ญาติเผยสาเหตุ ตาวัย 74 ตายในรถขณะเดินทางกลับบ้าน ไม่เกี่ยวแอร์ไม่เย็น

ลูกหลานตาวัย 74 ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ที่นั่งเสียชีวิตในรถยนต์ขณะพาเดินทางกลับบ้านเกิดในวาระสุดท้ายตามความประสงค์ของญาติ ยืนยันเสียชีวิตด้วยโรคชราที่สภาพร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับแอร์ไม่เย็นหรือเดินทางนาน ด้าน นพ.สสจ.บุรีรัมย์ แนะช่วงนี้อากาศร้อนทุกครอบครัวควรดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ให้อยู่ในที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ดื่มน้ำเยอะๆ ให้อุณหภูมิในร่างกายไม่สูงเกินไป

15 เม.ย.2567 - จากกรณีที่มีข่าวเศร้าคุณตาวัย 74 ปี ชาวอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ เสียชีวิตในรถยนต์ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ขณะลูกหลานพาเดินทางจากจังหวัดฉะเชิงเทรา กลับบ้านเกิดที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ สาเหตุเพราะอากาศร้อนจัดแอร์ในรถเย็นไม่เพียงพอ ประกอบกับใช้เวลาเดินทางนานถึง 11 ชั่วโมง

ล่าสุดวันนี้ (15 เม.ย.67) ทีมข่าวได้เดินทางไปยังที่วัดป่าประชานิมิต อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งทางครอบครัวก็เตรียมประกอบพิธีฌาปนกิจศพนายฉัตร อายุ 74 ปี ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งญาติพี่น้อง ลูกหลานก็อยู่ในความโศกเศร้าที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก

ขณะที่ นางสาวจำรัส ลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า พ่อมีลูกทั้งหมด 4 คน ตนเป็นพี่สาวคนโต พ่อไปอาศัยอยู่กับน้องชายคนเล็กที่จ.ฉะเชิงเทรา พ่อเริ่มป่วยด้วยโรคชรามาประมาณ 2 ปีแล้ว ร่างกายอ่อนแอตามวัย ซึ่งทุกคนในครอบครัวก็ทราบดี จึงตัดสินใจว่าในวาระสุดท้ายของพ่อลูกๆ หลานๆ ก็อยากให้พ่อกลับมาบ้านเกิด น้องชายจึงทำตามความประสงค์ของลูกหลานญาติพี่น้อง ด้วยการพาพ่อเดินทางกลับมาบ้านเกิด ก็ไม่คิดว่าพ่อจะเสียชีวิตก่อนจะมาถึงบ้าน ทุกคนก็เสียใจแต่ก็ทำใจอยู่แล้ว ยืนยันว่าพ่อเสียชีวิตด้วยโรคชรา ไม่ได้เกี่ยวกับแอร์ไม่เย็น หรือการเดินทางเป็นเวลานานถึง 11 ชม.ตามที่เป็นข่าว เพราะเดินทางมาถึงบ้านประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า

ขณะที่ เพจของทางตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า จากการสอบถามนายนพคุณ บุตรชายผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนพ่อจะเสียชีวิตป่วยเป็นโรคชรามาประมาณ 2 ปีแล้ว ญาติจึงอยากให้นำกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ จึงได้พาพ่อกลับมาตามความประสงค์ของญาติและลูกหลาน โดยได้ออกเดินทางจากจังหวัดฉะเชิงเทรา เวลาประมาณ 04.30 น. ของวันที่ 13 เม.ย.67 และได้เดินทางมาถึงที่บ้านเกิด เวลาประมาณ 09.00 น. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นปกติของการเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และไม่แตกต่างกันมากในการเดินทางเวลาปกติ ก็จะใช้เวลาประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง แต่เมื่อมาถึงบ้านพบว่าพ่อได้นั่งเสียชีวิตภายในรถยนต์แล้ว เนื่องจากพ่อมีโรคประจำตัวคือโรคชรา สภาพร่างกายอ่อนแออยู่แล้ว

ด้านนายแพทย์พิเชษฐ พืดขุนทด นพ.สาธารณสุข จ.บุรีรัมย์ ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลกรณีที่เป็นข่าว ก็ทราบว่าคุณตา ป่วยโรคชรามาสักพัก ซึ่งร่างกายก็อ่อนแออยู่แล้ว ระบบการหายใจก็จะไม่เป็นปกติ เพราะหัวใจไม่แข็งแรงอยู่แล้ว ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ ก็อยากจะประชาสัมพันธ์แนะนำช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัดในช่วงนี้ ทุกครอบครัวก็ควรดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิด ทั้งช่วงการเดินทาง หรืออาศัยอยู่ที่บ้านก็ตาม โดยเฉพาะช่วงเดินทางก็ควรจะเตรียมพร้อมด้วยการให้พักผ่อนให้เต็มที่ ดูแลเรื่องอาการ น้ำดื่ม การขับถ่าย หากระยะทางไกลก็ควรแวะพักเป็นระยะ เพื่อไม่ให้เหนื่อยล้าเกินไป ส่วนผู้สูงอายุที่บ้านก็ควรให้อยู่ที่สถานที่อากาศถ่ายเทสะดวก ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อไม่ให้อุณหภูมิในร่างกายสูงเกินไป หากมีอากาศหน้ามืดอ่อนเพลียก็ควรพาไปตรวจเช็คที่ รพ. หรือโทรสายด่วน 1669 ได้ทันที

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดับสลด! นักเรียน ม.5 กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อน เผยผู้ตายโพสต์บอกล่วงหน้า

สลดนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนมัธยม ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อนร่างกระแทกพื้นสาหัส ครูเร่งนำส่ง รพ.ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ตร.ตรวจสอบพบก่อนเกิดเหตุ 10 ชั่วโมง ผู้ตายโพสต์ข้อความใน Instagram ส่วนตัว “จะตลกแค่ไหนวะถ้าพรุ่งนี้กูโดดตึก” เร่งสาเหตุ

ชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกหนัก เหลือตันละ 890 บาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ

เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.บุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกต่ำในรอบหลายปี เหลือเพียงตันละ 890 บาท ไม่สอดคล้องกับภาระต้นทุนทั้งค่าต้นพันธุ์ ยากำจัดวัชพืช  ปุ๋ย  และค่ารถตัดที่แพงขึ้น 

บุรีรัมย์ระดม ชรบ.ชายแดน 2,000 นาย ฝึกเข้มรับมือเหตุฉุกเฉิน

บ้านกรวดเปิดแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ติวเข้ม ชรบ. 118 หมู่บ้าน ใช้อาวุธ–ป้องกันตัว เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยชาวบ้านแนวชายแดน หลังเหตุระเบิด-ปะทะชายแดนถี่ขึ้น

ชาวบุรีรัมย์ เตรียมร้อง 'อนุทิน' ให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบอื้อ

ชาวบุรีรัมย์เตรียมเข้ากรุงเทพยื่นหนังสือนายกฯอนุทินให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล เผยชาวบ้านไม่ยอมรับการจัดเวทีรับฟัง-หวั่นผลกระทบอื้อ

ชาวบ้านยังผวา เล่าอดีต 40 ปีก่อน เขมรแดงบุกปล้นสะดม-ฆ่าคนไทย วอนปิดด่าน 'ช่องสายตะกู' ถาวร

ชาวบ้าน ผู้สูงอายุชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม เมื่อ 40 กว่าปีก่อน เคยถูกเขมรแดงเข้ามาปล้นสะดม จุดไฟเผาตลาดนิคมบ้านกรวด ทำให้มีทรัพย์สินเสียหาย คนตายหลายชีวิต ทั้งยังมีเขมรที่ลี้ภัยสงครามเข้ามาสร้างเพิงพักอาศัยจนเกือบเสียดินแดน แต่ถูกทหารไทยผลักดันออกไปก่อน อยากให้ทางการปิด "ช่องสายตะกู" ถาวรกลัวเขมรแฝงตัวเข้ามาหาข่าวหรือทำร้ายคนไทยอีก

อธิบดีปกครอง รับเป็นการบ้านเรื่องค่าตอบแทน ชรบ. ชายแดน เสนอรัฐบาลพิจารณา

อธิบดีกรมการปกครองลงพื้นที่บุรีรัมย์ ติดตามสถานการณ์ตามแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เยี่ยมให้กำลัง ปชช. ที่ได้รับผลกระทบเหตุสู้รบและผู้ปฏิบัติงานชายแดน พร้อมหนุนงบสร้างหลุมหลบภัย