ชาวประมงพื้นบ้านบ้านบ่ออิฐ สงขลา ออกทำการประมงวางอวนปูบริเวณชายฝั่งจังหวัดสงขลา หลังศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออกประกาศเตือนฝนตกหนัก 4-6 พ.ย.67 แต่คลื่นลมไม่รุนแรง ยังสามารถออกเรือไปวางอวนจับปูม้าได้ โดยแต่ละลำสามารถจับปูได้หลายกิโลกรัม เนื่องจากในช่วงนี้มีปูม้าชุกชุมและราคาดี
4 พ.ย.2567 - ที่ชายหาดบ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ชาวประมงพื้นบ้านในชุมชนบ้านบ่ออิฐนำเรือหลายลำออกไปทำการประมงอวนปูกลางทะเล เนื่องจากในช่วงนี้คลื่นลมไม่รุนแรงสามารถนำเรือออกไปทำการประมงได้ โดยได้ติดตามข่าวอากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ก่อนออกเรือทุกครั้ง ได้นำเรือออกไปทำการวางอวนปู ตั้งแต่ 04.00 น. ห่างจากฝั่งประมาณ 4-5 กม. และกลับเข้าฝั่งช่วง 10.00 น. จะทำการปลดปูที่ติดอวนใส่ถุงตาข่ายผูกไว้ข้างเรือเพื่อไม่ให้ปูตาย เพราะขายปูเป็นๆจะได้ราคาดีกว่าขายปูตาย แล้วนำเรือกลับเข้าฝั่งพร้อมอวน เนื่องจากยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถออกเรือทำการประมงได้อีกกี่วัน อีกทั้งในช่วงนี้ปูม้าชุกชุม จึงต้องออกไปทุกวันจนกว่าจะออกไม่ได้เนื่องจากคลื่นลมอาจจะมีกำลังแรงหากฝนตกหนักกลางทะเล เพราะในแต่ละวันจะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับภาระเลี้ยงดูครอบครัว
หลังจากนำเรือกลับเข้าฝั่ง ครอบครัวและญาติพี่น้องก็จะช่วยกันนำเรือขึ้นมาจอดบนชายหาด โดยใช้เครื่องกว๊านลากเรือขึ้นมา ใช้ไม้ทำเป็นรางเพื่อสะดวกในการลากเรือขึ้นมาจอดบนฝั่ง เนื่องจากไม่กล้าจอดในทะเล กลัวคลื่นลมแรง ซัดเรือกระแทกกับชายหาด ทำให้เรือได้รับความเสียหายในช่วงน้ำขึ้นได้
ในวันนี้สัตว์น้ำที่จับได้ส่วนใหญ่จะเป็นปูม้า ทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง โดยราคาปูม้าขนาดใหญ่ กก.ละ 250 -300 บาท ขนาดกลาง 200 บาท แม่บ้านจะนำปูม้าไปขายให้กับแม่ค้าที่มารับซื้อสินค้าสัตว์น้ำในชุมชนบ้านบ่ออิฐ และมีชาวประมงบางส่วนที่ยังไม่กล้านำเรือออกไปทำการประมง เนื่องจากมีประกาศแจ้งเตือนจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ต้องรอให้แน่ใจว่าคลื่นลมในทะเลไม่มีความรุนแรงก็จะนำเรือออกทำการประมง
ในขณะเดียวกัน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ประกาศฉบับที่ 4 (47/2567) เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก (ช่วงวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2567)บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ภาคใต้ตอนบน และทะเลจีนใต้ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้จะมีกำลัง แรงขึ้น
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ดังนี้ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช ช่วงวันที่ 5-6 พฤศจิกายน 2567 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และ นครศรีธรรมราช มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ขอให้ประชาชนระวังอันตรายที่เกิดจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ฝนที่ตกสะสม และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มในพื้นที่ลาดเชิงเขา สำหรับชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มี ฝนฟ้าคะนอง จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก อย่างใกล้ชิด ประกาศ ณ วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2567

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ประกาศฉบับ 26 เตือน 7 จ.ใต้ ฝนตกหนักมาก เรือเล็กงดออกฝั่ง
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้และคลื่นลมแรงบริเวณอ่าวไทย (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2568) ฉบับที่ 26 โดยมีใจความว่า
วอนรัฐเร่งเคลียร์ 'ภูเขาขยะ' กลางเมืองหาดใหญ่ หวั่นโรคระบาด
ายวรพัทธ์ เจนวิศาลพงศ์ เจ้าของที่ดินจุดพักกองขยะ บริเวณสี่แยกไฟแดงสะพานดำ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งทางเทศบาลนครหาดใหญ่ มีการขอเช่าและใช้พื้นที่
อุตุฯ ย้ำเตือน 11-16 ธ.ค.ภาคใต้รับมือฝนตกหนัก-คลื่นสูงกว่า 3 เมตร
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุฯ เตือนฉบับ 6 ด้ามขวานเจอฝนถล่มหนัก 11-16 ธ.ค.
นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
นายกฯ สั่งตั้ง 'กองบัญชาการปภ.แห่งชาติส่วนหน้า' ลดความรุนแรงน้ำท่วมใต้เหลือระดับ 3
นายกฯ ขอบคุณทุกภาคส่วนร่วมแก้ปัญหาน้ำท่วมใต้ บอกความทุ่มเททราบถึงพระเนตรพระกรรณ ขอกรมโยธาฯเร่งสำรวจความเสียหายบ้านเรือนเยียวยาไม่ใช่รายหัว พร้อมกำชับ สธ. ดูแลสุภาพจิต -โรคติดต่อ สั่ง ตั้งกองบัญชาการและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติส่วนหน้า หลังลดระดับความรุนแรงเหลือระดับ 3 มอบ ‘ศักดิ์ดา’ บัญชาการพื้นที่
รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา
นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

