ทนายครูบาไก่ แจ้งความเพิ่มสื่อป้ายสี ลูกศิษย์เผยกรมศิลป์ตรวจสอบพระพุทธรูปเก่าแล้ว

ชาวบ้านออกโรงป้อง "ครูบาไก่" ยืนยันเชื่อในสิ่งที่เห็น หากกรมศิลป์หรือหน่วยงานต่างๆจะนำพระไปตรวจสอบ ขอให้ตรวจสอบต่อหน้าชาวบ้าน เพราะพระทุกองค์สมบัติทุกชิ้นที่ขุดได้ มีคุณค่าทางจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่อย่างมาก

4 ก.พ.2566 - จากกรณีของครูบาไก่ ซึ่งจุดเริ่มต้นมาจากที่อิคคิวและบุ๋ม อดีตโยมอุปัฏากครูบาไก่ ประธานที่พักสงฆ์ป่าเทวาราม บ้านป่าผุ ต.สวนหม่อน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น นำหลักฐานข้อความแชทและภาพของลับ กล่าวหาว่าเป็นของลับของครูบาไก่ส่งให้กับชายชื่อเจน ซึ่งเป็นแชทระหว่างครูบาไก่คุยกับเจน โดยที่อิคคิวอ้างว่าได้หลักฐานต่างๆจากเจน กระทั่งนำไปสู่การตรวจสอบทั้งทางด้านกฎหมายทางโลก และทางนินัยของสงฆ์ ซึ่งทางคณะกรรมการที่ทางคณะสงฆ์ตั้งขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงขณะนี้ต้องรอให้ทางศาลตัดสินก่อนจึงจะดำเนินการลงโทษตามพระวินัย และครูบาไก่เองก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาโดยยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีการชี้ชัดจากการตรวจสอบของท่างหน่วยงานต่างๆร่วมกัน แต่ระหว่างที่รอการดำเนินการตามกฎหมายนั้น ก็มีภาพหลักฐานต่างๆออกมาโจมตีครูบาไก่ ในเรื่องของภาพไม่เหมาะสมต่างๆแต่ทางครูบาไก่ก็ได้เข้านำพานขอขมาพระอุปัชฌาและคณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรีเพื่อรับคำติเตือนจากพระผู้ใหญ่และทางคณะสงฆ์อำเภอมัญจาคีรีเพื่อปลงอาบัติในเรื่องดังกล่าวแล้ว และจะเข้ากรรมหลังจากที่เสร็จสิ้นกระบวนการทางโลกก่อน ก่อนที่ล่าสุดเมื่อวานที่ผ่านมาทางวัดของดการให้สัมภาษณ์และงดถ่ายภาพในทุกกรณี ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปอย่างต่อเนื่องนั้น

ความคืบหน้าในเรื่องนี้เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดป่าโสรโย บ้านขุมดิน ม.4 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับชาวบ้าน ลูกศิษย์ลูกหา ที่มาทำบุญที่วัด ต่างศรัทธาและเชื่อว่าพระพุทธรูปที่ครูบาไก่ขุดขึ้นมานั้นคือของจริง และครูบาไก่ไม่สามารถที่จะนำมาซ่อนติดตัวได้ และมีหลายองค์หลายอย่างที่เจ้าของบ้านเป็นคนขุดหาตามที่ครูบาไก่บอกแล้วเจอเอง แต่ที่ครูบาไก่ต้องเลิกรับกิจนิมนต์ของชาวบ้านไปเพราะว่าพระผู้ใหญ่ตำหนิ กลัวจะเกิดกลายเป็นปัญหาในวันข้างหน้า และก็เกิดเป็นปัญหาขึ้นมาจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการร้องเรียนไปยังกรมศิลป์และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยผู้ที่ไม่เชื่อได้แจ้งร้องเรียนไป ทางหน่วยงานต่างๆปละกรมศิลป์เองก็ได้มีการลงพื้นที่มาตรวจสอบเสร็จสิ้นไปแล้ว โดยในครั้งนั้นเองก็มีสื่อมวลชนลงพื้นที่ทำข่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นมติร่วมกันของทางวัด ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ ให้เก็บรักษาพระพุทธรูปและของโบราณต่างๆที่ครูบาไก่ขุดขึ้นมาได้ภายในวัด เนื่องจากแรงศรัทธาของชาวบ้านมีจำนวนมากที่เชื่อและศรัทธา ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่อยากขัดแรงศรัทธาก็ได้ให้ทางวัดและชาวบ้านร่วมกันดูแลและเก็บรักษาภายในศาลาการเปรียญแห่งนี้ ก่อนที่สายบุญจะมีการสร้าง ตู้กระจกใสให้ชาวบ้านได้กราบไหว้ ได้เห็นและเป็นการเก็บรักษาอย่างดีด้วย

นางชุติมา แก่นท้าว อายุ 50 ปี ชาวบ้านขุมดิน ม.4 ลูกศิษย์ครูบาไก่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรและหน่วยงานอีกหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบที่วัด เนื่องจากมีคนที่ไม่เชื่อส่งเรื่องเข้าร้องเรียน โดยทางเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่มาให้ทางวัดขึ้นทะเบียนเกี่ยวกับพระแต่ละองค์ว่าขุดที่ไหนขุดขึ้นมาเมื่อไหร่ ใครมานิมนต์

"โดยมีการทำรายละเอียดไว้ครบทุกองค์ ตนเองก็ได้เป็นคนให้ข้อมูลด้วยเช่นกัน ทางเจ้าหน้าที่ที่มาทั้งกรมศิลปากร และหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้มาตรวจสอบโดยได้บอกว่า พระบางองค์ที่ขึ้นมาก็มี 100 กว่าปีก็มี 500 กว่าปีก็มี ซึ่งขณะนั้นมีทั้งคนเชื่อและไม่เชื่อ จึงมีการแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และทางเจ้าหน้าที่กรมศิลป์ยังบอกหลังจากลงพื้นที่ตรวจสอบอีกว่า ในเมื่อพระพุทธรูปเหล่านี้อยู่กับชาวบ้านแล้วชาวบ้านทำดีอยู่แล้วก็ให้เอาไว้ที่วัดแห่งนี้ได้ เพราะชาวบ้านมีความศรัทธา ให้ชาวบ้านลูกหลานได้กราบไว้ และหากขุดองค์ไหนขึ้นมาได้ก็ก็ให้ลงข้อมูลเอาไว้แบบนี้ด้วย"

นางชุติมา กล่าวต่ออีกว่า จากกรณีต่างๆที่เกิดขึ้นที่มีการตรวจสอบครูบาไก่ หากมีหน่วยงานราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องขอพระพุทธรูปทั้งหมดนี้ไปตรวจสอบ ทางชาวบ้านเองทุกคนก็ขอตรวจสอบโดยที่ให้ชาวบ้านอยู่ด้วยได้หรือไม่ เพราะสมบัติทุกชิ้นเราหวงแหนมีคุณค่าทางจิตใจของชาวบ้านทุกคน ครูบาไก่เมื่อครั้งบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ ไม่ใช่ว่าท่านอวดอุตริจะไปเอง เพราะกิจของสงฆ์ใครนิมนต์ไปไหนไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ต้องไป

ซึ่งมีชาวบ้านมานิมนต์ไปที่บ้านเพื่อช่วยจากสิ่งที่มองไม่เห็นตามความเชื่อของชาวบ้าน ท่านก็ต้องไป บางคนป่วยนอนติดเตียงเป็นระยะเวลานาน ได้ยินคำล่ำลือว่ามีเณรน้อยที่วัดป่าบ้านขุมดิน นั่งแล้วเห็นแล้วช่วยคนได้ ซึ่งครูบาขณะเป็นเณรนั้นก็ยังบอกอยู่ว่า จะช่วยชาวบ้านได้จริงๆหรือ แต่ชาวบ้านได้มานิมนต์แล้ว จะได้ไม่ได้ก็ต้องไป เพราะกิจของสงฆ์นิมนต์แล้วต้องไปปฏิเสธไม่ได้ พอชาวบ้านปากต่อปากทราบข่าวว่าเณรไก่จะไปที่บ้านของชาวบ้านที่มานิมนต์ให้ไปช่วยเหลือมีผู้ป่วยติดเตียงอยู่ที่บ้าน ชาวบ้านลูกศิษย์ลูกหาก็พากันตามไปโดยที่ไม่ได้ชักชวนกัน แต่ทุกคนมีความอยากรู้อยากเห็นอยู่แล้วก็พากันไป บางคนไปด้วยความเชื่อ บางคนไปเพราะไม่เชื่ออยากพิสูจน์ ซึ่งก็มีเยอะ ในวันนั้นเองชาวบ้านพากันเดินทางไปที่บ้านของคนที่มานิมนต์ไปที่บ้านเป็นหลักร้อยคน และเพื่อที่จะตามไปปกป้องเณรไก่ด้วยเพราะรักเหมือนลูกเหมือนหลาน ไม่อยากให้ใครมาหาผลประโยชน์

"เมื่อไปถึงเณรไก่สมัยนั้นก็เริ่มทำพิธีไหว้ขอขมา ไหว้ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน 14 ชั้นบาดาล ตามพิธีของเณรไก่ โดยมีธูปเทียน หลักจากนั้นครูบาไก่ก็จะนั่งสมาธิ นั่งแล้วจะเขียนรูปเลยว่าบ้านหลังนี้จะมีสิ่งเหล่านี้อยู่ บางที่เป็นพระ บางที่เป็นลูกแล้ว ก่อนที่จะกำหนดจุดขุดให้ทราบ แล้วครูบาไก่ก็จะไปนั่งอีกจุด โดยให้ทางลูกศิษย์และชาวบ้านช่วยกันขุดก่อน บางที่ได้ไปทุบกระเบื้องกลางบ้าน เพราะพ่อป่วยมานาน พอทุบออกขุดจนลึกและเจอจริงๆ โดยเจ้าของบ้านไปเอาขึ้นเองโดยที่ครูบาไก่ไม่ได้เอาขึ้นมาเองแต่เป็นชาวบ้านขุดขึ้นมา และจากที่ป่วยอยู่ก็เริ่มอาการดีขึ้นและลุกขึ้นได้"

นางชุติมา บอกต่ออีกว่าถ้าในเรื่องต่างๆที่ชาวบ้านออกมาพูดนั้นแล้วจะบอกว่าเป็นคนของครูบาไก่มันไม่ใช่ เพราะสิ่งที่เราเห็นมันไม่ใช่เราก็บอกไม่ใช่ และถ้ามันใช่เราก็บอกว่าใช่ โดยส่วนตัวตนเองก็ไม่ชอบความไม่ถูกต้อง ทุกวันนี้รักษาศีล 5 จะไม่โกหกเลย หากครูบาไก่นำไปฝังจริงๆ จะเอาเวลาไหนไปฝัง อย่างใต้ถุนบ้านก็เป็นเจ้าของบ้านเป็นคนลงไปเอาขึ้นมาเอง ครูบาไก่ไม่ได้ลงไป ครูบาไก่บอกอยู่ใต้บันได ให้ขุดลงไปเลย ซึ่งก็เป็นญาติพี่น้องครอบครัวของเจ้าของบ้านเองเป็นคนขุด โดยครูบาไก่นั่งดู ซึ่งเจ้าของบ้านก็ขุดขึ้นเองได้ แต่ก็มีบางกรณีที่ครูบาไก่ลงไปขุดเอง แต่ทั้งหมดที่ขุดได้ครูบาไก่ก็จะถามชาวบ้านตลอดว่าจะเก็บเอาไว้เองหรือไม่ ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะขอถวายให้ที่วัด เพราะกลัวจะรักษาไม่ดี โดยที่ครูบาไก่ก็ไม่เคยเรียกร้องเป็นเงินหรือเอ่ยปากขอในเรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวสักครั้งให้ได้ยิน และเพื่อนำมาเก็บรักษาที่วัดให้ชาวบ้านคนอื่นๆได้กราบไหว้เป็นแรงศรัทธาในพื้นที่ระหว่างชุมชนกับพระพุทธศาสนาต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าตรวจสอบนั้น ทางจังหวัดเองได้มีการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบพระพุทธรูปและสิ่งของโบราณที่ครูบาไก่นิมิตขุดขึ้นมาได้ รวมทั้งทางตำรวจกองปราบปราม และทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบหลักฐานต่างๆเพื่อนำข้อมูลถวายให้กับทางคณะสงฆ์ได้พิจารณาตามพระวินัย ในส่วนของภาพไม่เหมาะสมทั้งสรงน้ำในลำธาร ขี่เจ็ตสกี เล่นบานาน่าโบ๊ต ก็ได้นำข้อมูลถวายคณะสงฆ์พิจารณาความผิดตามพระวินัยไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับทางคณะสงฆ์ในการพิจารณาลงโทษตามพระวินัย ในส่วนของภาพของลับที่อิคคิวอ้างว่าเป็นของครูบาไก่ส่งให้กับชายชื่อเจนในแชทเฟซบุ๊กระหว่างครูบาไก่กับเจน ในเรื่องนี้ทางคณะสงฆ์ยุติการตรวจสอบชั่วคราวโดยได้สอบถามทั้งครูบาไก่และทนายความเอาไว้ทั้งหมดแล้ว แต่ทางฝ่ายครูบาไก่ปฏิเสธและเข้าแจ้งความเอาผิดอิคคิวกับพวก ใน 3 ข้อหา 3 กรรม 3 วาระ คือ ร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา,นำเข้าระบบคอมพิวเตอร์ บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ,ใส่ความคณะสงฆ์ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 มาตรา 44 ตรี มาตรา 5 ทวิ โดยทางคณะสงฆ์จะต้องรอให้เสร็จสิ้นกระบวนความทางกฎหมายก่อน โดยจะต้องรอศาลตัดสินให้คดีถึงที่สุดซึ่งคือในชั้นฏีกา

นอกจากนี้ทางทนายของครูบาไก่ยังได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.มัญจาคีรี ดำเนินคดีกับ เพจอีซ้อขยี้ข่าว2 และเพจสีผึ้งมหาเสน่ สายขาว และรายการทีวีอีก 1 รายการ ตามความผิดพรบ.คอมฯ เพราะภาพที่นำออกมาเผยแพร่นั้น ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของภาพหรือบุคคลในภาพ โดยเป็นความผิดตามมาตรา 14 (1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตั้งรางวัลนำจับ 1 หมื่น มืดมีดกระหน่ำแทงลุงวัย 60 กลางเมืองขอนแก่น

กรณีที่คนร้ายเป็นชายขับรถจักรยานยนต์ตามประกบ นายวัฒนศักดิ์ สรรพิทยากับ อายุ 60 ปี เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ริมถนนมะลิวัลย์ ชุมชนสามเหลี่ยม เขตเทศบาลนครขอนแก่น ขณะขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ๊กซ์ หมายเลขทะเบีย

ลุงวัย 60 ออกจากห้องไอซียูแล้ว ยันไม่รู้จักคนก่อเหตุแค่สบตากลางถนน ก็ถูกไล่แทง

เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่น ออกจากห้องไอซียูแล้ว พร้อมระบุไม่รู้จักคนก่อเหตุมาก่อนแค่สบตากลางถนนตอนขับรถ ก็ถูกไล่ตามทันที โชคร้ายรถเสียหลักล้มก่อน ทำให้ผู้ก่อเหตุตามมาแทงหลายแผล

ล่าตัววัยรุ่นใช้มีดกระหน่ำแทงลุงวัย 60 อาการสาหัส

โลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่ภาพที่บันทึกได้จากกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงชายสูงวัยได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณถนนมิตรภาพเยื้องกับร้านอาหารอีสาน ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

เศรษฐีขอนแก่น โปรยทานร่วม 3 แสน มอบเงินคนพิการ-ยากไร้

เศรษฐีขอนแก่น โปรยทานร่วม 3 แสนบาท ในงานบุญเทศน์มหาชาติ เท่านั้นยังไม่พอมอบเงินกว่า 1 แสนบาทให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ยากไร้ในพื้นที่

หลานขาดยาจิตเวช เห็นหน้ายายแล้วฉุนเตะจนตาย ตำรวจคุมตัวดำเนินคดี

พ.ต.อ.อติเมธ พลมุข ผกก.สภ.เวียงเก่า ทำการควบคุมตัวนายทิภากร พิมพิพา อายุ 37 ปี หลังก่อเหตุเตะนางเที่ยง แสงแก้ว อายุ 91 ปี ซึ่งเป็นยายแท้ๆ ได้บาดเจ็บสาหัสก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 59 ม.8 ต.เมืองเก่าพัฒนา อ.เวียงเก่า จ.ขอนเเก่น ก่อนจะหลบหนีไปที่อ.ภูเวียง ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว

ปปช. จับผู้ต้องหา 'บัญชีม้า' รับเช็คโกงเงิน อบต. มูลค่ากว่าครึ่งล้าน

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มอบหมายให้พนักงานเจ้าหน้าที่งานสืบสวนคดีทุจริตภาค 4 ของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานี ตำรวจภูธรฆ้องชัย จับกุมนายสุวิทย์ สร้อยวิเชียร