จับแล้วโจรสาวแสบทำทีเป็นพลเมืองดีอาสาพายาย 71 ชาวบุรีรัมย์ ขึ้นรถเก๋งไปทำธุระในตัวเมือง ก่อนขับพาไปไกลกว่า 50 กม. จับมือไพล่หลังขู่จะยิงชิงเงินและทองหนักเกือบ 6 บาท มูลค่าเกือบ 2 แสน ขณะหนีกบดานชลบุรีนานกว่า 2 เดือน ส่งตัวดำเนินคดีท้องที่เกิดเหตุ ยายโร่ชี้ตัวยันจำแม่นเป็นคนขับ เจ้าตัวยกมือไหว้ขอโทษ ยายยกโทษให้ที่ไม่ฆ่าทิ้งแค่อยากได้ทองคืน
12 มิ.ย.2567 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มี 2 คนร้ายเป็นหญิงสาวหน้าตาดี ทำทีเป็นพลเมืองดีอาสาพา นางเกียรติ สวัสดี อายุ 71 ปี ชาวตำบลบ้านบัว อ .เมือง จ.บุรีรัมย์ ที่นั่งอยู่ศาลาริมทางขึ้นรถเก๋ง ส่งไปทำธุระในตัวเมือง ก่อนขับรถไปไกลกว่า 50 กิโลเมตร แล้วออกลายโจรจับมือไพล่หลัง แล้วบังคับเอาเงินสดและทองน้ำหนักเกือบ 6 บาท รวมมูลค่าเกือบ 2 แสน จากยายทั้งขู่หากขัดขืนจะยิงทิ้ง ก่อนพลักลงจากรถทิ้งไว้ข้างสระน้ำ ก่อนจะมีชาวบ้านไปเจอและช่วยเหลือ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 25 มี.ค.67 ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกติดตามไล่ล่าตัวคนร้ายอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ได้นำหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ข้อหา “ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น หรือยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย” เข้าจับกุมตัว น.ส.สมพร (สงวนนามสกุล) หรือ “อุ๊ย บ้านนา” อายุ 39 ปี ชาว อ.บ้านนา จ.นครนายก ซึ่งเป็นหนึ่งในคนร้าย ได้ขณะหนีไปกบดานอยู่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ส่วนผู้ต้องหาอีกคนยังหลบหนีและอยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัวของเจ้าหน้าที่
ล่าสุดวันนี้ (12 มิ.ย.66) เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.สมพร ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้น น.ส.สมพร ยังให้การภาคเสธ และไม่ยอมให้ปากคำใดๆ และไม่ยอมให้สัมภาษณ์สื่อ
ขณะที่ญาติและลูกหลานได้พาคุณยายเกียรติ ผู้เสียหาย ที่ถูกชิงทรัพย์ มาที่ สภ.นางรอง เพื่อชี้ตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งทันทีที่คุณยายเห็นหน้าผู้ต้องหาแม้จะใส่หน้ากากอนามัยอยู่ ก็บอกว่า จำได้แม่นเป็นคนขับรถ หนึ่งในคนร้ายที่หลอกยายขึ้นรถก่อนจะร่วมกันชิงเงินและทองของยาย ขณะที่ น.ส.สมพร ผู้ต้องหา ก็ยกมือไหว้คุณยายแต่ไม่พูดอะไร ซึ่งคุณยาย ก็ยังใจดีบอกผู้ต้องหาว่ายกโทษให้ที่ไม่ฆ่ายายทิ้ง และยายก็พยายามถามว่าทองยายอยู่ที่ไหน ยายอยากได้ทองคืน แต่ผู้ต้องหาก็ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ เจ้าหน้าที่ก็จะควยคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของ น.ส.สมพร พบว่า ปี 2553 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ขายสลากกินแบ่งสลากกินแบ่งเกินราคาที่กำหนดในสลาก , ยิงอาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาตให้มีไว้เพื่อเก็บ ” ท้องที่ สภ.บ้านนา , ปี 2564 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ ร่วมกันในข้อหาฉ้อโกง ” ท้องที่ สภ.คลองขลุง ภ.จว.กำแพงเพชร และล่าสุด ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนางรอง ที่ 29/2567 ลงวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือให้ยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น หรือยึดถือเอาทรัพย์นั้นไว้ เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดับสลด! นักเรียน ม.5 กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อน เผยผู้ตายโพสต์บอกล่วงหน้า
สลดนักเรียนชาย ม.5 โรงเรียนมัธยม ใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กระโดดตึกชั้น 4 ต่อหน้าเพื่อนร่างกระแทกพื้นสาหัส ครูเร่งนำส่ง รพ.ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ ตร.ตรวจสอบพบก่อนเกิดเหตุ 10 ชั่วโมง ผู้ตายโพสต์ข้อความใน Instagram ส่วนตัว “จะตลกแค่ไหนวะถ้าพรุ่งนี้กูโดดตึก” เร่งสาเหตุ
ชาวไร่อ้อยบุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกหนัก เหลือตันละ 890 บาท วอนรัฐบาลหามาตรการช่วยเหลือ
เกษตรกรชาวไร่อ้อย จ.บุรีรัมย์ โอดราคาอ้อยตกต่ำในรอบหลายปี เหลือเพียงตันละ 890 บาท ไม่สอดคล้องกับภาระต้นทุนทั้งค่าต้นพันธุ์ ยากำจัดวัชพืช ปุ๋ย และค่ารถตัดที่แพงขึ้น
บุรีรัมย์ระดม ชรบ.ชายแดน 2,000 นาย ฝึกเข้มรับมือเหตุฉุกเฉิน
บ้านกรวดเปิดแผน “พิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง” ติวเข้ม ชรบ. 118 หมู่บ้าน ใช้อาวุธ–ป้องกันตัว เตรียมพร้อมดูแลความปลอดภัยชาวบ้านแนวชายแดน หลังเหตุระเบิด-ปะทะชายแดนถี่ขึ้น
ชาวบุรีรัมย์ เตรียมร้อง 'อนุทิน' ให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล หวั่นผลกระทบอื้อ
ชาวบุรีรัมย์เตรียมเข้ากรุงเทพยื่นหนังสือนายกฯอนุทินให้ยกเลิกโรงงานน้ำตาล-โรงไฟฟ้าชีวมวล เผยชาวบ้านไม่ยอมรับการจัดเวทีรับฟัง-หวั่นผลกระทบอื้อ
ชาวบ้านยังผวา เล่าอดีต 40 ปีก่อน เขมรแดงบุกปล้นสะดม-ฆ่าคนไทย วอนปิดด่าน 'ช่องสายตะกู' ถาวร
ชาวบ้าน ผู้สูงอายุชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ย้อนเล่าเหตุการณ์ที่ไม่มีวันลืม เมื่อ 40 กว่าปีก่อน เคยถูกเขมรแดงเข้ามาปล้นสะดม จุดไฟเผาตลาดนิคมบ้านกรวด ทำให้มีทรัพย์สินเสียหาย คนตายหลายชีวิต ทั้งยังมีเขมรที่ลี้ภัยสงครามเข้ามาสร้างเพิงพักอาศัยจนเกือบเสียดินแดน แต่ถูกทหารไทยผลักดันออกไปก่อน อยากให้ทางการปิด "ช่องสายตะกู" ถาวรกลัวเขมรแฝงตัวเข้ามาหาข่าวหรือทำร้ายคนไทยอีก
อธิบดีปกครอง รับเป็นการบ้านเรื่องค่าตอบแทน ชรบ. ชายแดน เสนอรัฐบาลพิจารณา
อธิบดีกรมการปกครองลงพื้นที่บุรีรัมย์ ติดตามสถานการณ์ตามแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เยี่ยมให้กำลัง ปชช. ที่ได้รับผลกระทบเหตุสู้รบและผู้ปฏิบัติงานชายแดน พร้อมหนุนงบสร้างหลุมหลบภัย

