ชาวบางกลอยกว่า 70 คนป่วยโรคติดต่อ ยังไม่รู้สาเหตุ อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่ปวดกระดูก เข้าไม่ถึงการรักษา

แฟ้มภาพ

ชาวบ้านบางกลอยกว่า 70 คนล้มป่วยด้วยโรคติดต่อ ยังไม่รู้สาเหตุ อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่ปวดกระดูก เผยคุณภาพชีวิตย่ำแย่เข้าไม่ถึงสิทธิรักษาพยาบาล

27 ต.ค.2564 - นางสาวอัญชลี อิสมันยี ผู้ประสานงานภาคี #SAVEบางกลอย เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 21-23 ตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มเยาวชนบ้านบางกลอยได้ดำเนินการเก็บข้อมูลด้านสุขภาพของชาวบ้านบางกลอย(ล่าง)ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พบว่าชาวบ้านป่วยจำนวน 33 คน โดยเป็นผู้ใหญ่ 18 คนและ เด็ก 15 คน ซึ่งมีลักษณะอาการคล้ายกัน คือ เป็นไข้ อาเจียน ปวดท้อง วิงเวียน-ปวดหัว มีผื่นคัน ฯลฯ โดยจากการสอบถามพบหลายรายเป็นการป่วยเรื้อรังมานานกว่า 1 เดือน และบางรายติดโรคจากคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด นอกจากนี้ยังมีจำนวนชาวบ้านที่ป่วยจากการเก็บข้อมูลครั้งก่อนหน้าอีกประมาณ 40 ราย ที่อาการยังทรงตัวไม่ดีขึ้นหรือหายขาด ทำให้ขณะนี้มีจำนวนผู้ป่วยรวมกว่า 70 คน ทำให้ชาวบ้านมีความกังวลว่าอาจจะเป็นโรคติดต่อ จึงต้องการให้หน่วยงานสาธารณสุขเข้ามาตรวจรักษาชาวบ้านโดยละเอียด เพื่อหาสาเหตุของอาการป่วยที่แท้จริง เพื่อให้ชาวบ้านได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง

“คนป่วยมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หลายคนป่วยจนหายแล้วก็ยังกลับมาป่วยอีก บางคนเชื่อว่าเป็นอาการสะสมจากภาวะขาดสารอาหารมายาวนาน  หรืออาจเป็นผลกระทบจากความเครียดต่อปัญหาขัดแย้งกับอุทยานฯ บางคนกลัวว่าจะเป็นโรคติดต่อ เพราะอาการคล้ายมาเลเรียแต่ไม่ใช่ ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรแน่ ทำได้แต่กินยาสามัญประจำบ้านที่ได้รับแจก แต่ก็ไม่ดีขึ้น ก็ได้แต่นอนรักษากันเองอยู่ที่บ้าน” นางสาวอัญชลี กล่าว

นางสาวอัญชลี กล่าวต่อว่า ยังพบปัญหาอุปสรรคการเข้าไม่ถึงสิทธิการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียม เนื่องจากปัจจุบันชุมชนบ้านบางกลอยที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง อาจหลุดจากระบบสาธารณสุขขั้นพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) ทำให้ชาวบ้านต้องข้ามไปฝั่งบ้านโป่งลึก เพื่อไปใช้บริการสุขศาลาที่ดูแลโดยหน่วยตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) นอกจากนี้เวลาสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีลงพื้นที่หมู่บ้าน จะมาถึงแค่บ้านโป่งลึก ไม่ได้ข้ามไปเยี่ยมชาวบ้านในฝั่งบางกลอย อีกทั้งหลายครั้งที่ชาวบ้านถูกเลือกปฏิบัติและการถูกสื่อสรที่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาแสดงถึงความอคติ ยิ่งเป็นการผลักชาวบ้านให้ออกห่างจากระบบสาธาณสุข และยังเป็นการละเมิดสิทธิของชาวบ้าน

“เจ้าหน้าที่สุขศาลาบางคนก็ดี บางคนพอไปขอยาก็ไม่ให้ พอจะลงไปหาหมอที่แก่งกระจานหรือไปจังหวัดก็ต้องไปขออนุญาตสุขศาลาก่อน การพาคนป่วยไปโรงพยาบาลต้องมีเงินจ้างรถเที่ยวละ 2,000 บาท ไม่รวมค่าใช้จ่ายถ้าต้องนอนเฝ้าคนป่วย ลงมาแล้วจะได้รับการรักษาหรือไม่ และยังกลัวการตัดสินว่าความป่วยของชาวบ้านคือความผิดที่สร้างความเดือดร้อนให้สังคม เพราะเจอการเลือกปฏิบัติมาโดยตลอด เช่น กรณีชาวบ้านคนหนึ่งวิ่งหนีงูเห่าจนล้มแล้วซี่โครงหัก แต่ไม่กล้าไปหาหมอ และกรณีผู้หญิงตั้งครรภ์ปวดท้องแต่สุขศาลาตรวจไม่พบ ต้องลงมาตรวจข้างล่างเองพบว่าครรภ์เป็นพิษ หรือกรณีของน้องผู้หญิงคนหนึ่งที่มีอาการปวดท้องจึงไปตรวจ เจ้าหน้าที่กลับพูดว่าเป็นเพราะมีเพศสัมพันธ์บ่อย แต่ตอนหลังตรวจเจอเป็นเนื้องอกในมดลูก ถูกแสดงท่าทีแบบนี้เรื่อยมาสะสม ทำให้ชาวบ้านรู้สึกมีแผลในใจไม่มีสิทธิ จะกล้าไปโรงพยาบาลต่อเมื่อป่วยใกล้ตายจริงๆ” นางสาวอัญชลี กล่าว

นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย กล่าวว่า ชาวบ้านที่ป่วยส่วนใหญ่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ จึงแจ้งข้อมูลต่อสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรีรับทราบแล้ว และมีการประสานกลับมาว่าใน 2-3 วัน จะส่งทีมเข้ามาตรวจอาการชาวบ้านในพื้นที่ ในระหว่างนี้พยายามให้ชาวบ้านข้ามไปฝั่งบ้านโป่งลึกเพื่อรับการตรวจรักษาที่สุขศาลาก่อน เบี้องต้นทราบว่ามีการเจาะเลือดพบว่าไม่มีเชื้อไข้มาลาเรีย ส่วนถ้าคนป่วยที่อาการหนัก สุขศาลามีรถให้บริการส่งตัวผู้ป่วยอยู่แล้ว แต่บางครั้งถ้ารถไม่ว่างก็ต้องหารถไปเอง

“อาการป่วยของชาวบ้านคล้ายๆ ไข้หวัดใหญ่ ปวดตามข้อกระดูก ไม่ใช่มาลาเรียเพราะเจาะเลือดก็ไม่พบเชื้อ บางคนถ่ายท้องก็ต้องกินยา นอนพักผ่อนก็จะดีขึ้น เรื่องโควิดที่หมู่บ้านตอนนี้ไม่มี วัคซีนได้ทยอยฉีดได้มากกว่า 100 คนแล้ว แต่มีบางคนที่ยังไม่ยอมฉีด เพราะกลัวผลข้างเคียง” นายนิรันดร์ กล่าวและว่าการป่วยครั้งนี้ไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรแน่ และไม่เคยป่วยกันมาก่อน

อนึ่ง ปัจจุบันชาวบ้านบางกลอยล่างมีอยู่ราว 600 คน โดยครึ่งหนึ่งเป็นเด็ก ทั้งนี้ชาวบ้านบางกลอยถูกอพยพจากป่าใหญ่ 2 ระลอก โดยครั้งเมื่อปี 2539 อุทยานฯแก่งกระจานชักชวนโดยบอกว่าจะจัดสรรที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 7 ไร่ แต่กลับไม่ทำตามสัญญา จนชาวบ้านส่วนใหญ่ย้ายกลับไปอยู่ถิ่นเดิมในป่าใหญ่ และในครั้ง 2 เมื่อปี 2554 ภายหลังจากเจ้าหน้าที่สนธิกำลังกันในยุทธการตะนาวศรีซึ่งมีการเผายุ้งฉางและบ้านของชาวบ้านเพื่อกดดันให้ชาวบ้านออกจากป่าใหญ่ ทำให้ชาวบ้านบางกลอยทยอยเดินทางมาอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องในหมู่บ้านบางกลอยล่างโดยที่ชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ย่ำแย่มาโดยตลอด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แก่งกระจานอวดความลับธรรมชาติ 'กระโถนพระราม-เสือดำ'

แก่งกระจานมรดกโลกของไทยเผยความลับแห่งธรรมชาติ ชวนนักท่องเที่ยวสัมผัสสามปรากฏการณ์มหัศจรรย์ในช่วงเวลาสุดพิเศษ "กระโถนพระราม" บานตระการตา พบ "เสือดำ" อวดโฉม พร้อมปรากฏการณ์แสงลึกลับ ณ เขาพะเนินทุ่ง

‘สุชาติ’ สั่งเข้ม เพิ่มการลาดตระเวน ป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า หลังพบกะโหลกค่างจำนวนมากในผืนป่ามรดกโลก ‘แก่งกระจาน’

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนพบกะโหลกค่างเป็นจำนวนมากในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมอุปกรณ์ล่าสัตว์ นั้น ได้สั่งการให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนเพื่อป้องกันการลักลอบล่าสัตว์ป่า รวมถึงการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า

เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานผลิตที่นอน ในอำเภอเขาย้อย จ.เพชรบุรี จนท.เร่งระดมรถดับเพลิง

เมื่อเวลา 06.05 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บวัตถุดิบที่เป็นใยสังเคราะห์ในโรงงานผลิตที่นอน บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี

'กฤษฎา'ชนะเลิศ 'ช้าง ไทยแลนด์ จูเนียร์ กอล์ฟฯ2025' เยาวชนรอบคัดเลือกส.5 ที่สปริงฟิลด์ฯ เพชรบุรี

“น้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง” เปิดสนามพิสูจน์วงสวิงนักกอล์ฟเยาวชนต่อเนื่องปีที่ 11 ในโครงการ “Chang Thailand Junior Golf Circuit 2025” รายการแข่งขันกอล์ฟระดับประเทศที่สร้างเยาวชน สู่โปรกอล์ฟระดับโลก เพื่อเฟ้นหานักกอล์ฟเยาวชนฝีมือดี ชิงทุนการศึกษา รวมมูลค่ากว่า 500,000 บาท พร้อมต่อยอดเข้าฝึกในแคมป์ Chang Thailand Junior Golf Clinic ปั้นเยาวชนสู่โปรกอล์ฟระดับโลก

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ เดินหน้ามอบทุนการศึกษา จ.เพชรบุรี ในโครงการ “สานฝันการศึกษา” ปี 2568

วันที่ 20 มิถุนายน 2568 นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ร่วมกับมูลนิธิยังมีเรา และทีมงานสถานีข่าวท็อปนิวส์ ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี มอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนที่มีผลการเรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้โครงการ “สานฝันการศึกษา” ประจำปี