'แม่น้ำน่าน' เพิ่มต่อเนื่อง ขึ้นสูงสุดในรอบปี เขื่อนสิริกิติ์-แควน้อยฯ ปรับลดการระบายน้ำ

แม่น้ำน่าน ช่วงไหลผ่านตัวเมืองพิษณุโลกขึ้นสูงสุดเช้านี้ 7.31 เมตร ชาวแพต้องคอยปรับขึ้นลงตลอดเวลา และมีผลกระทบทางอ้อมกับน้ำท่วมในเขตอำเภอวังทอง อ.บางกระทุ่ม และ อ.บางระกำ น้ำที่ท่วมขังจะระบายลงสู่แม่น้ำน่านที่ช้าลง ด้านเขื่อนสิริกิติ์ ปรับลดการระบายน้ำลงเหลือวันละ 14 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนปรับลดลงเหลือ วันละ 600,000 ลูกบาศก์เมตร เพื่อให้ปรับลดปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านลง 

26 ก.ย.2567 - เมื่อเวลา 09.00 น. แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านอำเภอเมืองพิษณุโลก ขึ้นสูงสุดที่ระดับ 7.33 เมตร ยังไม่มีผลกระทบกับน้ำท่วมในตัวเมือง ระดับตลิ่งมีความสูง 10.37 เมตร และเป็นระดับที่ขึ้นสูงสุดในรอบปีนี้แล้ว ระดับน้ำแม่น้ำน่านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผลกระทบกับชาวแพ บริเวณถนนพุทธบูชา ใกล้วัดจันทร์ตะวันออก ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก ต้องคอยปรับเชือกผูกแพตลอดเวลา และการเดินขึ้นลงฝั่งเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากแพรลอยสูงมาชิดกับเขื่อนป้องกันตลิ่ง ทำให้ผู้สูงอายุหลายรายไม่สามารถเดินขึ้นลงบนฝั่งได้ต้องอาศัยอยู่ในแพตลอดเวลา ขณะที่คนหนุ่มสาววัยทำงานยังสามารถปีนและเดินบนสะพานออกมาได้รวมถึงบางส่วนได้ใช้เรือออกมาขึ้นสู่ถนน ส่วนแพร้านอาหารที่ปล่อยรกร้าง ไม่มีการดูแล ก็รอเวลาผุพังไป

ระดับแม่น้ำน่านที่เพิ่มขึ้น ยังมีผลกระทบทางอ้อมกับน้ำท่วมในเขตอำเภอวังทอง อำเภอบางกระทุ่ม อำเภอบางระกำ น้ำที่ท่วมขังจะระบายลงสู่แม่น้ำหน้าได้ช้าลง ซึ่งวันนี้ระดับน้ำที่ท่วมในเขต ตำบลวัดตายมและตำบลเนินกุ่ม อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ระดับน้ำเริ่มลดลง บางพื้นที่เริ่มแห้งลงแล้ว ขณะที่บางส่วนยังมีน้ำท่วมขังในที่ต่ำอยู่ ส่วนที่ตำบลชัยนามและตำบลวังทองอำเภอวังทองจังหวัดพิษณุโลกนั้น วันนี้ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่ำโดยเฉพาะทุ่งนาในเขตตำบลชัยนาม แต่ในเขตเทศบาลตำบลวังทองไม่มีผลกระทบกับน้ำวังทองที่ขึ้นสูง

สำหรับปัจจัยที่ทำให้แม่น้ำน่านช่วงไหลผ่านเมืองพิษณุโลกขึ้นสูงนี้มาทั้งฝนที่ตกหนักในพื้นที่ และการระบายน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่เก็บน้ำได้ 87% วันนี้ เขื่อนสิริกิติ์ ระบายน้ำลงมา วันละ 20ล้านลบ.ม ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน อำเภอวัดโบสถ์จังหวัดพิษณุโลก ปัจจุบันกักเก็บน้ำ 57% ของความจุอ่าง ระบายน้ำลงมา วันละ 860,000 ลูกบาศก์เมตร

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก รายงานสรุป สถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำ จ.พิษณุโลก ดังนี้ จังหวัดพิษณุโลก มีแม่น้ำสายหลัก 2 สาย ที่ไหลผ่านได้แก่ แม่น้ำน่าน และ แม่น้ำยม มีระบบชลประทานที่สำคัญ ในการบริหารจัดการน้ำ ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน, เขื่อนนเรศวร และ โครงการบางระกำโมเดล แม่น้ำน่าน ปริมาณน้ำและระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน ระดับน้ำสูง 7.33 เมตร(70% ของความจุลำน้ำ) เวลา 09.00 น. ในส่วนการเก็บกักน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ (88%) และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน(59% ) สถานการณ์โดยรวมปกติ

ในส่วนแม่น้ำสาขา ได้แก่ แม่น้ำภาค แม่น้ำแควน้อย แม่น้ำวังทอง และแม่น้ำชมพู ระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง โดยมีสถานการณ์อุทกภัย เกิดขึ้นใน อ.บางกระทุ่ม สาเหตุจากคันคลองเนินกุ่ม-วัดตายม(คลองสาขาที่รับน้ำจากแม่น้ำวังทอง และแม่น้ำชมพู) เอ่อล้นตลิ่ง และบางจุดเกิดชำรุดและขาด น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ชุมชน คาดว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่ม และระบายลงแม่น้ำน่านได้ปกติ สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1-2 วัน

สถานการณ์แม่น้ำน่าน เขี่อนสิริกิต์ จ. อุตรดิตถ์ ปริมาณน้ำ 8,396 ล้าน ลบ.ม(88%) แผนระบายน้ำ วันนี้ 14.96 ล้าน ลบ.ม (ระบายน้ำลดลง จาก เมื่อวานนี้ ระบายวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร) เขี่อนแควน้อยบำรุงแดน อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ปริมาณน้ำ 555 ล้าน ลบ.ม(59%) แผนระบายน้ำ วันนี้ 0.61 ล้าน ลบ.ม ลดลงจากเมื่อวานนี้ที่ระบายวันละ 0.86 ล้านลูกบาศก์เมตร

นายชำนาญ กล่าวอีกว่า ในช่วง 3 วันนี้ทางเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อย จะลดการระบายน้ำลง เพื่อให้แม่น้ำน่าน ไม่สูงมากจนวิกฤติ ประกอบกับแม่น้ำวังทอง ยังมีปริมาณมาก และต้องไหลเข้าสู่แม่น้ำน่านอีกทาง ทำให้ต้องลดการระบายลง แต่คาดว่าลดการระบายน้ำไม่ได้นาน เนื่องจากมีน้ำเข้าเขื่อนวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ยังถือว่ายังรับน้ำได้อีกเยอะ โดยในพื้นที่ฝนจะหยุดตกในช่วง 26-29 ก.ย.. และจะกลับมาตกอีกทีหลังวันที่ 30 ก.ย.คาดว่ายังไม่มีผลกระทบมากนัก