'ขอนแก่น' พร้อมฉีดวัคซีนเด็ก หลัง อย.อนุมัติให้ไฟเซอร์ฉีดให้เด็กอายุ 5-11ปี ผู้ว่าฯ ย้ำชัดฉีดครบโดส พร้อมประเมินมาตรฐานความปลอดภัยร่วม ศธ.-สธ. พิจารณาเปิดเทอมทันที
22 ธ.ค.2564 - นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้พิจารณาอนุมัติให้วัคซีนไฟเซอร์ สามารถที่จะฉีดให้กับเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี ได้ ทำให้ขณะนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวขอนแก่นในการที่จะนำบุตรหลานมาเข้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าวอย่างมากตามระเบียบและข้อบังคับ รวมทั้งเทคนิควิธีทางการแพทย์กำหนด ซึ่งขณะนี้ได้มีการประสานงานร่วมกับสำนักงานสาธารณสุข, คณะกรรมการบริหารจัดการวัคซีนและคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ในการกำหนดเป็นวาระเร่งด่วนในการประสานงานร่วมทุกฝ่าย รวมทั้งการสำรวจจำนวนเด็กอายุกลุ่มดังกล่าวครอบคลุมทั้ง 26 อำเภอว่ามีจำนวนเท่าใด การบริหารจัดการหน่วยฉีดวัคซีนในทุกพื้น รวมทั้งการเร่งประชาสัมพันธ์และทำความข้าใจให้กับผู้ปกครองในการนำบุตรหลานในช่วงอายุดังกล่าวมาเข้ารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด โดยในสัปดาห์นี้คณะทำงานร่วมทุกฝ่ายจะขอสรุปและรับทราบถึงแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนและแนวทางทางการแพทย์ ทั้งจำนวนโดสที่เด็กๆ จะได้รับ การเว้นระยะห่าง 21 วันและการเตรียมคามพรอมให้กับเด็กๆ ที่จะมารับวัคซีน ทั้งหมดจะต้องละเอียด รอบคอบ มีความพร้อมที่สุด ดังนั้นทันทีที่ทุกอย่างชัดเจนและลงตัว จังหวัดจะประกาศเชิญชวนให้เด็กในกลุ่มอายุดังกล่าวเข้ารับการฉีดวัคซนป้องกันโควิด-19 ตามขั้นตอนต่อไป
“ยืนยันว่าขณะนี้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในความรับผิดชอบของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อนั้นมีเพียงพอและมีครบทุกสูตร ดังนั้นเมื่อ อย.พิจารณาอนุมัติการฉีดให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี เฉพาะยี่ห้อไฟเซอร์เท่านั้น คณะทำงานทางการแพทย์จะเร่งสรุปรายละเอียดและแนวทางรวมทั้งขั้นตอนของการดำเนินงานเสนอต่อที่ประชุมระดับจังหวัดอีกครั้ง เพื่อกำหนดแผนขับเคลื่อนคิกออฟทั้งจังหวัดในภาพรวมต่อไป อย่างไรก็ดียืนยันว่าเด็กๆ ในกลุ่มอายุดังกล่าวจัดเป็นกำลังหลักที่สำคัญของชาติในอนาคต การเข้ารับการฉีดวัคซีนตามที่รัฐบาลกำหนด จะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่ครอบคลุมและเติมจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีให้กับ จ.ขอนแก่น ได้ในอัตราที่เพิ่มขึ้น และเมื่อเด็กๆ ในกลุ่มเป้าหมายได้รับวัคซีนครบเกินกว่า 80% ก็จะมีการประเมินร่วมกระทรวงสาธารณสุขและกะทรวงศึกษาธิการในการพิจารณาเปิดเรียนในช่วงชั้นตามกลุ่มอายุดังกล่าวต่อไป”
ผู้ว่าฯ ขอนแก่น กล่าวต่ออีกว่า ภาพรวมของการฉีดวัคซีนของชาวขอนแก่น ซึ่งมีการตั้งกลุ่มเป้าหมายไว้ที่ 80% ของจำนวนประชากรทั้งหมด คือ 1,256,172 คน ซึ่งขณะนี้ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว 1,107,856 คน หรือคิดเป็น 88.19% ดังนั้นก้าวต่อไปคือการพิจารณาการเร่งการฉีดวัคซีนในสูตรต่างๆ ที่ชาวขอนแก่นสามารถที่จะเลือกได้ และขั้นตอนต่อไปคือการเดินหน้าไปตามเป้าหมายของประชากรชาวขอนแก่น ภาพรวมกว่า 1,600,000 คน ที่ภายในเดือน ม.ค.2565 ประชากรชาวขอนแก่น รวมกว่า 1,600,000 คน จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 มากถึง 75% เนื่องจากขณะนี้กลุ่มอายุ 12-17 ปี นั้นได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 99.99% กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคและหญิงตั้งครรภ์ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 70% แต่ยังคงยังคงน่าเป็นห่วงที่จังหวัดยังคงขอเชิญชวนให้กับกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งทั้งจังหวัดมีทั้งสิ้น 5,586 คน ที่ขณะนี้เข้ารับการฉีดวัคซีนเพียง 32.28% เท่านั้น ดังนั้นการให้บริการเชิงรุกและสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคุณแม่และคุณลูกจึงขอเชิญชวนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนที่หน่วยบริการวัคซีนใกล้บ้านให้เร็วที่สุดด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทลายแก๊งลอบขายนมผงปลอมผ่านสื่อออนไลน์
ตำรวจไซเบอร์ ร่วมกับสนธิ สคบ. -อย.ทลายโกดังแก๊งญวณลอบขายนมผงปลอม ผ่านสื่อออนไลน์
อึ้ง! รองโฆษกรัฐบาลออกมาการันตี 'ยาย้อมผม'
'คารม' เผย อย.สร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภค ระบุยาย้อมผม มีเลขที่ใบรับจดแจ้ง ใช้ชนิดและปริมาณสารเคมีตามมาตรฐานสากล มีความปลอดภัย ย้ำยังไม่มีงานวิจัยชี้ชัดเป็นอันตรายต่อตับหรือไต
จีนเร่งรัด อย.ไทยเร่งออกใบรับรองยารักษามะเร็ง!
รมช.พาณิชย์เผยรัฐมนตรีการค้าจีนฝากการบ้าน บอกให้เร่งรัด อย.ไทยออกใบรับรองยารักษามะเร็งของจีน
สธ. หารือแนวทางเยียวยาผู้ใช้ยาลดความดันโลหิตสูง 'เออบีซาแทน' ปนเปื้อนสารก่อมะเร็ง
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สั่งเรียกคืนยารักษาโรคความดันโลหิตสูง “เออบีซาแทน” (Irbesartan) ที่จำหน่ายจากบริษัทผู้ผลิต เนื่องจากยาบางรุ่นการผลิต พบการปนเปื้อนสารที่อาจก่อมะเร็งเอแซดบีทีใน