนทั้งสองกระบอกมีทะเบียนมีชื่อผู้ครอบครอง ผู้ต้องสงสัย 2คน หลบหนีออกนอกประเทศเวลา 18.30 น.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวว่า การติดตามการทำงานของทีมสืบสวนสอบสวนได้รายชื่อผู้ต้องสงสัย ซึ่งเชื่อว่า น่าจะสามารถรวบรวมพยานหลักฐานนำสู่การออกหมายจับได้ภายในไม่กี่วันนี้ในขั้นต้น ผู้ต้องสงสัยมี 2 ราย เป็นชาวต่างชาติทั้งคู่ ได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ได้ประสานกับตำรวจต่างประเทศอย่างใกล้ชิด ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันประกอบการสืบสวนสอบสวนขยายผลหาผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้ที่สั่งการ ผู้ที่ให้การสนับสนุน หรือเข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ทุกราย ถ้าอยู่ต่างประเทศต้องขอให้นำตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยตอนนี้จากเอกสารชั้นต้นยังตรวจสอบอยู่ว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอม แต่เอกสารที่แสดงตนเข้าประเทศไทยเป็นสัญชาติแคนาดา  เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนธ.ค. และออกไปเมื่อ 6 ก.พ. ไปหลายที่ต้องตรวจสอบทุกที่ที่เขาไป เขาออกไปในช่องทางปกติ โดยเครื่องบิน  เรารู้ที่หมายปลายทางหมดแล้ว เราเชื่อว่ามีผู้เกี่ยวข้องเบื้องต้นได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับ2 รายนี้ก่อน  ข้อมูลมากกว่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากต่างประเทศเป็นหลัก  ใน 2 คน ทราบข้อมูลชั้นต้นจากต่างประเทศ มี 1 รายที่มึประวัติการกระทำผิด แต่ไม่ร้ายแรงมากนัก ในส่วนหลักฐานเชื่อว่ามีพอภายใน 1-2 วันนี้จะพยายามเร่งรัดแต่ต้องทำให้ละเอียดมากกว่านี้อีกมาก มีงานอีกเยอะที่ต้องพิสูจน์ให้เห็น แรงจูงใจสาเหตุต่างๆรวมถึงคนสั่งการ คนเกี่ยวข้อง คนสนับสนุนทั้งหมด เราเชื่อว่าจะออกหมายจับได้ภายในไม่กี่วันนี้ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น  อาวุธปืนที่พบ ยี่ห้อ CZ อีกกระบอกเป็นวอลเทอร์ ทั้งสองกระบอกทราบชื่อผู้ครอบครองตามหลักฐานทางราชการหมดแล้ว  ขอเวลาในการตรวจสอบว่ามีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่อย่างไร ในเรื่องนี้ อาวุธปืนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเขาได้มาอย่างไร เราพบเลขทะเบียนผู้ครอบครองแล้วตัองตรวจสอบว่าอยู่ในมือคนร้ายได้อย่างไร คนที่เกี่ยวข้องจะมีสีหรือไม่มีสีถ้าเกี่ยวข้องเขาก็มีความผิดข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ที่ต่างประเทศได้คุยกันตลอด ทางแคนาดา เขายังอยู่กับเราตลอด ไม่ไปไหนทำงานด้วยกัน การสอบสวนของตำรวจ ใน 2 รายนี้เคยเป็นทหาร ข้อมูลต้องรอว่าเป็นรับจ้างแบบไหนอย่างไร ตอนนี้ยังไม่มีการควบคุมใคร ในชั้นต้น คนลงมือมาจากต่างประเทศผู้ที่เสียชีวิตเป็นคนต่างชาติ มาอาศัยในพื้นที่ในลักษณะนักท่องเที่ยว มาพักผ่อนอีกวันสองวันญาติผู้เสียชีวิตจะมาและที่ตกลงขั้นต้นจะส่งศพกลับไปที่อินเดีย คนที่เสียชีวิตเข้ามา เมื่อ 27 มกราคม 2565 เข้าเมืองไทย แต่คนร้ายมา 18 ธันวาคม 2564  รายละเอียดอยู่ที่การสืบสวนขยายผล วิธีการสั่งการ การวางแผน หาปืนมาไดัอย่างไรใครจัดหาให้ การใข้จ่ายเงินทำอย่างไรคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเราต้องดำเนินคดีทุกคน ทั้งในและต่างประเทศ การป้องกัน เรื่องนี้อย่างไรที่สำคัญสุดคือข้อมูลข่าวสาร กรณีแบบนี้ ข้อมูลข่าวสารเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เราไม่มีทางรู้ว่าคนไหนดีไม่ดีอย่างไร ต้องประสานกับประเทศเจ้าของสัญชาตินั้นๆ ได้พูดคุยกับประเทศแคนาดา ได้คุยกันแล้วว่าหลังจากนี้ต่อไปกรณีถ้าเป็นไปได้หรือไม่คนที่มีแนวโน้มหรือเป็นสมาชิกกลุ่มอาชญากรรมมีความเสี่ยงที่จะเข้ามาทำไม่ดี แจ้งให้เราทราบล่วงหน้าได้มั้ย จะทำแบบนี้กับทุกประเทศ  ทุกราย ต้องใช้เวลาพอสมควรเบื้องต้นจะเข้มงวดกฎหมายของเราช่วงโควิด เราผ่อนผันให้มีการอยู่เกินได้ เพราะว่าปัญหาจากการเดินทาง แต่ตอนนี้เราจะเข้มงวดการโอเวอร์สเตย์ ถ้าอยู่เกินแล้วไม่มีเหตุผลต้องส่งออกให้หมด ตอนนี้เริ่มดำเนินการไปแล้วหลายพื้นที่ ที่จะต้องเข้มข้นย้ำอีกครั้งในการข่าว ต้องมีข้อมูล ไม่ใข้อยู่ดีๆไปจับเขาส่งออกหรือกลั่นแกล้งเขา การปฏิบัติต้องละเอียดอ่อน ต้องแม่นยำเพราะถ้าผิดเพี้ยนจะ เสียหาย การปฏิบัติเราต้องดี กลับไปที่การประสานงาน ข้อมูลการสืบสวนก่อนเกิดเหตุ   ให้สตม.ไปทบทวนแล้ว ให้ดูคำสั่งที่สั่งไปทำตามนั้นได้หรือไม่ ทำไปแล้วเกิดปัญหาหรือไม่  พยายามทบทวนเรื่องพวกนี้ตลอดเวลา ผบ.ตร.กล่าวต่อไปว่า การทำพื้นที่ของเราให้ปลอดภัยใหัมาตรฐาน  สตช.มีโครงการเซฟตี้โซน เป็นพื้นที่เล็กๆได้คุยกับเจ้าหน้าที่ของเราได้สั่งการไปทุกกองบัญชาการแล้ว ว่า ตำรวจจะทำตัวเป็นผู้ประสานงาน  การดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ท่องเทึ่ยวตำรวจทำหน่วยเดียวไม่ได้ แต่จะดึงความร่วมมือของฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองท้องถิ่น อบจ.อบต. เจ้าของสถานที่ สมาคมท่องเที่ยว ส่วนราชการเกี่ยวข้อง กับพื้นที่ท่องเที่ยวต้องมาคุยกันทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยเราเคยมีบทเรียนสถานที่ท่องเที่ยวเปลี่ยวไกลไม่มีคนดูแล แล้วอาจอันตรายมีความเสี่ยง ไม่ปลอดภัยก็ปิด  ได้สั่งแต่ละพื้นที่ ผกก .สถานี ผู้บังคับการ ผู้บัญชาการต้องเป็นแกนกลางที่ประสานความร่วมมือ เพราะเราไม่มีกำลังไปยืนเฝ้า แหล่งท่องเที่ยวทุกที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าที่ไหนต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยอาจจะต้องของบจากท้องถิ่น ททท เอกชน เพื่อดูแลเรื่องนี้   เป็นงานใหญ่ถ้าคนไทยร่วมใจกันดูแลนักท่องเที่ยว  เชื่อว่าจะทำให้ประเทศเราดึงดูดความสนใจจากชาวต่างชาติที่จะมาใข้ขีวิต   และให้ทุกกองบัญชาการคอยประเมินผลและมาดูผลการปฏิบัติที่สั่งไปแล้วเป็นอย่างไรหลายจังหวัดทำได้ดี ไปดูที่ปราจีนบุรี ทำได้ดี และ ในส่วนของ ภูเก็ต ได้คุย กับผบช.ภ 8  กรณีเซฟตี้โซนต้องทำทั้งจังหวัด โดยเฉพาะจุดท่องเที่ยว 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผบ.ตร. เด้งรับลูก 'ก้าวไกล' สั่งสอบด่วน 'ส่วยรถบรรทุก'

ผบ.ตร. เด้งรับลูก 'ส่วยสติกเกอร์' เปิดรับข้อมูลพยานหลักฐานทุกช่องทาง พร้อมสั่งตำรวจทางหลวงตรวจสอบข้อเท็จจริงด่วน ฮึ่มผิดฟันเด็ดขาดทั้งอาญา วินัย และปกครอง

ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล เผยจะทำประชาพิจารณ์ ภูเก็ตเขตปกครองพิเศษ-เลือกตั้งผวจ.

นายสมชาติ เตชถาวรเจริญ ว่าที่ส.ส.จังหวัดภูเก็ต เขต 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นโยบายหลักของพรรคก้าวไกลในส่วนของภูเก็ตกำหนดไว้เรื่องการเสนอกฎหมาย การกระจายอำนาจ จะต้องทำประชาพิจารณ์เป็นลำดับ

ยกนิ้ว! ตร.จราจรทำคลอดสาวเมียนมา กลางล็อบบี้โรงแรม

พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร

ผบ.ตร. มอบรางวัลตำรวจ เข้าระงับเหตุคนร้ายชิงทรัพย์

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้มอบเกียรติบัตรโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ตำรวจสายตรวจ สภ.สาขลา เข้าระงับเหตุปล้นชิงทองได้อย่างทันท่วงที

ผบ.ตร. น้อมรับคำวินิจฉัยศาลรธน. ติวเข้มทุกหน่วยทำตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย ทันที

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังหน่วยปฏิบัติทุกหน่วยทั่วประเทศ เพื่อกำชับการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย