ทีมผู้บริหารองค์การสวนสัตว์ฯ-สวนสัตว์เชียงใหม่แถลงข่าวเศร้าแพนด้า 'หลินฮุ่ย'ตาย สิ้นสุดตำนานแพนด้าในไทย ภาพนักทท.ฟ้องชัดกำเดาไหลระหว่างอยู่ในส่วนจัดแสดง เร่งหาสาเหตุการตายยืนยันอีกครั้ง
19 เม.ย.2566 - ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ทีมผู้บริหารองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สวนสัตว์เชียงใหม่และเกี่ยวข้องร่วมกันแถลงชี้แจงการตายของแพนด้าหลินฮุ่ย ทูตสันถวไมตรีจากจีนหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ นำโดยนายเดชบุญ มาประเสริฐ ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่และทีมสัตวแพทย์ประจำสวนสัตว์เชียงใหม่
โดยมีคำแถลงระบุว่า เมื่อวันอังคารที่ 18 เมษายน 2566 เวลา 11.00 น. นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ ได้รับรายงานจากทีมงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย กรณีหมีแพนด้า “หลินฮุ่ย” มีเลือดกำเดาไหล จากนั้นนายวุฒิชัยได้รายงานให้กับ นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ได้รับทราบและสั่งการให้ปิดส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าชั่วคราวเพื่อทำการนำหมีแพนด้าหลินฮุ่ยเข้าคอกกักเพื่อทำการรักษา
ในเวลาต่อมา เมื่อประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยทราบ ได้มอบหมายให้นายวุฒิชัยดำเนินการ โดยได้ประสานงานแจ้งไปยังสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าจีน (CWCA) ที่กรุงปักกิ่งให้รับทราบ พร้อมกับได้รับคำแนะนำจากทาง CWCA ให้ขอคำปรึกษาไปยังศูนย์อนุรักษ์วิจัยหมีแพนด้า (CCRCGP) ที่เฉิงตู เพื่อปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญจีนที่บำรุงเลี้ยงและรักษาหมีแพนด้า
จากนั้นได้รายงานให้กับสถานกงสุลใหญ่แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำเชียงใหม่ได้รับทราบ ทางสถานกงสุลใหญ่ฯได้ส่ง คุณหยางโจ่ง รองกงสุลใหญ่และเจ้าหน้าที่เข้ามาสังเกตการณ์ พร้อมกับประสานงานไปยังศูนย์อนุรักษ์หมีแพนด้า ที่เฉิงตู เพื่อให้คำแนะนำการรักษาผ่านระบบออนไลน์ (Wechat) ตลอดเวลาอย่างต่อเนื่อง
จนถึงเวลา 01.00 น. ของวันที่ 19 เมษายน 2566 หมีแพนด้าหลินฮุ่ยมีอาการเกร็ง ทีมสัตวแพทย์ได้ทำการรักษาตามคำแนะนำของทางจีน จนสุดความสามารถ จากนั้นในเวลา 01.10 น. หมีแพนด้าหลินฮุ่ย จากไปอย่างสงบ
นายเดชบุญ มาประเสริฐ ประธานกรรมการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางองค์การสวนสัตว์ฯและทางสวนสัตว์เชียงใหม่รู้สึกเสียใจต่อการเสียชีวิตของแพนด้าหลินฮุ่ย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอผู้เชี่ยวชาญจากทางการจีน มาร่วมในการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดต่อไป
อย่างไรก็ตามพบว่า แพนด้าในกรงเลี้ยง ส่วนใหญ่ มีอายุขัย 20ปี ซึ่งหลินฮุ่ย ก็ถือว่าอยู่ในวัยชราแล้ว โดยระหว่างนี้ได้มีการปิดส่วนจัดแสดงหมีแพนด้าชั่วคราวเพื่อทำความสะอาดคอกกัก
น.สพ.เทวราช เวชมนัส รักษาการในตำแหน่งหัวหน้างานสุขภาพสัตว์และปฏิบัติหน้าที่นายสัตวแพทย์ประจำโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้า กล่าวว่าแพนด้าหลินฮุ่ยเข้าสู่วัยชราแล้ว ที่ผ่านมาก่อนเสียชีวิต มีสุขภาพปกติ กินอาหารได้ตามปกติ มีการตรวจสุขภาพทุกวัน ไม่มีสัญญาณบอกถึงอาการป่วยมาก่อน จนกระทั่งมีเลือดกำเดาไหลซึมออกมา ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถวินิจฉัยได้ จนกว่าจะมีการชันสูตรเพื่อหาสาเหตุอย่างละเอียดร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจีนโดยจะเก็บร่างหลินฮุ่ยไว้ก่อน
ทั้งนี้กรณีมีผู้ตั้งข้อสังเกตุเรื่องค่าฝุ่น PM2.5 จะมีผลต่อการเสียชีวิตหรือไม่ ยืนยันว่า หลินฮุ่ยอยู่ในกรงที่มีระบบปิดและเครื่องปรับอากาศ จึงไม่มีฝุ่นเข้าไปสู่คอกกัก แต่ทั้งนี้ขอรอการชันสูตรที่แน่ชัดต่อไป
สำหรับ 'หลินฮุ่ย' มีกำหนดการที่จะส่งคืนกลับประเทศจีนในปีนี้ เนื่องจากครบ 10 ปี ในการเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน แต่มาเสียชีวิตลงก่อน ซึ่งทางสวนสัตว์มีการทำประกันชีวิตไว้ 15 ล้านบาท หลังจากนี้จะมีการส่งรายงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย ให้กับทางการจีนเพื่อประเมินผลโครงการ ส่วนจะมีโครงการต่อเนื่องต่อไปอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับอนาคต ซึ่งบรรยากาศที่สวนสัตว์เชียงใหม่นั้นนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเมื่อทราบว่าแพนด้าหลินฮุ่ยตายต่างก็เศร้าสลด เด็กหลายคนและแฟนคลับต่างผิดหวังและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หลินฮุ่ยจากจากไปอย่างกะทันหัน
มีภาพจากนักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนคลับได้ถ่ายไว้ระหว่างมาเยี่ยมชมเมื่อวันที่ 17 เมษายนกลายเป็นภาพสุดท้ายที่ได้เห็นในโลกโซเชียลซึ่งก็สังเกตเห็นมีกำเดาไหลด้วย
"หลินฮุ่ย"(Studbook number 539) เกิดวันที่ 28 กันยายน พ.ศ.2544 ที่ศูนย์วิจัยและอนุรักษ์แพนด้ายักษ์ เขตอนุรักษ์วู่หลง เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน สาธารณรัฐประชาชนจีน หลินฮุ่ย เกิดจากพ่อหมีแพนด้าชื่อ "Pan Pan" (พ่าน พ่าน)(Studbook number 308) แม่ชื่อ ถางถาง 'TangTang' (Studbook number 446) หลินฮุ่ย ชื่อภาษาจีน : 林惠 (Lin Hui) เดินทางมาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2546 เพื่อเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเวลา 10 ปี โดยให้ประเทศไทยยืมจัดแสดงที่ สวนสัตว์เชียงใหม่ โดยจัดแสดงคู่กับ "ช่วงช่วง"หมีแพนด้าเพศผู้ชื่อ ช่วงช่วง (Studbook number 510 )
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2005 ตั้งแต่วันที่ 12 เดือนตุลาคม 2546 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2552 'หลินฮุ่ย' ได้ให้กำเนิดลูกแพนด้า น้ำหนักประมาณ 200 กรัม จำนวน 1 ตัว ซึ่งเป็นผลจากการผสมเทียมเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 อายุครรภ์ประมาณ 3 เดือน ต่อมาได้ตั้งชื่อแพนด้าที่เกิดในประเทศไทย ว่า "หลินปิง"(Studbook number 740) เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2009 ทั้งนี้ "หลินฮุ่ย" เคยได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทองแดง ประเภทแพนด้าบุคลิกภาพยอดเยี่ยม จากการโหวตของแฟนคลับทั่วโลกผ่านเว็บไซต์ Giant Panda Zoo.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สูญเสีย 'กาลิ' ปิดตำนานหนึ่งเดียวแรดอินเดีย
สวนสัตว์เชียงใหม่ออกแถลงการณ์ แจงการป่วยและตายของแรดอินเดีย "กาลิ"วัย 40 ปี ปิดตำนานหนึ่งเดียวแรดอินเดีย หลังแพทย์พบเนื้องอกในมดลูกและรักษามาอย่างต่อเนื่อง
เชียงใหม่เปิดชม แรดสาวโสด'กาลิ' ประชันฮิปโปแคระ'น้าสาวของหมูเด้ง'
สวนสัตว์เชียงใหม่จัดกิจกรรมวันแรกโลก จัดเลี้ยงหนึ่งเดียวในประเทศไทย "กาลิ” พร้อมชมความน่ารักของฮิปโปแคระ“น้องแก่นคูน”น้าของ"หมูเด้ง" พี่สาวน้องด้วงมะพร้าวที่เป็นไวรัลทั่วโลก
จิงโจ้อยู่ไหน! เชียงใหม่ระดมกำลังขยายวงตามหา
เจ้าหน้าที่ยังมีความหวังเริ่มเดินหน้าค้นหาน้องจิงโจ้ต่อขยายวงพื้นที่เพิ่ม
ข่าวดี! จีนรับปากนายกฯ ส่ง 'แพนด้า' ทูตสันถวไมตรี มาอยู่ไทยอีกครั้ง
คนไทยเตรียมเฮ ! นายกฯ เผย 'หวัง อี้' รับปากส่งหมีแพนด้ามาอยู่สวนสัตว์เชียงใหม่ ทำหน้าที่ทูตสันถวไมตรีเชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีนอีกครั้ง
เปิดตัว 'น้องหน้าขาว' หมีควาย ตัวตึงหนึ่งเดียวแห่งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี
สำนักงานเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี โดยสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) เปิดตัว “น้องหน้าขาว” หมีควายตัวตึงหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในขณะนี้ จนเป็นที่มาที่ทำให้นักท่องเที่ยวมาตามหาและมาดูความน่ารักกันอย่างล้นหลาม
"พล.ต.อ.พัชรวาท" ชวนคนไทยเที่ยว "สวนสัตว์เชียงใหม่" แลนด์มาร์ก "แหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์ วิจัย สัตว์ป่า" เปิดรับฤดูหนาว
พล.ต.อ.พัชรวาท" ตั้งเป้าปีหน้า "สวนสัตว์เชียงใหม่" ปั๊มเม็ดเงินเกือบ 100 ล้านบาท หลังเพิ่มสัตว์นานาชนิดดึงดูดนักท่องเที่ยว-มีกิจกรรมหลากหลาย พร้อมชวนคนไทย หนาวนี้ปักหมุดเที่ยวจุดแลนด์มาร์ก "แหล่งเรียนรู้ อนุรักษ์ วิจัย สัตว์ป่า" เชิญชวนสักการะ "พระนวพุทธมหาบารมี"


