พ่อเฒ่าวัย 71 ปี ชาวบ้านปลัด ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ เพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่า ออกมาจากคุกได้ 2 ปีกว่า ดอดขึ้นโรงพักมอบตัวตำรวจ สารภาพว่าได้ลงมือทำร้ายเมียจนเสียชีวิต ปมเหตุอ้างรับไม่ได้ที่เมียแอบไปมีชู้ บอกเคยเตือนแล้วแต่ไม่ฟัง ขณะเพื่อนบ้านนำเมียส่งรักษาโรงพยาบาล อาการยังน่าห่วง
3 เม.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 3 เม.ย.67 นายสอบ โสมวิเศษ อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ที่ 1 บ้านปลัด ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้อ มาสด้า สีขาว ทะเบียน บห 3442 บุรีรัมย์ เดินทางมาที่ สภ.พลับพลาชัย ต.สะเดา อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม โดยที่บริเวณหน้าฝากมีรอยคราบเลือด และเสื้อยืดที่สวมใส่ กับมือมีรอยคราบเลือดติดอยู่ เพื่อขอมอบตัวกับ ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี ร้อยเวร(สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ขณะกำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก
โดยนายสอบ อ้างว่า ตนเองได้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และทุบตี นางสมชาว พัชนี อายุ 69 ปี ภรรยาของตนเองจนเสียชีวิต โดยศพนอนแน่นิ่งจมกองเลือดอยู่ในที่เกิดเหตุ บริเวณกระท่อมท้ายป่าหลังหมู่บ้านปลัด หมู่ที่ 1 ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์
จากนั้น ได้รายงานให้ พ.ต.อ.เจตสฤษณ์ แพ่งศรีสาร รอง ผบก.ฯบุรีรัมย์ รรท. ผกก.สภ.พลับพลาชัย , พ.ต.ท.วิชาญ กระจ่างโพธิ์ รอง ผกก.สืบสวนฯ รรท.รอง ผกก.สส.สภ.พลับพลาชัย ทราบก่อนจะพร้อมด้วย พ.ต.ท.อภิภู จูประโคนสุข สว.สืบสวน ภ.จว.บุรีรัมย์ รรท.สว.สส.สภ.พลับพลาชัย พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พลับพลาชัย ควบคุมตัวนำตัวนายสอบ ที่เดินทางเข้ามามอบตัวกับตำรวจ ว่าทำร้ายภรรยาเสียชีวิต เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นกระท่อมในป่าท้ายหมู่บ้านปลัด ต.จันดุม อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ อยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 2 กิโลเมตร พบคราบเลือดกองอยู่บริเวณพื้นดิน และรองเท้าแตะ 1 ข้าง อยู่ข้างกระท่อม แต่ไม่พบ นางสมชาว ภรรยาของนายสอบที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต เนื่องจากญาติและชาวบ้านได้ช่วยกันนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลพลับพลาชัย ไปก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเดินทางมาถึง และจากการตรวจสอบล่าสุดทราบว่านางสมชาว ยังไม่เสียชีวิตเพียงได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ซึ่งทางโรงพยาบาลพลับพลาชัย ได้นำตัวส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งอาการตอนนี้ยังน่าเป็นห่วง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ควบคุมนายสอบ ไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพ พร้อมได้สอบสวนถึงสาเหตุในการทำร้ายร่างกายภรรยาด้วย โดนายสอบ บอกว่า ก่อนจะลงมือทำร้ายภรรยา ก็ได้มีปากเสียงกันเรื่องที่ภรรยาแอบไปมีชู้ ทำให้ตนเองรับไม่ได้ ซึ่งเคยเตือนแล้วแต่ก็ไม่ฟัง ทั้งทะเลาะกันเรื่องสมบัติด้วย แต่พอถามว่าตาใช้อะไรทำร้ายภรรยา ก็บอกว่า มีแค่ตีนกับมือโดยการต่อย เตะ แล้วเอามือหยิกผมแล้วโขกกับพื้นดิน ทั้งยังได้ใช้ตีนเหยียบกระทืบที่คอจนนอนแน่นิ่ง จมกองเลือดแล้วตนจึงขับรถยนต์ออกจากกระท่อม แล้วไปบอกเพื่อนบ้านว่าตนเองได้ฆ่าภรรยาเสียชีวิตแล้วอยู่ที่กระท่อมให้ไปดูศพด้วย ก่อนจะขับรถยนต์เดินทางมาที่ สภ.พลับพลาชัย เพื่อขอเข้ามอบตัวดังกล่าว
ด้านนายปน หรีกประโคน อายุ 80 ปี อดีตกำนันตำบลจันดุม และเป็นเครือญาติของผู้บาดเจ็บ บอกว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนอารมณ์ร้อน และชอบระแวงว่าเมียคบชู้ ทั้งเคยก่อเหตุทำร้ายร่างกายเมียบ่อยครั้ง ซึ่งทุกครั้งที่ทะเลาะกันเมียจะวิ่งไปบ้านน้องสาวให้ช่วย ทำให้นายสอบ ผู้เป็นสามีคิดไปว่าน้องสาวของเมียรู้เห็นด้วย จึงไม่พอใจใช้มีดฟันจนน้องเมียได้รับบาดเจ็บ และถูกจับกุมตัวดำเนินคดี โดยเพิ่งจะพ้นโทษออกมาได้ 2 ปีกว่า แต่ก็กลับมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายเมียเป็นประจำอีก ส่วนสาเหตุน่าจะเป็นสาเหตุเดิมๆ ที่ชอบระแวงว่าเมียคบชู้ กระทั่งวันนี้ได้ลงมือทำร้ายเมียสาหัสจนแน่นิ่ง แล้วขับรถไปบอกชาวบ้านว่าฆ่าเมียตายแล้ว ก่อนจะไปมอบตัวโรงพัก ชาวบ้านจึงพากันมาดูก็พบเมีย นอนแน่นิ่งกับพื้นดิน จึงรีบพาส่งรักษาที่โรงพยาบาลพลับพลาชัย แต่นายสอบ คิดว่าเมียตายแล้ว จึงไปบอกคนอื่นว่าตายและขับรถไปมอบตัว
อย่างไรก็ตาม คำให้การของนายสอบ เป็นเพียงคำกล่าวอ้างฝ่ายเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่ต้องรอให้อาการภรรยาที่ถูกทำร้ายดีขึ้น จึงจะไปสอบปากคำถึงชนวนเหตุที่แท้จริง และดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดับสลด! นักเรียน ม.5 กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อน เผยผู้ตายโพสต์บอกล่วงหน้า
สลดนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนมัธยม ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อนร่างกระแทกพื้นสาหัส ครูเร่งนำส่ง รพ.ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ตร.ตรวจสอบพบก่อนเกิดเหตุ 10 ชั่วโมง ผู้ตายโพสต์ข้อความใน Instagram ส่วนตัว “จะตลกแค่ไหนวะถ้าพรุ่งนี้กูโดดตึก” เร่งสาเหตุ
ชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกหนัก เหลือตันละ 890 บาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ
เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.บุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกต่ำในรอบหลายปี เหลือเพียงตันละ 890 บาท ไม่สอดคล้องกับภาระต้นทุนทั้งค่าต้นพันธุ์ ยากำจัดวัชพืช ปุ๋ย และค่ารถตัดที่แพงขึ้น
บุรีรัมย์ระดม ชรบ.ชายแดน 2,000 นาย ฝึกเข้มรับมือเหตุฉุกเฉิน
บ้านกรวดเปิดแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ติวเข้ม ชรบ. 118 หมู่บ้าน ใช้อาวุธ–ป้องกันตัว เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยชาวบ้านแนวชายแดน หลังเหตุระเบิด-ปะทะชายแดนถี่ขึ้น
ชาวบุรีรัมย์ เตรียมร้อง 'อนุทิน' ให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบอื้อ
ชาวบุรีรัมย์เตรียมเข้ากรุงเทพยื่นหนังสือนายกฯอนุทินให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล เผยชาวบ้านไม่ยอมรับการจัดเวทีรับฟัง-หวั่นผลกระทบอื้อ
ชาวบ้านยังผวา เล่าอดีต 40 ปีก่อน เขมรแดงบุกปล้นสะดม-ฆ่าคนไทย วอนปิดด่าน 'ช่องสายตะกู' ถาวร
ชาวบ้าน ผู้สูงอายุชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม เมื่อ 40 กว่าปีก่อน เคยถูกเขมรแดงเข้ามาปล้นสะดม จุดไฟเผาตลาดนิคมบ้านกรวด ทำให้มีทรัพย์สินเสียหาย คนตายหลายชีวิต ทั้งยังมีเขมรที่ลี้ภัยสงครามเข้ามาสร้างเพิงพักอาศัยจนเกือบเสียดินแดน แต่ถูกทหารไทยผลักดันออกไปก่อน อยากให้ทางการปิด "ช่องสายตะกู" ถาวรกลัวเขมรแฝงตัวเข้ามาหาข่าวหรือทำร้ายคนไทยอีก
อธิบดีปกครอง รับเป็นการบ้านเรื่องค่าตอบแทน ชรบ. ชายแดน เสนอรัฐบาลพิจารณา
อธิบดีกรมการปกครองลงพื้นที่บุรีรัมย์ ติดตามสถานการณ์ตามแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เยี่ยมให้กำลัง ปชช. ที่ได้รับผลกระทบเหตุสู้รบและผู้ปฏิบัติงานชายแดน พร้อมหนุนงบสร้างหลุมหลบภัย


