ชาวบุรีรัมย์ ผวาแก๊งโจ๋ทมิฬ ดักปาระเบิด ใช้มีดไล่ฟันคนไม่เลือกหน้าทั้งผู้หญิง คนแก่

ชาวบ้าน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ผวา หลังแก๊งวัยรุ่นกว่า 10 คน รวมกลุ่มดักปาระเบิดมีดไล่ฟัน ปชช.ที่ขับรถผ่านตอนกลางคืนแบบไม่เลือกหน้า ไม่เว้นกระทั่งผู้หญิง คนแก่ ล่าสุดหนุ่มวัย 24 ขี่ จยย.ออกไปซื้อของโดนฟันหัวกลางหลังเลือดอาบทุบรถโยนทิ้งน้ำ ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันคาดคึกคะนอง ตร.รู้ตัวกลุ่มวัยรุ่นแล้วกำลังเร่งติดตามตัวดำเนินคดี

วันที่ 1 มี.ค. 2567 ชาวบ้านในตำบลอีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ต่างหวาดผวาแทบไม่กล้าออกจากบ้านตอนกลางคืน หลังมีแก๊งวัยรุ่นกว่า 10 คน รวมตัวกันตอนกลางคืนแล้วไปดักซุ่มบนถนน สายบ้านตะโก-อีสานเขต ใกล้กับทางโค้งบ้านโพรงกะจะ ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ แล้วก่อเหตุปาระเบิด ใช้มีดไล่ฟัน ทำร้ายร่างกายคนที่ขับรถจักรยานยนต์สัญจรผ่านไปมาเส้นทางดังกล่าวแบบไม่เลือกหน้า ไม่เว้นกระทั่งผู้หญิง คนชรา

ล่าสุด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 3 ทุ่มกว่า วันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา นายวรพล ภูมิรินทร์ ณ อยุธยา อายุ 24 ปี ชาวบ้านหนองโสน ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อน 2 คน เพื่อจะไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ แต่พอถึงบริเวณทางโค้งบ้านโพรงกะจะ ได้มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 10 คน รวมตัวกันดักหน้า หลังแล้วจู่ๆ ก็ปาระเบิดที่ดัดแปลงขึ้นเองใส่ ก็พยายามเร่งเครื่องเพื่อจะหนี แต่ก็มีวัยรุ่นอีก 2 คน ออกมาจากพุ่มไม้ใช้มีดฟันที่หัวนายวรพล 1 ครั้ง และกลางหลังอีก 2 ครั้ง ทั้งยังทำร้ายเพื่อนที่มาด้วย และใช้มีดฟันรถจักรยานยนต์เสียหายก่อนจะโยนทิ้งน้ำ ก่อนจะพากันหลบหนี จากนั้นตนกับเพื่อนก็พากันไป รพ. เพื่อให้หมอช่วยทำแผล

นายวรพล ยืนยันว่า ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทหรือชกต่อยกับใคร ไม่เคยมีคู่อริ เชื่อว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวน่าจะรวมตัวกันก่อเหตุด้วยความคึกคะนองมากกว่า เพราะที่ผ่านมาก็ทราบว่ามีรถที่สัญจรไปมาถนนสายนี้ ก็ถูกดักทำร้ายหลายคน ไม่เว้นกระทั่งผู้หญิง ผู้สูงอายุ เพราะเมื่อหลายปีก่อนตนขับ จยย.พาแม่ไปซื้อของก็ยังถูกทำร้ายทั้งแม่และลูก ก็ไม่รู้ว่าเป็นวัยรุ่นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ แต่ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่รวมตัวกันก่อเหตุมาดำเนินคดี เพระหากปล่อยไว้ก็จะสร้างความเดือดร้อนเสียหายกับคนอื่นอีก

ด้านนางอ้อย ประเมินชัย อายุ 54 แม่ผู้บาดเจ็บ เล่าให้ฟังว่า ลูกชายตนเองไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร คืนเกิดเหตุก็แค่ขี่ จยย.จะไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อ แต่ยังไปไม่ถึงร้านค้าก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นดักทำร้ายบาดเจ็บก่อน เชื่อว่าน่าจะรวมตัวก่อเหตุด้วยความคึกคะนอง เพราะก่อนหน้านี้ก็มีทั้งผู้หญิง ผู้สูงอายุ ถูกดักทำร้ายคล้ายกัน และเมื่อหลายปีก่อน ลูกชายพาตนขี่ จยย.ไปซื้อของก็ถูกดักทำร้ายเหมือนกัน ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีด้วย เพราะตอนนี้คนในหมู่บ้านต่างก็หวาดผวาไม่กล้าไปไหนมาไหนตอนกลางคืน

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เฉลิมพระเกียรติ ทราบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ตระการตา! ชาวจังหวัดบุรีรัมย์เร่งเตรียมงาน “ลมหายใจของแผ่นดิน” มิวสิคัลเทิดพระเกียรติ สุดยิ่งใหญ่แห่งปี พร้อมเปิดเมืองต้อนรับนทท.ทั่วโลกแล้ว

จังหวัดบุรีรัมย์เผยความคืบหน้าและการดำเนินงานช่วงโค้งสุดท้าย การจัดงาน “ลมหายใจของแผ่นดิน” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

อลังการ! บุรีรัมย์เปิดเมืองครั้งใหญ่ ร่วมใจจัดงาน “ลมหายใจของแผ่นดิน” ในรูปแบบมิวสิคัล ด้วยเทคโนโลยีจัดแสดงระดับโลก สุดยิ่งใหญ่ตระการตา

สมราคาเมืองแห่งบิ๊กอีเวนต์ ประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมใจกันจัดงาน “ลมหายใจของแผ่นดิน” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567

ตลาดหาบเร่ 5 นาที หนึ่งเดียวในประเทศไทย หนุนเป็นซอฟต์พาวเวอร์บุรีรัมย์

ที่บริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ทุกเช้าเวลาประมาณ 08.00 น. เป็นช่วงรถไฟเข้าเทียบท่า จะมีประชาชนจำนวนมาก มารอเตรียมเลือกซื้อสินค้าของกลุ่มแม่ค้าพ่อค้าที่เดินทางมาจากอำเภอใกล้เคียง นำสินค้าพื้นบ้าน เช่น พืชผัก อาหารพื้นบ้านปรุงสำเร็จ ไก่บ้าน

รวบแล้ว โจรสาวแสบหลอกยายขึ้นรถจับมือไพล่หลัง ชิงเงินและทองเกือบ 2 แสน

จับแล้วโจรสาวแสบทำทีเป็นพลเมืองดีอาสาพายาย 71 ชาวบุรีรัมย์ ขึ้นรถเก๋งไปทำธุระในตัวเมือง ก่อนขับพาไปไกลกว่า 50 กม. จับมือไพล่หลังขู่จะยิงชิงเงินและทองหนักเกือบ 6 บาท มูลค่าเกือบ 2 แสน ขณะหนีกบดานชลบุรีนานกว่า 2 เดือน

ตายายร้องถูกอดีตผอ.รร .ยึดที่สปก.เกือบ 20 ปี เพียงยืมเงิน 2 หมื่น ชาวบ้านโดนกันเพียบ

สองตายายบุกร้องศูนย์ดำรงธรรม อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ตรวจสอบช่วยเหลือ ถูกอดีต ผอ.รร. ยึดที่ สปก.กว่า 7 ไร่เกือบ 20 ปีไปทำประโยชน์ส่วนตัว