'ปัตตานี' เตือนเฝ้าระวัง 'ฝนถล่ม-คลื่นแรง' ตั้งแต่ 10-13 พ.ย.

“ปัตตานี” เตือนประชาชนให้เฝ้าระวังตั้งแต่ 10-13 พ.ย.นี้ที่จะเจอฝนตกหนัก คลื่นลมแรง และน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยได้กำชับ 9 ข้อให้ปฏิบัติตาม

10 พ.ย.2564 เพจ สนง.ประชาสัมพันธ์ จ.ปัตตานี โพสต์กราฟฟิกพร้อมเนื้อหาระบุว่า จังหวัดปัตตานี แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ ฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน นี้!!

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตรขอให้ประชาชน ที่อาศัยบริเวณชายฝั่ง
ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และคลื่นลมแรง ที่อาจเกิดขึ้นจังหวัดปัตตานี ขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอทุกอำเภอ และส่วนราชการ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้

1. ติดตามสถานการณ์ ปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยประสบอุทกภัย หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบ เช่น พื้นที่ในเขตเศรษฐกิจ พื้นที่ท้ายเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝาย ที่มีปริมาณน้ำมาก และพื้นที่เชิงเขา เพื่อประเมินสถานการณ์ วิเคราะห์แนวโน้มผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และแจ้งเตือนประชาชน เตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุได้อย่างทันท่วงที

2. ให้มอบหมาย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ แจ้งแนวทางการปฏิบัติเมื่อเกิด หรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยในพื้นที่ โดยกำหนดช่องทางการแจ้งเตือนข่าวสาร อาทิ หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน/ชุมชน วิทยุชุมชน สื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น รวมถึง ช่องทางการติดต่อสื่อสาร เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากภาครัฐได้ในทุกช่องทางอย่างต่อเนื่อง

3. อำเภอที่มีพื้นที่ติดทะเล ให้กำชับสถานประกอบการ/โรงแรม สื่อสารให้นักท่องเที่ยวระมัดระวัง และห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด

4. ให้สำนักงานประมงจังหวัดปัตตานี สำนักงานจ้าท่าภูมิภาคสาขาปัตตานี ดำเนินการตามมาตรการที่กำหนด ในการนำเรือเข้าที่กำบังและห้ามการเดินเรือช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเคร่งครัด

5. อำเภอที่มีแหล่งท่องเที่ยว ประเภท ถ้ำ/ น้ำตก ให้กำชับหน่วยงานรับผิดชอบ จัดเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัย กำหนดมาตรการในการแจ้งเตือน การปิดกั้นหรือห้ามบุคคลใด เข้าพื้นที่

6. ให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร ทรัพยากร เครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัย ให้เป็นไปอย่างรวดเร็วทันท่วงที

7. กรณีเกิดอุทกภัยในพื้นที่ ให้จัดชุดปฏิบัติการ เข้าคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่าง ๆ ตลอดจนจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในการประกอบเลี้ยง การแจกจ่ายถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

8. กรณีสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงในพื้นที่ ให้อพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้โดยทันที โดยให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชน จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ ต้องควบคู่ไปกับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ในการป้องกันและควบคุมโควิด-19

9. เมื่อสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหายในทุกด้าน อาทิ ด้านชีวิต ที่อยู่อาศัย พื้นที่การเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ สิ่งสาธารณูปโภค ฯลฯ และการช่วยเหลือ ฟื้นฟูตามระเบียบที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วน

ประชาชนชาวจังหวัดปัตตานี และในพื้นที่เสี่ยง ติดตามพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกกรมอุตุนิยมวิทยา และติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือ ได้ที่ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดปัตตานี (สำนักงาน ปภ.จังหวัดปัตตานี) โทร. 0-73-333208-9 ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784 สายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'ไทยภักดี' ไม่สนหลุดโพล! ลุยช่วยน้ำท่วม หาดใหญ่จบไปต่อปัตตานี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า เดินหน้าช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่แม้ไม่มีไทยภักดีในผลโพล

ปัตตานีวิกฤติ! น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนทะลักท่วมเมือง ฝนถล่มไม่หยุด โรงเรียนปิดหมดทั้งจังหวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 25 พ.ย. สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดปัตตานียังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง หลังจากมวลน้ำจากตอนเหนือจังหวัดยะลาไ

ปัตตานีอ่วม! ฝนยังถล่มท่วมทั้ง 12 อำเภอ ดับแล้ว 3 ราย

บริเวณเขื่อนปัตตานี อ.แม่ลาน เจ้าหน้าที่จำเป็นต้อง เปิดประตูระบายน้ำทั้ง 7 บาน เพื่อเร่งพร่องน้ำอย่างเร่งด่วน หลังมวลน้ำก้อนใหญ่จากตอนเหนือของ จ.ยะลา อ.กรงปีนัง และ อ.บันนังสตา