คนอำนาจเจริญสูดอากาศได้เต็มปอดทุกพื้นที่ในจังหวัด!

'อำนาจเจริญ' โล่งสูดอากาศได้เต็มปอด หัวหน้า ปภ.จังหวัดรายงานฝุ่นพิษมากสุดต้องย้อนไปเมื่อช่วงต้นปี 2565

16 ก.พ.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางขนิษฐา แห่งธรรม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวผ่านรายการ “ผู้ว่าฯคุยกับประชาชน” ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดอำนาจเจริญว่า ในช่วงปลายฤดูหนาวของทุกปีประเทศไทย จะเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก(PM 2.5) เกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ โดยสถานการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากกิจกรรมต่างๆ ทั้งโดยธรรมชาติและจากกิจกรรมของมนุษย์ อาทิ การคมนาคม ขนส่ง การเผาในที่โล่ง การเกิดไฟป่า ภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง และหมอกควันข้ามแดน

นางขนิษฐากล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ด้านไฟป่าและหมอกควันจังหวัดอำนาจเจริญ ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันเกิดขึ้นแต่อย่างใด สถานการณ์ด้านฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ปี 2564 - 2565 ที่ผ่านมา ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) สูงสุดที่วัดได้ มีค่าเท่ากับ 140 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จากหน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลโคกสาร อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 และจุดที่วัดได้สูงเป็นลำดับถัดมา คือ หน่วยตรวจวัดคุณภาพอากาศสำนักงานสาธารณสุขอำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ วัดได้ 121 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565

“หากเกิดสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ ให้แจ้งไปที่ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอำนาจเจริญ สายด่วน นิรภัย โทร. 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง”

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หัวหน้าเอ้' เปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครสส. 22 คน ลั่นประเทศไทยถึงเวลาหนีหลุมดำ

'ดร.เอ้' เปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัคร สส. 22 คน ชี้ ประเทศไทยถึงเวลาหนีหลุมดำ ย้ำ ต้องออกมาก้าวใหม่ เลิกจมหนี้-จมน้ำ

'รมว.ทส.' ขึงขังบอกมาแค่ 4 เดือนใครไม่พร้อมทำงานต้องย้ายออกไป!

'สุชาติ' เล็งคุยปลัด ทส.-อธิบดี โยกคนมีคุณภาพมาทำงานให้เร็วที่สุด ใครมีปัญหาให้ย้ายออก เหตุมีเวลาน้อย เตรียมเข้ากระทรวงศุกร์นี้

วิกฤตข้ามพรมแดน: เมื่อน้ำ-อากาศของไทย "ป่วย"

เมื่อถึงฤดูแล้ง ท้องฟ้าภาคเหนือของไทยจะกลายเป็นสีส้มหม่น ๆ ผู้คนต้องสวมหน้ากากอนามัย และเมื่อถึงฤดูฝน น้ำในแม่น้ำกกก็กลายเป็นสีขุ่นข้นจนน่ากลัว นี่คือภาพสะท้อนของวิกฤตมลพิษที่ไม่ได้เกิดจากแค่ปัญหาภายในประเทศ แต่เป็น “มลพิษข้ามพรมแดน (Transboundary Pollution)” ซึ่งมีสาเหตุหนึ่งจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ประเทศไทยต้องเป็นผู้แบกรับต้นทุนความเสียหายอย่างมหาศาล