หนุ่มคลั่งยาบ้า! คว้าอีโต้ไล่ฟันญาติ ก่อนโดนรุมประชาทัณฑ์ดับ

12 ม.ค. 2567 – ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ศูนย์วิทยุ สภ.รัตนบุรี ได้รับแจ้งจากสายด่วน 191 ว่ามีเหตุหลานชายคลุ้มคลั่งถือมีอีโต้ขนาดใหญ่ ทําร้ายน้าชายตัวเองคาบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นถือมีดอีโต้จะไปฆ่าพี่ชายตัวเองที่บ้านญาติ และจะใช้มีดอีโต้จะทําร้ายพี่สะใภ้ตัวเอง ก่อนจะมีกลุ่มญาติที่อยู่ในเหตุการณ์ช่วยกันรุมประชาทัณฑ์สลบคาที่ บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 79 หมู่ 14 บ้านผือใหญ่ ตําบลรัตนบุรี อําเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์

จากนั้น พ.ต.ท.อิทธิพล กระจายศรี สว.สอบสวน สภ.รัตนบุรี พร้อมด้วย รถพยาบาลรัตนบุรี และหน่วยกู้ภัยฮุก 31 รุดไปที่เกิดเหตุดังกล่าว ก่อนจะพบกลุ่มชาวบ้านกําลังมุงล้อมดูร่างของนายสมนึก จันทร์เหลื่อม อายุ 28 ปี ผู้ก่อเหตุ นอนแน่นิ่งแบบร่างสะบักสะบอมคลุกดินอยู่ หน่วยกู้ภัยรีบนําตัวส่งโรงพยาบาลรัตนบุรีทันที ส่วนน้าชาย (นายสีดา เพิ่มทอง อายุ 59 ปี) ได้รับบาดเจ็บจากการถูกหลานชายใช้มีดอีโต้ฟันใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ขนาดใหญ่ และได้เร่งนําตัวส่งที่โรงพยาบาลรัตนบุรี ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าผู้ก่อเหตุนั้นได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล

นายสนั่น ทองมาก อายุ 56 ปี 102 หมู่ 14 ต.รัตนบุรี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ระหว่างเดินผ่านมาหน้าบ้านของนายสมนึก ผู้ก่อเหตุได้มาเรียกให้ไปช่วยนายสีดา ให้ไปส่งโรงพยาบาล ก่อนตนจะรีบไปบอกลูกสาวของตนให้โทรไปบอก อสม. และผู้ใหญ่ ให้ทราบ และตนได้ถามนายสมนึกไปว่า มีอะไรกันถึงบาดเจ็บ นายสมนึกบอกว่าทะเลาะกัน และได้ใช้มือชกเท่านั้น

หลังจากที่นายสมนึก ที่มีอาการคลุ้มคลั่งทําร้ายร่างกายน้าชายตนเองแล้ว ก็ได้ถือมีดอีโต้จะไปทําร้ายพี่ชายของตนเองที่ไปอยู่ที่บ้านญาติอีกหลัง ซึ่งห่างจากบ้านของผู้ก่อเหตุเพียง 400 เมตร จากนั้นนายสมนึกก็ได้โกนออกมาว่า “มันอยู่ไหนไอ้ศักดิ์ มึงต้องตาย มึงกับกูอยู่ด้วยกันไม่ได้” จากนั้นนายสมนึกก็ใช้มีดอีโต้ที่ถือมาจะเข้าไปทําร้ายหรือฟันพี่สะใภ้ที่อยู่ละแวกนั้นพอดี ก่อนที่นางสาวบุญอุ้ม หลอมทอง อายุ 41 ปี พี่สะใภ้ จะหยิบด้ามจอบเพื่อป้องกันตัวเอง และได้ตีเข้าไปที่ขาของนายสมนึก และนายสมนึกก็ใช้มีดฟัน โชคดีที่ไม่โดน หลังจากนั้นญาติๆ ที่อยู่บริเวณนั้น เห็นเหตุการณ์จึงได้เข้ารุมประชาทัณฑ์

ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นางทองศูนย์ เพิ่มทอง อายุ 68 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ ขณะมารอรับศพนายสมนึก เล่าว่า เมื่อช่วงเช้านายสมนึก ได้มาขอเงินจากตน ตนบอกว่ามีเหลือแค่ในกระเป๋าเสื้อ 200 บาท เป็นเงินผู้สูงอายุ จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ฉุดกระชากเยื้อแย่งไปจากตน และจะทําร้ายตน จึงรีบหนีออกไปหลบที่บ้านญาติ

ส่วนนายศักดิ์ หวังโสม อายุ 43 ปี พี่ชายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า น้องชายเคยก่อเหตุทําร้ายตนมาโดยตลอดเวลาเมายาบ้า และเมาสุรา และเคยพยายามจะข่มขืนภรรยาของตนด้วยหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ แต่ตนยอมอดทนอดกลั้นมาตลอดเวลา สำหรับการตายของน้องชายตนในครั้งนี้ ตนก็เสียใจเช่นกัน แต่ตนคิดว่าคงเป็นเวรเป็นกรรมของน้องชาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไฟไหม้ห้องทำงาน รองผอ.รร.เมืองตลุงพิทยาสรรพ์  คาดอากาศร้อนทำเบรกเกอร์ช็อต

เกิดเหตุไฟไหม้ห้องรอง ผอ.โรงเรียนมัธยม อ.ประโคนชัย  จ.บุรีรัมย์ ลามไหม้ห้องวิชาการ  เสียหายทั้ง 2 ห้อง  ตรวจสอบพบเบรกเกอร์เครื่องปรับอากาศในห้องรอง ผอ. มีรอยไหม้ คาดไฟฟ้าลัดวงจร บวกกับอากาศที่ร้อนจัด

รวบสาวใหญ่หนีหมายจับ 19 ปี อีก 5 เดือนหมดอายุ ไม่รอดคดีครอบครองยาเสพติด

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.ฯ , พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1ฯ, พ.ต.ท.พีรบูรณ์ แก้วดู รอง ผกก.สส.1ฯ , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ฐากรณ์

'บิ๊กต่าย' ยันไม่กระเหี้ยนกระหือรืออยากเป็นผบ.ตร. ไม่ติดใจถูกกล่าวหาหลอกนายกฯ

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้กล่าวพาดพิงจากประเด็นที่ลงนามคำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการไว้ก่อนว่า

เหยื่อ 'แก๊งนักรบ' โผล่อีก! ผู้บังคับบัญชาพาพลทหารมอบตัวแล้ว

จากกรณีที่นายวิ่งและนางสาวกุลนันท์ ชาว อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นายระพีพัฒน์ หรือแพต อายุ 16 ปี ได้นำคลิปหลักฐานขณะลูกชายถูกรุมทำร้ายร่างกาย