พัทลุงผุดศูนย์ฉุกเฉินป้องกันวาตภัย อุทกภัยและดินถล่ม จับตาพื้นที่ 'เทือกเขาบรรทัด'

ทหารพัฒนาภาค 4 ร่วม จ.พัทลุง  รับมืออุทกภัยซ้ำซาก วาตภัย ดินถล่ม เริ่มปลายเดือนตุลาคม-มกราคม จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเตรียมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม พร้อมเฝ้าระวังพื้นที่ติดเทือกเขาบรรทัด

8 ก.ย.2567 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมกองบังคับการสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน จังหวัดพัทลุง นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง เป็นประธานในการประชุมเตรียมการรับมือ และแก้ไขปัญหาอุทกภัยซ้ำซากในพื้นที่ จ.พัทลุง พร้อม พล.ต.จตุรภัทร วงศ์ศรีเผือก ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 4 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการการปฏิบัติการร่วมกันในการป้องกัน และบรรเทาเหตุอุทกภัย

โดยได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเตรียมการป้องกัน และแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วทันที มีประสิทธิภาพและทันต่อเหตุการณ์ โดยมีอุปกรณ์ทั้งเครื่องจักรเบาและเครื่องจักรหนัก และอุปกรณ์อื่น ๆ การแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยริมภูเขาเมื่อเกิดฝนตกหนัก การช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยหลังเกิดเหตุ ในการจัดหาอาหารและสิ่งของต่าง ๆ ให้ผู้ประสบภัยภายใน 24 ชั่วโมง ฯลฯ และแจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรง

นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง กล่าวว่าพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก เช่น บริเวณถนนสายหลัก ถนนสายเพชรเกษม ช่วงบ้านโคกยา ต.ควนขนุน อ.เขาชัยสน บริเวณดังกล่าวจะถูกน้ำป่าไหลตัดผ่านถนนทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งขาขึ้นและขาลง บางครั้งแม้รถยนต์ขนาดใหญ่ยังไม่สามารถผ่านได้ จึงลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รวมถึงพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากบริเวณหมู่บ้านติดทะเลสาบที่จะถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลาหลายวัน เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด ปัจจุบันพื้นที่ป่าเขากว่า 700,000 ไร่ มีพื้นที่ครอบคลุม จ.สตูล สงขลา ตรัง และ จ.พัทลุง ได้เป็นที่นิยมและเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ท่องเที่ยวเดินป่า เที่ยวชมน้ำตก ซึ่งน้ำตกมีกว่า 30 แห่ง รายล้อมเทือกเขาบรรทัด จ.พัทลุง จ.ตรัง มีน้ำตกตลอดปี

สภาพปัจจุบันหากมีฝนตกหนักและยาวนานานมีน้ำสะสมเกิดความเสี่ยงค่อนข้างสูง เพราะปัจจุบันเขาบรรทัดสามารถรับน้ำสะสมได้ประมาณ 60 % จาก 100 %  โดย 40 % น้ำจะร่วงลงด้านล่าง ปัจจัยเพราะสภาพป่าเสื่อมโทรม และอีกส่วนหนึ่งเพราะมีการลักลอบทำลายป่าไม้แล้วปลูกพืชผลอื่นๆ ทดแทน จึงไม่ได้เป็นป่าที่งอกเงยจากธรรมชาติ จึงขาดศักยภาพการเก็บสะสมอุ้มน้ำเอาไว้ได้ น้ำต้องร่วงหล่นพร้อมกับกระชากดินปนทรายลงพื้นที่ต่ำพร้อมกับ จากสภาพเทือกเขาบรรทัดที่เป็นดินปนทราย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

PORCELA (พอร์ซเซล่า) ปันสุข ผนึกกำลังพันธมิตรดีลเลอร์ ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หาดใหญ่

บริษัท ร่วมพัฒน์เซรามิค จำกัด ผู้นำด้านนวัตกรรมกระเบื้องเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ภายใต้ แบรนด์ PORCELA (พอร์ซเซล่า) เดินหน้าดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ “โครงการ PORCELA ปันสุข ปีที่ 6” เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย สะท้อนบทบาทองค์กรที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG)

’สิริพงศ์‘ เผยโอนเงินเยียวยาน้ำท่วมใต้แล้วกว่า 1.07 ล้านครัวเรือน

โฆษกรัฐบาลระบุ ปภ.ร่วมธนาคารออมสิน โอนเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้แล้ว 11 ครั้ง ครอบคลุม 9 จังหวัด รวมกว่า 9.6 พันล้านบาท อยู่ระหว่างเร่งจ่ายส่วนที่โอนยังไม่สำเร็จ

เทศบาลเมืองคอน ขึ้นธงเหลือง เตือนประชาชนเฝ้าระวังน้ำท่วม

เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ภายใต้การนำของ ดร.กณพ เกตุชาติ นายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการติดตั้งป้ายและปักธงสัญลักษณ์แจ้งเตือนภัยบริเวณสะพานข้ามคลองในเขตเทศบาล เพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และเตรียมพร้อมป้องกันน้ำท่วมและน้ำล้นตลิ่ง

นายกฯ ขอให้ชาวสตูลมั่นใจรัฐบาลไม่ทอดทิ้ง เร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม ช่วยเยียวยาให้เร็วที่สุด

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมคณะ ลงพื้นที่ โรงเรียนบ้านคลองขุด เพื่อมอบถุงยังชีพ 800 ชุด ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย

'อนุทิน' ลงพื้นที่สตูล สั่งนายก อบจ. ทำประชาพิจารณ์รื้อประตูระบายน้ำ ถ้าไม่มีประโยชน์ก็เอาออก

นายกฯ ลงพื้นที่สตูล มอบถุงยังชีพ ขอชื่นชม ปชช. อดทนน้ำท่วม รับ เป็นความผิดรบ. หนีไม่ได้ ขอ ปชช. ให้อภัย บอกเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไป ต้องมองไปข้างหน้า สั่ง นายกอบจ. ทำประชาพิจารณ์รื้อประตูระบายน้ำคลองมำบัง

รัฐบาลโอนเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งที่ 6 'สงขลา-ตรัง' 40,935 ครัวเรือน กว่า 300 ล้านบาท

โฆษกเผยการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 รูปแบบ