ชุมชนป่าแม่เมาะ เดือดร้อนหนัก ร้องศูนย์ดำรงธรรมถูกเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ยึดที่ดินทำกิน

ชุมชนป่าแม่เมาะเดือดร้อนหนักถูกเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ยึดที่ดินทำกิน-ร้องศูนย์ดำรงธรรมแก้ไขด่วน เผยเบื้องลึกพัวพันถึงขบวนการลักลอบตัดไม้ประตูในเขตป่าสงวน

11 เม.ย.2566 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 ชาวบ้านชุมชนบ้านห้วยตาด หมู่ 4 บ้านจำปุย ต.บ้านแดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ได้ยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่เมาะ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดลำปาง เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาของชุมชนโดยหนังสือระบุว่าเนื่องจากชุมชนบ้านห้วยตาดที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและมีพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยการขอใช้ประโยชน์ของกองทัพบกซึ่งมีค่ายฝึกรบพิเศษประตูผาเป็นผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่และอยู่ร่วมกับชุมชนด้วยดีโดยมีการกันพื้นที่ทำกินให้กับชาวบ้านห้วยตาดได้ประกอบอาชีพ

หนังสือระบุว่า แต่เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ป่าไม้แม่เมาะและทหารค่ายประตูผา ได้เข้ามาในหมู่บ้านและแจ้งในที่ประชุมชี้แจงเกี่ยวกับพื้นที่ของทหารและพื้นที่ทำกินที่ได้มีการรุกล้ำขอบเขตโดยเจ้าหน้าที่ได้มีการข่มขู่ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่อ้างขอบเขตตามแผนที่ปี 2545 ซึ่งไม่ครอบคลุมที่ทำกินที่ได้มีการกันแนวเขตให้ชาวบ้านไว้ก่อนแล้ว ชาวบ้านห้วยตาดจึงได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเพราะได้มีการจัดเตรียมพื้นที่เข้าไปเพาะปลูกไว้แล้ว

“ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดจึงขอให้ท่านช่วยเหลือแก้ปัญหาความเดือดร้อนในครั้งนี้อย่างเร่งด่วน คือขอให้เร่งรัดตรวจพิสูจน์พื้นที่ที่ได้มีการกันแนวเขตโดยใช้แผนที่ปี 2557 ที่ใช้ชาวบ้านห้วยตาดได้ใช้ประโยชน์ในการทำกินโดยเร่วด่วน และในระหว่างการตรวจสอบพื้นที่ ขอผ่อนผันให้ชาวบ้านได้ทำกิน เพาะปลูกในพื้นที่ที่ได้รับการกันแนวเขตไว้ก่อนแล้ว” หนังสือ ระบุ

ทั้งนี้ก่อนการยื่นหนังสือ ชาวบ้านราว 50 คน ได้เดินทางไปร่วมการประชุมที่องค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)บ้านดง เพื่อประชุมร่วมกับปลัด อบต.ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิก อบต. ตัวแทนทหาร ตัวแทนป่าไม้ โดยมีนายก อบต.บ้านดงเป็นประธาน โดยในที่ประชุมได้มีมติให้นายก อบต.ส่งหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สำรวจแนวเขตให้ชัดเจนโดยยึดภาพถ่ายทางอากาศปี 2557 เนื่องจากที่ผ่านมาทางฝ่ายทหารต้องการให้ยึดภาพถ่ายทางอากาศปี 2545 ซึ่งจะทำให้ชาวบ้านเสียสิทธิในที่ดินทำกินหลายพื้นที่ นอกจากนี้ขอให้ชาวบ้านได้ทำกินในที่ดินของตัวเองในปีนี้ก่อน

นอกจากนี้ในที่ประชุมยังได้มีการถามถึงกรณีที่ทหารได้กดดันให้ชาวบ้านบางส่วนยอมรับว่าได้ทำการบุกรุกที่ดินของตนเองโดยมีการนำบัตรประชาชนไปด้วย ซึ่งชาวบ้านเตรียมที่จะไปแจ้งความ แต่ตัวแทนฝ่ายทหารบอกว่ายังไม่ได้ดำเนินการใดๆ

รายงานข่าวแจ้งว่า ความขัดแย้งระหว่างชาวบ้านครั้งนี้ยังโยงใยไปถึงเรื่องการตัดไม้เถื่อนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่อยู่ในความดูแลของทหาร เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนไปยังอธิบดีกรมป่าไม้ว่าได้มีขบวนการลักลอบตัดไม้ประดู่ ทำให้มีการสั่งการให้ข้าราชการที่รับผิดชอบในพื้นที่ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ปรากฏว่าได้มีการสวมรอยสถานการณ์โดยอ้างว่าชาวบ้านบุกรุกป่า ทำให้พื้นที่ป่าได้รับความเสียหายแต่ข้อเท็จจริงคือมีขบวนการลักลอบตัดไม้ที่ทำกันอย่างคึกโครมซึ่งคนในพื้นที่ต่างรับรู้กันดี แต่เมื่อเริ่มมีการตรวจสอบจึงโยนความผิดให้กับชาวบ้าน

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ชาวนาพิจิตร ร้องทุกข์ขายข้าวตั้งแต่สงกรานต์ยังไม่ได้เงิน ผู้ว่าฯสั่งดำเนินคดี 'โรงสี-ท่าข้าว'

ชาวนาพิจิตรยังระทมไม่หยุดเหตุโรงสี-ท่าข้าว ขาดเงินหมุนเวียน ส่งผลกลายเป็นเรื่องซื้อข้าวแล้วไม่มีเงินจ่าย ล่าสุดชาวนาตะพานหิน 14 ราย ร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรม ผู้ว่าฯพิจิตร สั่งด่วนตั้งทีมงานเปิดข้อกฎหมายดำเนินคดีถกเดือดในที่ประชุมใบ

มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ ร่วมส่งมอบกายอุปกรณ์ให้กลุ่มเปราะบาง ภายใต้กิจกรรมวันนัดพบแรงงาน จังหวัดลำปาง

นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ ประธานมูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ พร้อมด้วย นางสาวทัตขวัญ สุรินทร์ จัดหางานจังหวัดลำปาง ร่วมส่งมอบอุปกรณ์ช่วยเดินให้แก่ประชาชนกลุ่มเปราะบาง ภายใต้กิจกรรม “วันนัดพบแรงงาน”

กรมการปกครองขึงขัง! ลุยปราบพวกลักลอบปล่อยเช่าห้องผิดกฎหมาย

อธิบดีกรมการปกครองนำกำลังพนักงานฝ่ายปกครองตรวจสอบห้องชุดคอนโดย่านประตูน้ำ ลักลอบปล่อยเช่ารายวันผ่านแอปพลิเคชันดัง และจับกุมผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมผิดกฎหมายย่านห้วยขวาง – สุทธิสาร

'อนุทิน' ปลื้มผลงานศูนย์ดำรงธรรมเข้าตาชาวบ้าน!

'อนุทิน' ชื่นชมการทำงาน 'ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย' หลังผลสำรวจนิด้าโพลเผยประชาชนให้ความเชื่อมั่นสูงสุดเป็นหน่วยงานช่วยเหลือเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรม เผยผลงานปี 67 ยุติเรื่องได้ถึง 99.43%

'คารม' เตือนรีบด่วน 31 พ.ค.หมดเวลาลงทะเบียนแก้หนี้นอกระบบ

รัฐบาลย้ำเตือนลูกหนี้-เจ้าหนี้นอกระบบ รีบลงทะเบียนเข้าสู่ระบบแก้ปัญหาปัญหาหนี้ตามมาตรการของรัฐ เผยดำเนินการแก้ไขหนี้แล้ว 144,988 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,190.970 ล้านบาท