ส่อเค้าโอละพ่อ! ด.ญ. 13 ปี ถูกมอมยาข่มขืนในรถตู้ ผู้โดยสารลงรถคนสุดท้ายเล่าอีกมุม

ผู้การฯขอนแก่น เผยคดีเด็กหญิง 13 ปีถูกมอมยาข่มขืนในรถตู้ คืบหน้าไปมาก แต่เปิดเผยไม่ได้ ส่วนเด็กหญิงอาการดีขึ้น ขณะที่ผู้โดยสารคนสุดท้าย เผย "น้องเอ" ถึงบ้านพ่อออกมารับหน้าบ้าน ยืนยันว่าคนขับรถตู้ไม่ได้ทำอะไรเด็กหญิง

9 พ.ย.2566 - เมื่อเวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายบี (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี บิดาของน้องเอเด็กหญิงวัย 13 ปี ซึ่งระบุว่าถูกนายเดช คนขับรถตู้ข่มขืนว่า ลูกสาวจะถูกส่งต่อการรักษากับแพทย์เฉพาะทางที่รพ.ศรีนครินทร์ เพราะการรักษาขณะนี้ที่รพ.ขอนแก่น แม้จะไม่ใช้แพทย์เฉพาะทาง แต่ลูกสาวก็ดีขึ้น เพราะพูดคุยกับพ่อแม่ได้ตามปกติ แต่ยังไม่กล้าถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของลูกชายก็อาการดีขึ้นเช่นกัน จากการสอบถามย่า ทราบว่า ลูกชายเปิดเทอมก็ไปเรียนหนังสือตามปกติ พอกลับมาบ้าน จึงเกิดอาการเสียสติ จึงส่งลูกชายไปยัง รพ.แวงน้อย แพทย์ตรวจในเบื้องต้นพบสารแอมเฟตามีน และลูกชายอาการไม่ดีขึ้น จึงส่งตัวมารักษาที่รพ.ขอนแก่น ขณะนี้ อาการลูกชายดีขึ้นมากแล้ว

“การที่แพทย์พบสารแอมเฟตามีน ทำไมตำรวจจะไม่รู้ และตำรวจจะไม่สืบสวนหรืออย่างไรว่าสารดังกล่าวนั้นลูกชายรับสารมาจากไหน ทำไมปล่อยผ่าน เพราะในทางกฎหมายตำรวจต้องสืบสวนหาที่มา เพราะสารตัวนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็กมาก จึงอยากให้ตำรวจสืบสวนหาที่มาของสารดังกล่าวด้วย เพราะลูกชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จึงอยากรู้ว่า ลูกชายรับสารแอมเฟตามีนได้อย่างไร”

นายบี กล่าวต่ออีกว่า การนำตัวลูกชายส่งรพ.นั้น เพราะเกิดอาการเสียสติ พูดจาไม่รู้เรื่อง ย่าและญาติพี่น้องจึงส่งตัวไปรพ.แวงน้อย และส่งต่อไปรักษาที่รพ.ขอนแก่น ซึ่งกรณีของลูกชายนั้นเกิดอาการไล่เลี่ยกัน แต่ไม่มีการแจ้งความที่ สภ.แวงน้อย แต่มีการส่งรักษาในรพ.และส่งต่อตามขั้นตอน

พล.ต.ต. อนุวัตร สุวรรณภูมิ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจคืบหน้าไปมาก แต่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องในคดี จึงไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะเดียวกันการสอบปากคำผู้โดยสารที่นั่งไปในรถพร้อมเด็กหญิงวัย 13 ปีนั้น สอบปากคำครบแล้ว ยืนยันว่า นั่งรถตู้ป้ายเหลืองของนายเดชไปกรุงเทพฯจริง และทุกคนก็ยืนยันว่า ไม่พบความผิดปกติใดๆ จึงขอยืนยันว่าตำรวจจะทำงานให้รอบคอบและชัดเจน คลายข้อข้องใจของญาติพี่น้องเด็กหญิง 13 ปี และจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ว่ากันด้วยหลักฐาน ในส่วนของเด็กหญิง 13 ปีนั้น จากการรายงานของแพทย์ทราบว่าอาการดีขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เข้าไปพบและพูดคุย หากสอบสวนได้ ก็จะทำการสอบสวน

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับผู้โดยสารหญิงที่นั่งไปในรถตู้คันเดียวกับเด็กหญิงวัย 13 ปี ในวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้โดยสารรายดังกล่าวคือ นางหนึ่ง(นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ชาวอ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ระหว่างเดินทางนั้นมีผู้โดยสารเต็มทุกที่นั่ง ตนหลับตลอดทางจนใกล้ถึงที่หมายก็ได้รู้สึกตัวและขณะนั่งในรถก็เห็นเด็กหญิงวัย 13 ปี นั่งเล่นโทรศัพท์ตามปกติโดยไม่ได้มีอาการแปลกแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากส่งตนเองลงที่ซอยสามเสน 6 แล้วก็ได้ส่งเด็กหญิงต่อซึ่งห่างจากจุดที่ตนเองลงประมาณ 7.1 กิโล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที ซึ่งหลังจากลงรถตนเองก็ไม่รู้อะไรหลังจากนั้น

ในขณะเดียวกันก็ได้โทรศัพท์สอบถามผู้โดยสารอีกคน ซึ่งลงรถเป็นคนสุดท้าย ยืนยันว่า ลงรถที่บริเวณพุทธมณฑลสาย 2 โดยรถตู้ส่งผู้โดยสารคนแรกไปแล้ว คนขับรถตู้ก็ได้ขับมาส่งเด็กหญิงวัย 13 ปี ที่หน้าบ้าน โดยถึงหน้าบ้านประมาณ 9.30 น. ซึ่งที่หน้าบ้านของเด็กนั้นมีพ่อออกมารอรับถึงหน้าบ้าน หลังจากลงรถไปเด็กหญิงและพ่อก็ได้ทักทายกันตามประสาพ่อลูก โดยคนพ่อก็ได้ถามลูกว่าบนรถมีกระเป๋าอะไรอีกมั้ย จากนั้นก็ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันอีก ซึ่งตนเองยืนยันว่ารถตู้ไม่ได้ถึงที่หมายในการส่งเด็ก ช่วงก่อนเที่ยง และผู้โดยสาร ยังยืนยันว่า ระหว่างทางมีการซ่อมถนนจริง โดยเส้นทางที่คนขับรถขับนั้นก็เป็นเส้นทางปกติ และเด็กไม่ได้เป็นคนลงรถเป็นคนสุดท้าย ซึ่งไม่ตรงกับการให้สัมภาษณ์ของย่าเด็กหญิงที่บอกว่ามาถึงบ้านช่วงก่อนเที่ยงของวันที่ 2 ต.ค.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทึ่ง! 'มข.' พัฒนาเตียงอัจฉริยะ นวัตกรรมเพื่อคนสูงวัยป่วย สร้างรายได้ให้ชุมชน

มหาวิทยาลัยขอนแก่น สร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม ส่งเตียงอัจฉริยะ ช่วยพลิกตัวลดแผลกดทับ ‘สูงวัยป่วยติดเตียง’ 2 ชุมชนนำร่อง ตำบลบ้านโต้น และตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น เตรียมอัพเกรดเวอร์ชั่นใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น

ลูกค้ายังเพียบ! ราคาทองพุ่งทะลุ 4 หมื่นบาท ซื้อทองเก็งกำไรรับเทศกาลสงกรานต์

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศราคาการซื้อ-ขายทองคำแท่งและทองคำรูปพรรณ หลังพบว่ามีการปรับขึ้นราคามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง ที่ส่วนใหญ่ลูกหลาน มักจะซื้อทองไปเป็นของขวัญให้พ่อแม่และคนในครอบครัวกันอย่างมาก ซึ่งจากการสำรวจที่ร้านทองอุเทน

ภัยสังคม! 2 วัยรุ่นบุกโรงเรียน ขู่ฆ่า ปล้นมือถือเด็ก 10 ขวบ ยังลอยนวล

สองวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์เข้าไปในโรงเรียน ขู่ฆ่า ปล้นโทรศัพท์มือถือเด็ก 10 ขวบ ซึ่งเป็นโทรศัพท์ของพ่อที่เสียชีวิต สิ่งของสุดท้ายของพ่อที่เหลือไว้ ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป

จับสึก พระครูปลัดวัย 32 เล่นแอปหาคู่เกย์ ค้นกุฏิพบอุปกรณ์เสพยาไอซ์

โลกโซเชียลมีเดียเผยแพร่ภาพรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ขับมาประสบอุบัติเหตุชนเกาะกลางถนน ถนนศรีจันทร์ หน้าโรงพยาบาลขอนแก่นราม ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น

ปปช.ขอนแก่น ลุยสอบ ผอ.โรงเรียน สุดฉาว เบิกงบใช้ส่วนตัว-วิดีโอคอลสยิว

นายธีรัตน์ บางเพ็ชร รักษาการ ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ขอนแก่น ลงพื้นที่ตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อ จัดจ้าง ครุภัณฑ์และเอกสารการเบิกจ่ายต่างๆในช่วงที่ผู้อำนวยการฯดำรงตำแหน่ง ก่อนจะพบการร้องเรียนการทุจริตเบิกจ่ายเงินโรงเรียนมาใช้ประโยชน์ส่วนตัว

แฉพฤติกรรม ผอ.โรงเรียน สุดฉาว ใช้ห้องทำงานเป็นบ้านพัก เข้ากลุ่มเซ็กซ์โฟนไม่จ่ายเงิน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนอนุบาลอุบลรัตน์ โดยพบกับ นายเจษฎา ตันติบัญชาชัย นายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ลงพื้นที่มาให้ขวัญกำลังใจครูผู้สอนในโรงเรียนที่เป็นผู้ที่ถูกกระทำและรู้ถึงพฤติกรรมของผู้อำนวยการโรงเรียน และได้ร้องเรียนเข้ามาที่เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในพื้นที่