ชาวบ้านนัดถกอุทยานฯแก่งกระจาน เดินสำรวจป่าร่วมกัน ดูข้อเท็จจริงพื้นที่ไร่หมุนเวียน

26 ต.ค.2565 - นายนิยม เที่ยวพราย ชาวบ้านห้วยกระซู่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 25ตุลาคม2565 ชาวบ้านกะเหรี่ยงหนองหญ้าปล้องที่อาศัยอยู่รอบผืนป่าแก่งกระจาน กว่า 60 คน ซึ่งเป็นตัวแทนหมู่บ้านต่างๆ อาทิ บ้านลิ้นช้าง บ้านท่าเสลา บ้านพุน้ำร้อน บ้านห้วยเกษม บ้านห้วยกระซู่ บ้านสาลิกา ได้นัดรวมตัวและหารือกับนายสมเจตน์ จันทนา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ณ ศาลาอเนกประสงค์ ศูนย์อาบน้ำแร่พุน้ำร้อน ต.ยางน้ำกลัดเหนือ อ.หนองหญ้าปล้อง เพื่อหาทางออกในการจัดการพื้นที่ทำกินแบบไร่หมุนเวียนอย่างมีส่วนร่วม และพื้นที่เส้นแนวเขตอุทยานฯ เพราะที่ผ่านมาได้ความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านกับเจ้าหน้าอุทยานฯ ตลอดระยะเวลา 20ปี

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ชาวบ้านหนองหญ้าปล้องได้ร่วมกันส่งหนังสือถึงหัวหน้าอุทยานฯโดยระบุข้อเสนอว่า 1.ขอให้ยกเลิกคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินในรูปแบบแปลงรวมไร่ หมุนเวียนของชุมชนกะเหรี่ยง ตามคำสั่งอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 และแต่งตั้งคณะทำงานชุดใหม่ระหว่างเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกับตัวแทนชาวบ้านที่เรียกร้องขอให้มีการจัดทำแปลงรวมเพื่อไร่หมุนเวียนของชุมชน 2. ขอให้คณะทำงานร่วมกันพิจารณาจัดให้มีการเดินสำรวจเพื่อกำหนดแนวเขตพื้นที่ของ การทำไร่หมุนเวียน แนวป่าใช้สอยและป่าพิธีกรรมของชุมชน

3. ขอให้คณะทำงานพิจารณาร่วมกันในการกำหนดขอบเขตและเงื่อนไขในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่ไร่หมุนเวียน พื้นที่อยู่อาศัย พื้นที่สาธารณะประโยชน์ทางสังคม ป่าใช้สอยและป่าพิธีกรรม สำหรับวิถีวัฒนธรรม และกำหนดเป็นระเบียบของโครงการแปลงรวมเพื่อไร่หมุนเวียนของชุมชน เพื่อนำเสนอ ประกอบเป็นส่วนหนึ่งของโครงการอนุรักษ์และดูแลทรัพยากรธรรมชาติภายในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนำไปเสนอประกอบเป็นส่วนหนึ่งของพระราชกฤษฎีกาที่จะประกาศต่อไป 4. ขอให้จัดให้มีการหารือเพื่อพิจารณาข้อเสนอของชาวบ้านเพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมนางสุนีย์ บุญชูเชิด ชาวบ้านห้วยเกษมได้กล่าวว่า ในการจัดการพื้นที่ในรูปแบบแปลงรวมไร่หมุนเวียน ถ้าเจ้าหน้าที่รัฐจัดการพื้นที่ป่าไร่หมุนเวียนที่ชาวบ้านเสนอ ก็จะได้ประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากเจ้าหน้าที่จะจัดการพื้นที่ให้ชาวบ้านได้แล้วเสร็จ ก็จะได้ผืนป่าเพิ่มขึ้นโดยไม่ต้องทำอะไรเลย และกฎระเบียบในการจัดการพื้นที่นั้น ต้องมีการจัดการระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและชุมชนร่วมกัน

นายรุ่ง เสน่ติบัง ชาวบ้านชุมชนห้วยกระซู่ กล่าวว่า ได้ยื่นเรื่องการจัดการพื้นที่แปลงรวมแบบไร่หมุนเวียนไปแล้วหลายครั้ง แต่ว่ากลับไม่ได้รับการแก้ปัญหาเลย แม้ในพระราชบัญญัติ(พรบ.)อุทยานฯปี 2562 ยังระบุว่า การที่เจ้าหน้าที่จะรังวัดหรือทำอะไร ต้องให้คำนึงถึงวิถีชุมชนและต้องสอดคล้องกับวิถีชุมชนดั้งเดิม ดังนั้นการที่เจ้าหน้าที่ปฎิบัติตามกฎหมายก็ดีแล้วในระดับหนึ่ง แต่ยังขาดการมีส่วนร่วมในการจัดการพื้นที่ นอกจากนี้ พื้นที่แปลงรวมไร่หมุนเวียนที่เป็นวิถีดั้งเดิม ยังไม่ได้รับการจัดการใดๆทั้งสิ้น แล้วในการจัดการพื้นที่ตามโครงการของเจ้าหน้าที่ที่ผ่านมา ก็ไม่ขัดกับการจัดการในรูปแบบแปลงรวม ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีในการทำงานร่วมกับอุทยานฯ

น.ส.สุนิสา สาริลา ชาวบ้านชุมชนพุน้ำร้อนแต่มีที่ดินอยู่บ้านสาลิกา กล่าวว่า ไม่มีความเชื่อมั่นว่าทางอุทยานแก่งกระจาน จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ เพราะที่ผ่านมา ทางชาวบ้านได้ยื่นเรื่องเพื่อใช้สิทธิขอรังวัดที่ดินทำกินในรูปแบบแปลงรวม ไร่หมุนเวียน หลายต่อหลายครั้งแต่ไม่ได้รับความจริงใจ หรือสนใจ จากเจ้าหน้าที่อุทยานฯเลย แต่กลับมีหนังสือจากอดีตหัวหน้าอุทยานแก่งกระจานตอบกลับมาว่าชาวบ้านเสียสิทธิในที่ดินทำกิน เพราะไม่ยอมรังวัดที่ดิน ในระยะเวลา 240 วัน แต่ครั้งนี้ ถ้าทางอุทยานแก่งกระจานไม่สามารถที่จะจัดการได้ คงต้องไปยื่นเรื่องที่กระทรวงต่อไป

หัวหน้าอุทยานฯ ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า ตอนนี้ชาวบ้านก็มีแผนที่ของชาวบ้าน อุทยานก็มีแผนที่ของอุทยาน ในการจะแก้ไขปัญหานั้น ทางชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ จะต้องเดินสำรวจพื้นที่ร่วมกัน เพื่อจะได้รู้ว่าพื้นที่บริเวณไหนทำได้ และบริเวณไหนน่าจะขยับลงมา และพื้นที่แปลงรวมนั้นอยู่ตรงไหนที่ชาวบ้านร้องขอ โดยตนได้ลงพื้นที่มาแล้วเพราะอยากรู้ปัญหาที่แท้จริงที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นอยากได้คนที่ทำกินอยู่ในพื้นที่จริงๆ เป็นคนกะเหรี่ยงจริงๆ เป็นคนที่อยู่ในพื้นที่ดั้งเดิมจริงๆ และ ในการจัดการพื้นที่ของชุมชนนั้นมีกฎระเบียบในการจะดูแลที่ทำกินอย่างไร มีการดูแลป่าอย่างไร ชาวบ้านต้องเดินสำรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่เพื่อหาทางออกร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า หัวหน้าอุทยานแก่งกระจาน และชาวบ้าน ตกลงที่จะเดินสำรวจพื้นที่ทำกินดั่งเดิมและแปลงรวมไร่หมุนเวียน ในวันที่ 3-4-5 พฤศจิกายน 2565 ว่าเคยมีร่องรอยการทำกินหรือไม่ เพื่อนำมาพิจารณาว่าพื้นที่ใดสามารถทำกินได้ และบริเวณใดไม่สามารถทำกินได้ และพร้อมที่จะแต่งตั้งคณะทำงานร่วมกัน 2 ฝ่าย อย่างมีส่วนร่วม

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชมภาพสัตว์ป่าหายาก! 'เสือดำ' ปรากฏตัวบริเวณจุดชมผีเสื้อ อุทยานฯแก่งกระจาน

เพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โพสต์ภาพเสือดำพร้อมข้อความว่า เสือดำสุดสง่า! เดินอวดโฉมในจุดชมผีเสื้อ อุทยานฯ แก่งกระจาน ตอกย้ำความอุดมสมบูรณ์ แม้หมดฤดูผีเสื้อ

จนท.แก่งกระจาน เปิดภาพ 'ปูม่วงไหมทอง' พบเห็นยากพร้อมลูกเกาะเต็มท้อง

เจ้าหน้าที่อุทยานฯ แก่งกระจาน ตื่นเต้นกับการค้นพบปูม่วงไหมทองที่หายาก พร้อมลูกเกาะเต็มท้อง บริเวณฝายกิโลเมตรที่ 18 บ้านกร่าง

'นั่งเล4' สนุกสุดมันจนลืมเวลา 9 ศิลปินจัดเต็มในปาร์ตี้ริมทะเลที่แซ่บและดีที่สุด

คืนสุดมันเกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว เทศกาลดนตรีและปาร์ตี้ริมทะเลถูกรวมไว้ในงานเดียว “Chang Music Connection Presents NangLay Beach Party And Music Festival 4 เทศกาลดนตรีและปาร์ตี้ริมทะเล บิกินี่บีชแซ่บที่สุด ในวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม 2568 ที่ TRIPLE TREE BEACH (ใกล้ครัวเม็ดทราย) อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่ผ่านมา

'พายุงวงช้าง' ถล่มชะอำ หลังคาบ้านปลิวว่อน เสียหาย 15 หลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่เมืองชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ได้เกิดพายุฝนฤดูร้อนตกลงมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดพายุงวงช้าง บ้านเรือนประชาชนนับสิบหลังคาเรือน ภายในชุมชนหนองคาง เขตเทศบาลเมืองชะอำ

นายกฯ ชมแข่งวัวลาน กีฬาพื้นบ้านเพชรบุรี สั่งมท.ขยายเวลาเล่นถึง 6 โมงเช้า

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และคณะเดินทางถึงที่ว่าการอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม พื้นที่ชุมชนบ้านลาด

เยาวชนกะเหรี่ยง เดือดร้อนหนัก! วอนช่วยเหลือตกเป็นเหยื่อแก๊งต้มตุ๋นหลอกเปิดบัญชีม้า

น.ส.แยมุย สายชลพิมาน ชาวไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงจากหมู่บ้านกลอเซโล ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่าลูกสาวตนเป็นผู้เสียหายจากแก็งค์หลอกลวงทางอินเตอร์เน็ต (สแกมเมอร์) ถูกหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารแล้วนำไปใช้เป็นบัญชีม้า