ด.ญ.อายุ 12 ถูกน้าเขยข่มขืนหลายครั้ง ขู่ฆ่าห้ามบอกใคร ย่าวอนตร.เร่งจับ คดีไม่คืบ

คืบหน้า "น้าเขย" ข่มขืนหลานสาว ป.6 แฟนสาวผู้ก่อเหตุเผยขอไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีกตลอดชีวิต ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ขณะที่เจ้าตัวขาดการติดต่อตั้งแต่ก่อเรื่อง

27 พ.ค.2567 - จากกรณีนายเอ(นามสมมุติ) อายุ 45 ปี ข้าราชการครูที่ จ.จันทบุรี ร้องเรียนขอความช่วยเหลือสื่อมวลชน ให้ตรวจสอบความคืบหน้ากรณีที่นางดำ (นามสมมุติ) อายุ 67 ปี มารดาและเป็นย่าของด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น หลังถูกเพื่อนบ้านชื่อนายปาย ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ข่มขืนกระทำชำเรานานหลายครั้ง โดยเกรงว่าเรื่องจะเงียบและคนก่อเหตุจะลอยนวล

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปบ้านของนายปาย อายุ 24 ปี น้าเขยที่ก่อเหตุ ที่บ้านหนองน้ำขุ่นเหนือ ม.16 ต.บ้านหัน อ.โนนศิลา จ.ขอนแก่น โดยได้พบกับน.ส.น้ำ (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี แฟนสาวของนายปาย ซึ่งมีลูกชายด้วยกันอายุ 1 ขวบ 4 เดือน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวนั้น ตนเองทราบเรื่องแล้วและได้มีการพูดคุยกันแล้ว แต่นายปายได้หายไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งนายปายชอบเล่นชอบเที่ยวชอบสนุกไม่ค่อยอยู่บ้าน ติดเพื่อน จนความสัมพันธ์ไม่ค่อยจะดีนัก และตอนนี้หายไปไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย

"เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ตนเองเห็นแชทของแฟนคุยกับหลานสาว มีการชักชวนไปหา ตนเองจึงนำแชทข้อความไปให้ยายของน้องบีดู โดยข้อความในแชทพบว่าน่าจะมีการลบข้อความออกไปบางส่วน เป็นข้อความที่ฝ่ายชายถามหลานสาวว่าอยู่ไหน โดยหลานตอบกลับมาว่าอยู่บ้าน ฝ่ายชายบอกต่อว่า ออกมาหาหน่อย ก่อนที่ข้อความจะสิ้นสุดเท่านั้น และหลานสาวก็ออกไปหาแฟนตนเอง ตนเองเสียใจที่หลานสาวไม่บอกอะไรเลย ทั้งที่มาเล่นด้วยทุกวัน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้ส่วนตัวขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง"

น.ส.น้ำ กล่าวต่ออีกว่า ครั้งล่าสุดเห็นนายปาย เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่งานศพของคนในหมู่บ้าน และหลังจากเกิดเรื่องขึ้น ตนเองก็ได้ไปถามนายปายว่าคบกันนานหรือยัง ได้กันกี่ครั้ง แต่แฟนหนุ่มก็บอกเพียงว่าจำไม่ได้ลืมแล้ว ก่อนหายออกจากบ้านไปและไม่ติดต่อกลับมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งวันนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่มาสอบถามหานายปายอยู่ที่บ้านด้วย ตนเองก็ให้ข้อมูลแบบนี้ไปเช่นกันเพราะไม่ทราบว่านายปายอยู่ที่ไหนหรือไปอยู่กับใคร เพราะนายปายเป็นคนที่ชอบกินชอบเที่ยวชอบเล่น เสพยาเสพติด และเล่นพนันทุกอย่าง ซึ่งโดยส่วนตัวไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีก ขอปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกฎหมายเท่านั้น

ด้านนางดำ ย่าของด.ญ.บี กล่าวว่า คนที่ข่มขืน ด.ญ.บีหลานสาวก็คือหลานเขย มีบ้านพักอาศัยอยู่ใกล้ๆกัน ซึ่ง เรื่องถูกเปิดเผยเพราะหลานชาย อายุ 15 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.3 ซึ่งเล่นเฟซบุ๊กและสามารถเข้ารหัสเฟซบุ๊กของ ด.ญ.บี ได้ และพบข้อความในแชทของ ด.ญ.บี ที่พูดคุยกับนายปาย ซึ่งเป็นหลานเขยของตนเองในลักษณะข่มขู่ และชักชวนให้ออกไปหลับนอนกัน หลานชายจึงมาบอกให้ทราบ พอรู้เรื่องจึงเค้นเอาความจริงจากหลานสาวที่กำลังซึมเศร้า ซึ่งหลานสาวก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง

"หลานสาวเล่าว่า ครั้งแรกที่ถูกข่มขืนนั้น เป็นช่วงสงกรานต์เกิดขึ้นภายในห้องน้ำของโรงเรียนประจำหมู่บ้าน นายปายไปหาและหลอกล่อเข้าห้องน้ำ ข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นก็ข่มขู่ห้ามบอกเรื่องนี้กับใคร ถ้าบอกจะฆ่าทิ้ง หลานสาวจึงไม่กล้าบอกใคร จากนั้นนายปายก็หลอกล่อออกไปหาที่ทุ่งนา และข่มขืนต่ออีก 4 ครั้ง รวมเป็น 5 ครั้ง โดยที่หลานสาวก็ยังไม่กล้าบอกใคร อีกทั้งเป็นช่วงปิดเทอมหลานสาวกับเพื่อนจะไปเล่นที่โรงเรียน นายปายจึงหลอกล้อได้ง่าย บางครั้งเมียนายปายก็ให้หลานสาวขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งของให้นายปายที่ทุ่งนา ทำให้หลานสาวคุ้นเคยกับนายปาย ไม่คิดว่าจะถูกหลอกล่อไปข่มขืน ที่ผ่านมานายปายมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานาน กลัวว่าจะย้อนมาลักพาตัวหลานสาวไป ซึ่งในเรื่องนี้ก็จะปรึกษาครูอาจารย์ในโรงเรียนขอให้ช่วยสอดส่องอีกทางด้วย"

นางดำ กล่าวต่ออีกว่า หลังทราบรายละเอียดจากหลานสาว จึงไปหานายปายที่บ้าน แต่แม่ยายและภรรยานายปายไม่รับรู้ด้วย และนายปายก็ไม่อยู่บ้าน จึงไม้ได้พูดคุยกัน จึงแจ้งให้ลูกชายที่เป็นครู ซึ่งเป็นพ่อบุญธรรมของหลานสาวทราบเรื่อง ลูกชายจึงให้ไปแจ้งความกับตำรวจสภ.โนนศิลา ให้จับกุมนายปายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย

ขณะที่นายแดง (นามสมุติ) อายุ 75 ปี ปู่ของ ด.ญ.บี กล่าวว่า ปู่กับย่าไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนเลย เพียงแต่สงสัยว่าช่วงปิดเทอม หลานสาวดูเศร้า ไม่สดชื่น ทั้งที่ก็ออกไปเล่นกับเพื่อนๆที่เรียนหนังสือด้วยกันตามปกติ แต่ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บป่วยจึงไม้ได้ถาม แต่เรื่องแดงเพราะหลานชายไปพบข้อความในแชท จึงมาบอกปู่กับย่า จากนั้นจึงถามหลานสาว หลานสาวก็ยอมรับว่า ถูกข่มขืนในห้องน้ำโรงเรียนและที่กระท่อมในทุ่งนา และถูกข่มขู่ห้ามบอกใคร ถ้าบอกปู่ย่าจะฆ่าทิ้ง หลานอายุเท่านี้จึงไม่กล้าพูดและเก็บไว้เป็นความลับ เชื่อฟังและไม่บอกใคร แต่เมื่อหลานชายพบข้อความในแชทมาบอกจึงเค้นเอาความจริงจนหลานสาวเปิดปากทุกอย่าง ย่าจึงไปแจ้งความกับตำรวจ ให้จับนายปายเข้าคุก แต่นายปายยังไม่ถูกจับ ยังคงขับขี่รถจักรยานยนต์ไปมา จึงขอฝากถึงตำรวจสภ.โนนศิลาว่า ช่วยเร่งรัดจับกุมตัวนายปายเข้าคุกให้ด้วย เพราะเป็นคนอันตราย

พ.ต.อ.สำเนาว์ กรุยกระโทก ผกก.สภ.โนนศิลา กล่าวว่า คดีดังกล่าวล่าสุดนั้นอยู่ระหว่างพนักงานสอบสวนรวบรวมพยาน หลักฐาน และจะนำตัว ด.ญ.บีไปพบอัยการ เพื่อให้ทีมสหวิชาชีพทำการสอบสวนตามขั้นตอน จากนั้นก็จะขอให้ศาลออกหมายจับ เพื่อจับกุมนายปายมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ญาติสงสัย เห็นศพหลานสาวตกตึกเสียชีวิตที่ปอยเปต อาจเป็นฆาตกรรม

จากกรณีพบศพหญิงวัย 27 ปี เสียชีวิตอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.กนกวรรณ หรือน้องใบหม่อน อายุ 27 ปี ชาวขอนแก่น ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าช่วยเหลือรับศพกลับมาที่ประเทศไทยตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ทลายปาร์ตี้มั่วยาตัวใหม่ 'แฮปปี้วอเตอร์' ในร้านดังกลางเมืองขอนแก่น

นายชินกร แก่นคง นายอำเภอเมืองขอนแก่น ในฐานะ ผอ.ศป.ปส.อ. เมืองขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองขอนแก่น ร่วม ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดขอนแก่น, กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดขอนแก่น และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถา

ตลาดสดกลางเมืองขอนแก่น ประดับธงชาติไทยผืนยาวที่สุดในจังหวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ตลาดสดบางลำภู จ.ขอนแก่น ได้นำ ธงชาติไทยขนาดความกว้าง 3 เมตร และยาว 50 เมตร ถูกนำมาประดับไว้ที่บริเวณซุ้มประตุทางเข้าตลาด ฝั่งถนนกลางเมือง เขตเทศบาลนคร

ฮือฮา! นักวิจัย มข. ค้นพบบึ้งแคระชนิดใหม่ของโลก ไทย-ลาวร่วมตั้งชื่อ 'บึ้งคำแพง'

ผศ.ดร.นรินทร์ ชมภูพวง อาจารย์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หรือ มข.เปิดเผยว่าทีมวิจัย สาขากีฏวิทยา และโรคพืชวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ลงพื้นที่สำรวจและศึกษาวิจัย นำมาสู่การค้นพบบึ้งแคระใหม่ของโลกที่มีชื่อว่า บึ้งคำแพง จากพื้นที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

พระเมตตาพระราชทานฝายวังจระเข้บรรเทาทุกข์ให้ราษฎรในเวลารวดเร็ว

หลายปีที่ผ่านมา เกษตรกรจะทำนาหรือพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ น้ำไม่เพียงพอใช้ เพราะไม่มีฝาย ลำห้วยก็ตื้นเขิน พอได้ยื่นฎีกาเข้าไป หลายหน่วยงานก็ร่วมกันเข้ามาทำงาน ใกล้ประสบความสำเร็จแล้วครับ และช่วงทำนาก็ได้ใช้น้ำ ตอนนี้เห็นผลเลยครับ พี่น้องประชาชนบ้านเราก็มีความดีใจ ยินดีที่ในหลวงของเรามาช่วย นี่คือที่มาของคำว่า พระเจ้าแผ่นดินไม่ทอดทิ้งประชาชนครับ ผมดีใจมากครับ