13 มีนาคม 2568 - นายสมเกียรติ ยอดมาลี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 เผยว่า ทีมนักวิจัยจากกลุ่มงานวิชาการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) โดยนางสาวแดงระวี พรหมรักษ์ นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ หัวหน้าโครงการวิจัยทรัพยากรสัตว์ป่ากับโครงการพัฒนาลุ่มน้ำคลองวังชมพู (เขื่อนวังชมพู) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก พร้อมคณะ ประสบความสำเร็จในการบันทึกภาพจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทย สัตว์ที่มีสถานะใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่งในธรรมชาติ บริเวณปากกะซาว คลองชมพู อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568
ภาพถ่ายที่ได้จากกล้องดักถ่ายสัตว์ป่า แสดงให้เห็นจระเข้ขนาดใหญ่กำลังนอนอาบแดดบนโขดหินริมน้ำ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีต้นไม้และพุ่มไม้ปกคลุม การค้นพบนี้เป็นผลจากความพยายามอย่างต่อเนื่องของทีมวิจัยที่ได้ติดตามประชากรจระเข้น้ำจืดในพื้นที่มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 โดยมีการลงพื้นที่สำรวจร่องรอยและติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่าเป็นประจำทุกเดือน โดยในอดีตพื้นที่ดังกล่าวนี้เคยมีรายงานการพบจระเข้ล่าสุดเมื่อปี 2556 และตามคำบอกกล่าวของชาวบ้านว่าพบเห็นอยู่เรื่อยมา
จระเข้น้ำจืดไทย หรือที่เรียกกันว่า จระเข้สยาม จระเข้บึง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Crocodylus siamensis ซึ่งมาจากคำว่า "Siam" (ชื่อเดิมของประเทศไทย) และคำลาติน "ensis" ที่แปลว่า "เป็นของ" จึงมีความหมายว่า "จระเข้ซึ่งเป็นของประเทศไทย" จระเข้ชนิดนี้มีขนาดปานกลางค่อนข้างใหญ่ โตเต็มที่ ยาวประมาณ 3-4 เมตร เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 10-12 ปี วางไข่ครั้งละ 20-48 ฟอง มีระยะเวลาฟักไข่นาน 68 - 85 วัน โดยจะเริ่มวางไข่ในช่วงต้นฤดูฝนประมาณเดือนพฤษภาคม ด้วยการขุดหลุมในหาดทรายริมแม่น้ำ พฤติกรรมของจระเข้ชนิดนี้ชอบอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ไหลไม่แรงนักหรือแหล่งน้ำนิ่ง และชอบอยู่หรือหากินเดี่ยวๆ อาหารหลักคือปลาและสัตว์ขนาดเล็ก โดยทั่วไปจะไม่ทำร้ายมนุษย์หากไม่ถูกรบกวนหรือมีอาหารเพียงพอ ในการกินแต่ละครั้งสามารถอยู่ได้ 10-15 วันโดยไม่ต้องกินอาหารอีก
จระเข้น้ำจืดไทยมีการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่ของประเทศไทย แต่ปัจจุบันประชากรในธรรมชาติลดลงอย่างมาก จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยถูกจัดอยู่ในบัญชีหนึ่งของอนุสัญญาไซเตส (CITES) ซึ่งเป็นบัญชีของสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) จัดให้อยู่ในสถานะถูกคุกคามอย่างยิ่ง (Critically Endangered)
การพบจระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงในครั้งนี้ จึงเป็นข้อมูลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าประชากรจระเข้ในพื้นที่นี้ยังคงอยู่รอด และระบบนิเวศในอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงยังคงมีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอที่จะรองรับสัตว์ป่าหายากชนิดนี้ ซึ่งเป็นความหวังสำหรับการอนุรักษ์จระเข้น้ำจืดสายพันธุ์ไทยให้คงอยู่ในธรรมชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม ความท้าทายในการอนุรักษ์ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่คลองชมพูที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
พิษณุโลก สืบสานประเพณี 'ปักธงชัย' บนยอดเขาช้างล้วง รำลึกพ่อขุนบางกลางท่าว
จังหวัดพิษณุโลก สืบสานประเพณี “ปักธงชัย” บนยอดเขาช้างล้วง น้อมรำลึกพ่อขุนบางกลางท่าว ปฐมบรมกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย
พิพิธภัณฑ์ดังพิษณุโลก อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ 'พระพันปีหลวง' จัดแสดงหลายหมื่นภาพ
พิพิธภัณฑ์มิตร ชัยบัญชา จ.พิษณุโลก อัญเชิญพระฉายาลักษณ์ และพระสาทิสลักษณ์ พระพันปีหลวง หลายหมื่นภาพ มาแสดงให้พสกนิกรทั่วประเทศได้ชื่นชม
เริ่มแล้ว! หนาวแรกของปีที่ภูหินร่องกล้า 'ซากุระญี่ปุ่น' ผลิบานพร้อมรับนักท่องเที่ยว
ในช่วงเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวนักท่องเที่ยวเริ่มขึ้นไปสัมผัสกับอากาศที่หนาวเย็น ที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อุณหภูมิ 19 องศา ขณะที่ ดอกซากุระญี่ปุ่นกว่า 350 ต้น ที่บ้านใหม่ร่องกล้า สีชมพูเข้มสดใสสะกดสายตานักท่องเที่ยว ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น มุ่งสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่เชิงอนุรักษ์ และยกระดับรายได้ให้กับกลุ่มชาติพันธุ์ม้งในพื้นที่
'อ.จักษ์' นำกลุ่มคนรักสถาบัน รวมตัวเคารพธงชาติในวันปิยมหาราช แสดงจุดยืนค้านแก้รธน.
กลุ่มมวลชนชาววพิษณุโลก รวมตัวเคารพธงชาติ ณ วงเวียนหอนาฬิกา ในวันปิยมหาราช แสดงจุดยืน เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่เห็นด้วยกับการ เขียนรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับโดยเฉพาะหมวด 1 และหมวด 2 ที่ไม่ต้องการให้แตะต้อง
พระ-เณร ร่วมแรงกรอกกระสอบทราย ป้องกันแม่น้ำน่านทะลัก ระดับน้ำเกือบล้นตลิ่งแล้ว
สถานการณ์น้ำแม่น้ำน่าน กำลังวิกฤต เนื่องจากน้ำเหนือไหลบ่าลงสู่แม่น่าน ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดเช้าวันนี้ เวลา 10.00 น.อยู่ที่ 9.88 เมตร แล้ว จากจุดวิกฤติ 10.37 เมตร เฝ้าระวังแม่น้ำน่านล้นตลิ่งเข้าเขตเศรษฐกิจต่อเนื่อง
แม่น้ำยมเริ่มลดระดับแล้ว แต่น้ำยังเอ่อท่วมบ้านที่ลุ่มริมแม่น้ำ
น้ำในแม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองเมม ที่รับน้ำจากสุโขทัย ณ วันนี้ เริ่มลดลงต่อเนื่อง ต่ำกว่าตลิ่ง 1.5 เมตร หลังในห้วง 3 วันที่ผ่านมามีการระบายแบบเต็มรูปแบบ เป็นการระบายแบบปกติ แต่ก็ยังเหลือมีน้ำท่วมขังเฉพาะบ้านเรือนประชาชนริมฝั่งที่ลุ่มต่ำเท่านั้น และจะเริ่มลดลงเรื่อย ๆ หน่วยราชการพร้อมออกช่วยเหลือ

