ตะลึง! พบพระพุทธรูปทองเหลืองถูกชำแหละเป็นชิ้นส่วน ซุกโขดหินชายหาดชุมพร

ชาวบ้านเดินเก็บขยะชายหาด เจอถุงปริศนาซุกโขดหิน แจ้งผู้ใหญ่บ้านเปิดดูถึงตะลึงพบเป็นพระพุทธรูปทองเหลืองถูกชำแหละเป็นชิ้นส่วนจำนวนมากรอนำไปขาย แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ

13 พ.ค.2567 - ร.ต.อ.หญิง พัชราภรณ์ แก้วทอง รอง สว.สอบสวน สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งจาก นายอวยชัย ยอดสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ตำบลนาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่าได้มีชาวบ้านไปพบพระพุทธรูปจำนวนมาก คาดว่าถูกคนร้ายที่ขโมยมา แล้วนำมาซุกไว้ในโขดหิน ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวหาดคอเขา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมนายสำเริง บุญยม กำนันตำบลนาพญา อ.หลังสวน จ.ชุมพร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.หลังสวน จ.ชุมพร

ในที่เกิดเหตุ พบถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ถูกเปิดปากถุงอ้าออก จนเห็นชิ้นส่วนของพระพุทธรูปทองเหลือง ถูกตัดชะและออกเป็นชิ้นส่วนจำนวนมาก ซุกอยู่ข้างโขดหินขนาดใหญ่อยู่ระหว่างวัดคอเขากับศาลาพักผ่อนจุดชมวิวหาดคอเขา เจ้าหน้าที่จึงได้นำออกมาเพื่อทำการตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ได้นำห่อถุงพลาสติกขนาดใหญ่ดังกล่าวมาเทกองเพื่อคัดแยกแต่ละชิ้น เนื่องจากพระพุทธรูปทุกองค์ ถูกตัดแยกชิ้นส่วนด้วยหินเจียรไฟฟ้า ซึ่งเมื่อนำชิ้นส่วนทองเหลืองที่ถูกชำแหละออกเป็นชิ้นๆ มาแยกเรียงกอบเพื่อประกอบพิสูจน์ทีละชิ้น จนทราบว่าเป็นพระพุทธรูปประจำวัน จำนวน 14 องค์ และเป็นพระพุทธรูปทรงพระประธาน ขนาดหน้าตัก 7 นิ้ว 1 องค์ ขนาด 12 นิ้ว 1 องค์ พระพุทธรูปทั้งหมดถูกชำและแยกชิ้นส่วนเหมือนกับจะนำไปขายเป็นเศษทองเหลือง

จากการสอบถาม นายอวยชัย ยอดสุวรรณ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ตำลนาพญา ผู้แจ้งทราบว่าเมื่อช่วงสายของวันนี้ ขณะที่ตนนั่งอยู่ที่บ้านซึ่งห่างจากวัดคอเขาไม่มากนัก ได้มี นายอภิเชษฐ์ ไพศาลภูมิ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 1 ต.บลแดง อ.หลังสวน ซึ่งมีอาชีพเป็นชาวประมงและในเวลาว่างก็จะออกเดินตามชายหาดเพื่อเก็บขยะ ขวดแก้ว พลาสติก ที่ถูกคลื่นทะเลซัดมาติดตามชายฝั่ง เพื่อนำไปคัดแยกขาย ได้เดินหน้าตื่นมาบอกกับตนว่า ได้ไปพบถุงพลาสติกต้องสงสัย ถูกซุกอยู่ในโขดหิน ตนเองจึงให้นายอภิเชษฐ์พาไปดู ก็พบถุงดังกล่าวจริงและเมื่อเปิดดูก็พบว่าข้างในถุงมีชิ้นส่วนทองเหลืองลักษณะคล้ายพระพุทธรูป จึงเชื่อว่าเป็นของที่ถูกคนร้ายไปขโมยมาจากวัดแห่งใดแห่งหนึ่งแล้วตัดชำแหละ แล้วนำมาซุกซ่อนไว้ก่อน เพื่อจะนำทองเหลืองไปขาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการบันทึกยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำส่งทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานช่วยตรวจรอยนิ้วมือแฝงตามชิ้นส่วนต่างๆบนพระพุทธรูปดังกล่าว พร้อมทั้งให้ทางกำนันและผู้ใหญ่บ้านร่วมตรวจสอบในพื้นที่ ว่ามีวัดและสำนักสงฆ์ ใด ถูกคนร้ายแอบย่องเข้าไปขโมยพระพุทธรูปหรือไม่ จะได้ให้เข้าแจ้งความเพื่อติดตามตัวหามารศาสนารายนี้ต่อไป.