อีสานระทึก! ระดับน้ำโขงพุ่งพรวดเดียวเกือบเมตร เสี่ยงท่วมฉับพลัน

นครพนมลุ้นระทึกอีกครั้ง! ระดับน้ำโขงพรวดเดียวสูงขึ้นอีกเกือบเมตร ฝนกระหน่ำซ้ำทั้งคืน ท้องฟ้าปกคลุมด้วยเมฆ ลาวแจ้งด่วนเขื่อนจีนปล่อยน้ำ

13 ก.ย. 2567 – ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครพนมรายงานว่า สืบเนื่องเกิดสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ภาคเหนือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยมวลน้ำได้ไหลลงแม่น้ำรวก ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง บริเวณสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และจะไหลเข้าไปใน สปป.ลาว และวกออกมาโผล่พื้นที่ภาคอีสานของไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้จังหวัดภาคอีสานที่อยู่แถบลุ่มแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบล ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำทุกๆ ชั่วโมง ประกอบกับทางลาวแจ้งเตือนว่าจีนได้ปล่อยน้ำออกจากเขื่อนไฟฟ้า จึงจำเป็นต้องเร่งระบายน้ำในเขื่อนไซยะบุรี เพื่อรองรับมวลน้ำจำนวนมหาศาลดังกล่าว โดยจังหวัดภาคอีสานของไทยที่อยู่ท้ายเขื่อน จึงเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำล้นตลิ่งในระยะ 12-18 กันยายน นี้

ในส่วนของ จ.นครพนม เป็นพื้นที่หนึ่งที่อยู่ใต้เขื่อนไซยะบุรี นอกจากจะเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำแล้ว มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคอีสานตอนบน จึงมีฝนตกลงมาตั้งแต่กลางดึกของวันที่ 13 กันยายน จวบจนถึงเช้าก็ยังคงตกต่อเนื่อง ท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆฝน ด้านระดับน้ำโขงล่าสุดวัดได้ 10.11 เมตร เพิ่มขึ้นจากวานนี้ถึง 62 เซนติเมตร ถือว่ายังอยู่ในจุดต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากห่างจากจุดล้นตลิ่งประมาณ 2 เมตรเศษคือที่ 13 เมตร หากน้ำโขงยังเพิ่มระดับจะส่งผลให้ลำน้ำสาขาไม่สามารถไหลระบายลงได้ มีโอกาสสูงจะเอ่อล้นท่วมพื้นที่ลุ่ม ชุมชน ย่านเศรษฐกิจการค้า ส่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลัน เพราะมีมวลน้ำจากภาคเหนือ บวกกับเกิดร่องมรสุมพาดผ่าน ทำให้น้ำโขงมีปริมาณน้ำสูงต่อเนื่อง ทั้งนี้พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือ 4 อำเภอชายแดนติดกับแม่น้ำโขง ได้แก่ อ.บ้านแพง, อ.ท่าอุเทน, อ.เมืองนครพนม และ อ.ธาตุพนม โดยหน่วยงานเกี่ยวข้อง ได้วางมาตรการแนวทางป้องกัน เสริมเครื่องสูบน้ำ หากมีฝนตกหนักต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (เลขาธิการ สทนช.) พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและอุทกภัยลุ่มน้ำโขง ในพื้นที่จังหวัดแถบลุ่มน้ำโขงรวมถึงนครพนม พร้อมหารือรับทราบปัญหา วางแนวทางรับมือกรณีน้ำโขงล้นตลิ่ง กำชับให้ทุกหน่วยงานเกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือตลอด 24 ชั่วโมง

เลขาธิการ สนทช. เปิดเผยว่า ทางสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยทางรัฐบาลมีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยเป็นอย่างมาก ในส่วนของพื้นที่ภาคอีสานมีการวิเคราะห์สถานการณ์แล้ว ในช่วงสัปดาห์นี้มีแนวโน้มที่จะมีปริมาณฝนในพื้นที่ค่อนข้างมาก ประกอบกับในส่วนของน้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณน้ำสูงขึ้น เนื่องจากฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ และ สปป.ลาว ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 12-18 กันยายน 2567 และมีแนวโน้มล้นตลิ่งบริเวณที่ อ.เชียงคาน จ.เลย จ.หนองคาย และ จ.บึงกาฬ

จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น เตรียมพร้อมรับมือจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และท่วมขังบริเวณริมแม่น้ำโขงรวมถึงลำน้ำสาขา เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขงได้โดยสะดวก นอกจากนี้ในส่วนของเขื่อน อ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมาก ๆ ต้องเร่งระบายออกมาก่อน เพื่อเตรียมรองรับน้ำฝนชุดใหม่ที่จะตกลงมาเติม ทาง สนทช. ได้มีการแจ้งเตือนไปแล้วว่าในแต่ละจังหวัด มีพื้นที่ไหนที่มีความเสี่ยงบ้าง ขอให้หน่วยงานต่าง ๆ เอาข้อมูลเหล่านี้ไปบริหารจัดการดูแลพี่น้องประชาชนทั้งชีวิตและทรัพย์สินเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ศปช. พร้อมรับมือฝนถล่มภาคใต้ เร่งขุดลอกวัชพืช ระดมทีมช่างช่วยฟื้นฟูบ้านเรือน

นางสาวศศิกานต์  วัฒนะจันทร์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า วันที่ 12 – 16 ธ.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น

DITTO มอบเงินช่วยเหลือน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายชัยทัด กุลโชควณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

'โตโน่ ภาคิน' สุดปลื้ม รับมอบเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดชั้น 1 ของสปป.ลาว

ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โตโน่-ภาคิน คำวิลัย ศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดัง เข้าพิธีรับประดับเหรียญชัย ชั้น 1 ซึ่งเป็นเหรียญเชิดชูเกียรติสูงสุดของ สปป.ลาว

12 ธ.ค. เปิดเดินรถเส้นทางรถไฟสายใต้ กทม.-สุไหงโกลก หลังน้ำท่วมหนัก

นางสาวศศิกานต์  วัฒนะจันทร์  รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)

แม่ทัพทัพภาคที่ 4 มอบถุงยังชีพให้ชาวปัตตานีที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัย

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา

ยิปซัมตราช้าง ชวนฟื้นฟูบ้าน หลังน้ำท่วมอย่างมืออาชีพ

เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์น้ำท่วม หลังน้ำท่วมที่ผ่านพ้นไป สิ่งที่เจ้าของบ้านต้องรับมือไม่เพียงแต่การทำความสะอาดเท่านั้น แต่ภารกิจสำคัญคือการฟื้นฟูบ้านให้กลับมาน่าอยู่และแข็งแรงกว่าเดิม