'โรม' เชิญหน่วยงานถกสถานการณ์ชายแดนใต้ หลังกลุ่มเปราะบางถูกพุ่งเป้า ด้าน 'เลขาฯ สมช.' แจงเร่งคลอดนโยบายพัฒนา 6 แนวทาง เน้นรักษาความปลอดภัย-ลดการทหารเชิงรุก
22 พ.ค. 2568 - ในการประชุมคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธาน วาระพิจารณาเรื่องสถานการณ์ความรุนแรงยุทธศาสตร์ภาครัฐและกระบวนการสันติภาพในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้แทนจากภาคประชาสังคม
นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมแทนนายภูมิธรรม กล่าวชี้แจงในที่ประชุมถึงสถานการณ์ในปัจจุบันว่า กลุ่มผู้ก่อความรุนแรงยังสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่องมีเป้าหมายทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ต้องการธำรงไว้ซึ่งกระแสความรุนแรงใช้เป็นเงื่อนไขการตอบโต้และการต่อรองกับฝ่ายรัฐ โดยเฉพาะข้อเรียกร้องทางการเมืองอย่างการตั้งคณะพูดคุย ในสถานการณ์ปัจจุบันแตกต่างจากอดีต มีการเปลี่ยนผ่านผู้เห็นต่างจากรุ่นเก่าสู่รุ่นใหม่ ซึ่งมีศักยภาพ ทางด้านการศึกษาและการทหารที่เข้มแข็งเพื่อแสดงการมีตัวตน
เนื่องจาก ช่วงที่ผ่านมา มีการก่อเหตุต่อเป้าหมายพลเรือนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ส่วนในเชิงนโยบายรัฐบาลได้ผลักดันนโยบายการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2568 – 2570 เป็นนโยบายที่เกิดจากความร่วมมือทุกภาคส่วน และเกิดขึ้นจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมามากกว่า 25 เวที โดยนโยบายฉบับนี้เตรียมที่จะเสนอเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ คณะรัฐมนตรี และสภาผู้แทนราษฎร
ดังนั้น นโยบายฉบับนี้ จะเน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของผู้คน และขับเคลื่อนเรื่องกระบวนการพูดคุยสันติสุขผ่าน 6 แนวทาง ได้แก่ 1.สร้างขีดความสามารถในการรักษาความปลอดภัยของหน่วย มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ลดเงื่อนไขการละเมิดสิทธิมนุษยชน 2.การลดทอนเงื่อนไขที่นำมาซึ่งความรุนแรง ลดการทหารเชิงรุก ใช้เท่าที่จำเป็น และใช้กฎหมายตามปกติในการขับเคลื่อน
3.เน้นความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการสนับสนุนความปลอดภัย มีพื้นที่ปลอดภัยให้ทุกฝ่ายมาดูแลร่วมกัน
4.ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงนำมาสู่การพูดคุยแก้ปัญหารูปแบบอื่น ปรับงานการข่าวให้ระงับยับยั้งป้องกันเหตุที่เกิดขึ้นเพื่อลดความสูญเสีย 5.การบริหารจัดการชายแดนร่วมมือกับมาเลเซียอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันของผู้ก่อเหตุไม่ให้เข้ามาเคลื่อนไหวหรือขนย้ายอาวุธ และ 6.การสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจของประชาชน เน้นเรื่องการอำนวยความยุติธรรมและเยียวยา ซึ่งจะมีการปรับให้ครอบคลุมและสร้างความเป็นธรรมให้มากขึ้น
ในช่วงหนึ่ง นายฉัตรชัย กล่าวว่า เราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มรูปแบบกับผู้ที่ใช้ความรุนแรง และเปิดช่องทางให้ผู้ที่เห็นต่างกลับคืนสู่สังคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กกต.ชี้ผู้สมัคร พรรคส้ม ถูกจับยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม
กกต.กทม. แจงผู้สมัคร ส.ส. เขต 33 ปชน. ถูกจับข้อหาฟอกเงิน–ยาเสพติด ยังไม่เข้าลักษณะต้องห้าม หากศาลยังไม่ตัดสินเด็ดขาด พร้อมย้ำการเปลี่ยนผู้สมัครทำได้เฉพาะกรณีลาออก ตาย หรือมีคำพิ
พรรคส้มกลับลำ ดัน 'เท่าพิภพ' เสียบแทน อดีตผู้สมัครสส.สีเทา ชิงเก้าอี้เขตบางพลัด-บางกอกน้อย
เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร อดีตสส.พรรคประชาชน โพสต์ภารกิจฟื้นความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อพรรคสำคัญที่สุด พร้อมกลับมารับใช้คนกรุงเทพ
ปชน. ยันตรวจสอบประวัติผู้สมัครอย่างดี ชี้ 'บุญฤทธิ์' โดนหมายจับหลังตรวจเสร็จ
พรรคประชาชนแถลงขอโทษประชาชน-เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. หลังพบถูกออกหมายจับคดีฟอกเงิน
เปิดเบื้องหลัง 'ปชน.' เปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส.กทม.เขต 33 โดนหมายจับพัวพันเครือข่ายค้ายา
เปิดเบื้อหลังเปลี่ยนตัวผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขต 33 บางพลัด-บางกอกน้อย เนื่องจากพรรคประชาชนตรวจสอบพบว่าผู้สมัครถูกออกหมายจับในคดีอาญา
3 แคนดิเดต 'ปชน.' ทำมือเบอร์ 46 แจงเหตุปาร์ตี้ลิสต์เหลือ 99
3 แคนดิเดต 'ปชน.' ทำมือสัญลักษณ์หมายเลข 46 ลุยหาเสียงทันที ชวนประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้า แจงบัญชีรายชื่อเหลือ 99 คน ถอนตัวไป 1

