
ญาติเกินรับไหว ร้องขอความเป็นธรรม ด.ช.14 เหยื่อโจ๋ยิงหัวกลายเป็นคนพิการ 6 เดือน คดีไม่คืบไปไม่ถึงไหน แถมคู่กรณีได้ประกันตัว
19 มี.ค.2566 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปราณี อรัญพันธ์ อายุ 60 ปี พร้อมด้วย น.ส.แสงเดือน อรัญพันธ์ อายุ 22 ปี ชาว อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นยายและอาของ ด.ช.วิทยา หรือน้องพี อายุ 14 ปี ได้ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังจากน้องพี หลานชายได้ถูกนายโน๊ต อายุ 17 ปี ใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่หมวกกันน็อค กระสุนทะลุศรีษะด้านขวา หลังจากนัดมาเคลียร์ปัญหาคาใจกัน บริเวณหลังศาลากลางจังหวัดหลังเก่าในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 3 ก.ย.65 ที่ผ่านมา จนอาการสาหัสถูกส่งไปรักษาที่ รพ.บุรีรัมย์นานกว่า 20 วัน พออาการเริ่มดีขึ้นหมอให้ออกมาพักรักษาตัวต่อที่บ้านตอนแรกก็พอช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ตอนนี้ต้องกลายเป็นคนพิการนอนติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
แต่เหตุการณ์ผ่านไปกว่า 6 เดือนแล้วคดีกลับไม่มีความคืบหน้า ทำให้ครอบครัวซึ่งมีฐานะยากจนอยู่แล้วได้รับความเดือดร้อน ยายก็อายุมากดูแลหลานพิการคนเดียวไม่ไหว อาต้องออกจากงานมาคอยดูแลหลานที่บ้านทำให้ขาดรายได้ และที่คาใจคือตำรวจบอกให้รอผลตรวจเขม่าดินปืนก็รอมาจน 6 เดือน แต่ล่าสุดตำรวจกลับบอกว่ายังไม่เจอปืน ทำให้ครอบครัวรู้สึกคาใจและเกรงว่าหลานจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อให้ทางตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายด้วย
น.ส.แสงเดือน อาผู้บาดเจ็บ ระบุว่า หลังจากหลานชายถูกยิงก็ให้ทนายช่วยติดตามเรื่องคดีความให้ ตอนแรกทางตำรวจก็บอกว่าจับกุมตัวคนก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลตรวจเขม่าดินปืน แต่พอผ่านไป 6 เดือนตำรวจกลับบอกว่ายังไม่เจอปืนของกลาง ไม่มีพยานเห็นเหตุการณ์ มีเพียงคำสารภาพของผู้ก่อเหตุ และทราบว่าทางคู่กรณีได้รับการประกันตัวไปแล้วและใช้ชีวิตตามปกติ และทางทนายแจ้งว่าพนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปอัยการแล้ว แต่ถูกตีสำนวนกลับให้มาดำเนินการเพิ่มเติม จึงทำให้ครอบครัวรู้สึกไม่สบายใจเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกไปพูดคุยไกล่เกลี่ยเรื่องการดูแลเยียวยาเบื้องต้น ตอนแรกทางครอบครัวจะยังไม่รับแต่ร้อยเวรฯ บอกว่าให้รับไปก่อน ซึ่งก็ทำบันทึกกันไว้ว่าจะเยียวยาให้ 50,000 บาท แต่เบื้องต้นเขาจ่ายให้ 20,000 บาทก่อน ที่เหลือเขารับปากจะจ่ายให้อีกแต่จนถึงขณะนี้ก็เงียบหายไปเลย
ด้านนางสุปราณี ยายของน้องพี ระบุว่า ตอนนี้สงสารหลานมากเพราะต้องกลายเป็นคนพิการ และดูเหมือนอาการจะทรุดลง กินอาหารได้น้อยลงไม่ค่อยพูด และที่สะเทือนใจคือ หลานเคยพูดสั่งเสียกับตนเองว่า “ถ้าผมตาย เอาหมี่กะทิ กับขนมจีน ให้ผมกินด้วย” ตนเองรู้สึกใจคอไม่ดีก็บอกหลานว่าอย่าพูดแบบนี้ถ้าหลานตายแล้วยายจะอยู่กับใคร ก็ได้ร้องไห้ปลอบหลาน ก็อยากจะขอความเป็นธรรมด้วยทั้งเรื่องการเยียวยา เพราะครอบครัวเดือดร้อนมากเงินที่มีก็หมดไปกับค่าดูแลหลาน จนแทบจะไม่มีเงินพาหลานไปหาหมอตามนัดแล้ว ส่วนเรื่องคดีก็ขอความเป็นธรรมให้หลานด้วย กลัวหลานจะถูกยิงเจ็บฟรี.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ เสียสละช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย
ผบ.ตร. ยกย่องหัวใจตำรวจภาคใต้ "ผู้เสียสละ" เร่งช่วยเหลือประชาชน แม้ตนเองเป็นผู้ประสบภัย ย้ำ "ตำรวจคือครอบครัวเดียวกัน" พร้อมดูแลสวัสดิการเต็มที่
บึ้มสนั่น! หนุ่มโรงงานลอบทำพลุขายปีใหม่ พลาดเจ็บสาหัส
ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบนจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเกิดเหตุพลุระเบิด ที่ห้องเช่าเป็นห้องแถว หมู่ที่ 3 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
แม่ค้าผักทรุด! โจรบุกบ้าน กวาดเกลี้ยงทอง-เงินสูญ 6 แสน
พ.ต.ท.สินสมุทร บุญทัศนา สารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายลักทรัพย์ ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ภายในบ้านพักเลขที่ 150/18
ตร.บางพลีบุกช่วยนศ. โดนแก๊งคอลฯอ้างเป็นDSI สูญเงิน 2 แสน
ตำรวจบางพลี บุกช่วยนักศึกษามหาวิทยาลัยดัง หลังโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก อ้างเป็นดีเอสไอ โอนเงินเกือบ 2 แสนบาท
นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่
นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล
นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม


