ทหารลุยช่วยซ่อมบ้าน เหตุโกดังเก็บพลุระเบิด พบเสียหาย 682 หลัง

3 ส.ค.2566 - เมื่อเวลา 09.00 น. พล.ต.เฉลิมพร เขียวขำ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารที่หน่วยในสังกัดที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดนราธิวาส จัดกำลังพร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ ได้เดินทางมาตลาดมูโนะ ม.1 ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นจุดที่โกดังดอกไม้ไฟระเบิด ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย ได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แถมบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหาย 682 ครัวเรือนนั้น

ตั้งแต่เช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้กระจายกำลังกันซ่อมแซมบ้านเรือนของประชาชน ที่ผ่านการตรวจสอบและประเมินความเสียหายแล้ว โดยเน้นการซ่อมแซมหลังคาที่ได้รับจากภาครัฐและเอกชนบริจาดเพื่อสามารถให้เจ้าของบ้านและสมาชิกในครอบครัว สามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ชั่วคราว ในการป้องกันทรัพย์ได้รับความเสียหายจากสภาวะฝนที่ตกลงมา รวมทั้งการเก็บกวาดซากปรักหักพังของบ้านแต่ละหลัง ขึ้นรถบรรทุกของ สนง.หน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส นำไปทิ้ง เพื่อตรวจสอบด้านการฟื้นฟูของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ยังมีบรรยากาศเจ้าของบ้านแต่ละหลัง ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุโกดังดอกไม้ไฟระเบิด ได้นำสมาชิกในครอบครัวเข้าไปเก็บทรัพย์ที่มีค่า รวมทั้งเครื่องใช้ต่างๆ ที่ยังหลงเหลือโดยมีซากปรักหักพังของบ้านเรือนทับถม อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า ทองรูปพรรณรวมทั้งของมีค่าต่างๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้ โดยในส่วนของเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มส่วนใหญ่จะเสียหายอยู่ในกองเพลิง และเสียหายจากสภาวะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด แต่ไม่เข้าไปอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ณ สนามกีฬา อบต.มูโนะ ด้วยการใช้เต็นท์ผ้าใบผูกทั้ง 4 มุม แล้วนำไปผูกโยงกับเสาบ้าน เพื่อใช้ทำเป็นหลังคาชั่วคราว

จากการพูดคุยทราบว่าพอใจอยู่ที่ซากปรักหักพังมากกว่าศูนย์พักพิง เนื่องจากกินได้นอนหลับไม่ต้องห่วงว่าข้าวของมีค่าจะสูญหาย เพราะหากทางราชการการช่วยเหลือเบ็ดเสร็จก็สามารถเข้าอยู่ได้เลย ไม่ต้องไปซื้อหาข้าวของกลับมาใช้ในการใหม่ทั้งหมด เนื่องจากทราบว่าบางหลังคาเรือนของมีค่าสูญหายเพราะถูกขโมย

นอกจากนี้ในระหว่างเดินบันทึกภาพบรรยากาศต่างๆอยู่นั้น ได้พบเห็นนายสมจิต อาแวเต๊ะ อายุ 48 ปี บ้านเลขที่ 25/3 ซึ่งอยู่ห่างจากจุดศูนย์กลางของโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด เพียง 70 เมตร ได้มีตั้งป้ายขอรับบริจาคและมีกล่องกระดาษวางไว้บริเวณหน้าบ้านพักที่อยู่ในสภาพปรักหักพังทั้งหลัง

เมื่อสอบถามทราบว่า เป็นการขอรับบริจาคเนื่องจากต้องนำเงินไปใช้จ่ายจิปาถะเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย รวม 5 ชีวิต แถมบ้านพังเสียหายทั้งหลัง ในช่วงนี้ต้องอพยพลูกเมียไปอาศัยอยู่ชั่วคราวที่บ้านของบิดาในพื้นที่ อ.เจาะไอร้อง โดยในแต่ละวันก็มีผู้บริจาคเพื่อสมควรเพื่อนำไปใช้ประทังชีวิต

ในส่วนของการสำรวจประเมินความเสียหายบ้านพักของประชาชนรอบนอก ของเจ้าหน้าที่กองช่างจากองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวนกว่า 100 คน ยังไม่รวมถึงจุดที่ได้รับความเสียหายจากโกดังเก็บดอกไม้ไฟระเบิด ซึ่งได้สำรวจไปแล้ว จำนวน 682 หลัง มีมูลค่าความเสียหายเบื้องต้น 500 ล้านบาท และมีรถยนต์เสียหาย 39 คัน รถจยย. 25 คัน รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 1 คัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

งบ68 ทร.ซื้อเครื่องบินลำเลียง  ‘เรือดำน้ำ-ฟริเกต’ ไปถึงไหน?

คงต้องติดตามดูต่อไปว่า “สุทิน” จะได้รับการอนุมัติให้นั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหมต่อเพื่อผลักดันโครงการ และปัญหาที่ยังไม่ลุล่วงเหล่านี้หรือไม่

‘วิโรจน์’ หนุน ‘สุทิน’ แก้กฎหมายกลาโหม สกัดรัฐประหาร ลั่นต้องทำให้ถึงแก่น

‘วิโรจน์’ เห็นด้วยในหลักการ หลัง ‘สุทิน‘ เสนอแก้ ’กฎหมายกลาโหม‘ สกัดรัฐประหาร แต่ต้องแก้ให้ถึงแก่น ไม่ใช่แค่ผิว ชี้ เป้าหมายสูงสุด คือทำให้กองทัพไม่อยู่ในฐานะรัฐอิสระ แนะ ควรปรับสัดส่วน ‘สภากลาโหม’ ให้เหลือแค่ 11 คน-มีทหารไม่เกินกึ่งหนึ่ง

‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ชายแดนแม่สอด 23 เม.ย. เกาะติดสถานการณ์สู้รบในเมียนมา

‘สุทิน’ เผยสถานการณ์สู้รบเมียนมาเข้มข้นขึ้น คนหนีภัยมาไทย ยอมรับกระทบเราแต่ไม่มีอะไรน่าวิตก ขอสบายใจกองทัพปกป้องอธิไตย-ดูแลประชาชนเต็มที่