เกษตรกรหมู่บ้านชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่ลูกกระสุนปืนใหญ่ตก เร่งจ้างแรงงานที่อพยพกลับเข้าหมู่บ้านกว่า 10 คน เก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังขายแม้ราคาต่ำ ชี้ยังไม่มั่นใจสถานการณ์เกรงจะเกิดปะทะซ้ำอีก เพราะหลังเจรจาหยุดยิงแล้วแต่ฝั่งเขมรยังลอบวางทุ่นระเบิดและก่อกวนไม่หยุด
21 สิงหาคม 2568 - ชาวบ้านและเกษตรกรในพื้นที่ตำบลสายตะกู อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่จรวด BM-21 และกระสุนปืนใหญ่ตกในหมู่บ้าน ช่วงที่มีการสู้รบ เมื่อวันที่ 24 – 28 ก.ค.68 ทั้งยังไม่มั่นใจในสถานการณ์สงครามชายแดน เกรงจะมีการประทะกันขึ้นอีกหรือไม่ ได้เร่งจ้างแรงงานซึ่งเป็นชาวบ้านที่อพยพหนีภัยสงครามไปอยู่ตามบ้านญาติและศูนย์พักพิงต่างๆ ที่ได้เดินทางกลับเข้ามาอยู่ในหมู่บ้าน ทำการเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังที่กำลังใกล้จะเน่าเสีย ที่ปลูกไว้ในไร่มันและปลูกแซมในสวนยางพารา เพื่อนำไปขายยังลานรับซื้อ ถึงแม้ช่วงนี้ราคารับซื้อมันจะต่ำอยู่ที่กิโลกรัมละกว่า 2 บาท ก็ตาม เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน หลังช่วงหนีภัยสู้รบ ไม่มีรายได้มาจุนเจือครอบครัวเลย และเงินบางส่วนก็จะเก็บสำรองไว้เป็นค่าใช้จ่ายหากต้องอพยพออกนอกพื้นที่ หากเกิดการสู้รบอีกครั้ง
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ เหิมฉลาด เกษตรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ตำบลสายตะกู อ.บ้านกรวด ยอมรับว่า ตอนนี้ยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชา เกรงว่าจะมีการปะทะกันอีกครั้ง เพราะตอนนี้สถานการณ์ยังตึงเครียด
แต่อย่างไรก็ตาม การปิดด่านชายแดนครั้งนี้ ก็เป็นผลดีกับเกษตรกรไทยที่มีอาชีพปลูกมันสำปะหลังตามแนวชายแดน เพราะชาวกัมพูชาไม่สามารถลักลอบขนมันสำปะหลัง ข้ามมาตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อมาขายในไทยตัดราคามันของเกษตรกรให้ตกตกต่ำ เหลือเพียงกิโลกรัมละบาทกว่าเท่านั้น แต่หลังจากทหารและรัฐบาลสั่งปิดด่าน ส่งผลให้ราคามันของเกษตรกรไทยปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละกว่า 2 บาท
จึงอยากให้ฝ่ายทหารและรัฐบาลสั่งปิดด่านแบบถาวร ก็จะเป็นผลดีกับเกษตรกรไทยได้ขายมันในราคาที่สูงขึ้น ทั้งมองว่าการปิดด่านยังเป็นการป้องกันการไม่ให้กัมพูชา รุกล้ำอธิปไตยของไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลายหน่วยงาน รุดให้กำลังใจครอบครัว 'จ่าเหิน' ทหารไทยขาขาดรายที่ 8
ผู้ว่าฯบุรีรัมย์ มอบหมาย พมจ.ร่วมกับหลายหน่วยงาน เยี่ยมให้กำลังใจพร้อมช่วยเหลือซ่อมสร้างบ้านชำรุดให้กับครอบครัวจ่าเหิน ทหารกล้าเหยียบกับระเบิดขาขาดรายที่ 8 สุดเศร้าไม่กล้าบอกข่าวร้ายแม่ป่วยติดเตียงหวั่นช็อก
จ.บุรีรัมย์ ให้ 'ผู้อพยพ' กลับบ้านได้บางส่วน เฉพาะพื้นที่ประเมินแล้วไม่เสี่ยง หลังเสียงปืนเบาลง
จากสถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เป็นเวลา 16 วัน ซึ่งถือว่าเป็นการปะทะที่ยาวกว่าครั้งที่ผ่านมาจนผู้อพยพเกิดความกังวลว่าจะสงบลงเมื่อไหร่
หน่วยงาน-จิตอาสา บริการตัดผมฟรีให้แก่ผู้อพยพชายแดน
ส่วนราชการ อาสาสมัครภาคประชาชน และจิตอาสา ให้บริการตัดผมชาย-หญิงฟรี แก่ประชาชนผู้อพยพหนีภัยสู้รบ และเจ้าหน้าที่ ยังศูนย์พักพิงชั่วคราว จ.บุรีรัมย์ เพื่อสร้างรอยยิ้ม ความประทับใจ และผ่อนคลายความตึงเครียดจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
เสียงปืนเขมรเบาลงครั้งแรกในช่วง 12 วันสู้รบ พบลูกจรวดเกลื่อนไร่ยางพารา
เสียงปืนฝั่งเขมรหยุดลงครั้งแรกในรอบ 12 วัน จนท.เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ พบลูกจรวดปืนใหญ่ตกใส่ไร่ยางพาราเป็นจำนวนมาก มีทั้งแตกและไม่แตก ระบุเขมรหันกระบอกปืนมาทางพลเรือนของไทย
วัว-ควายช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านคาดเสียงปืนดังตลอดทำสัตว์หัวใจวาย ไม่พบบาดแผล
เสียงปืนปะทะกันของทหารสองฝ่าย ทำให้สัตว์เลี้ยง วัว-ควายของชาวบ้านช็อกตายแล้ว 6 ตัว ชาวบ้านระบุเป็นเพราะมีการยิงกันตลอดเวลาทำให้วัวควายหัวใจวาย อยากให้จบและไม่อยากให้ประเทศที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยว
ชรบ.ชายแดน ทำหน้าที่แข็งขัน ให้อาหารสัตว์เลี้ยง รดน้ำต้นไม้ของชาวบ้านอีกด้วย
เจ้าหน้าที่ ชรบ. พร้อมผู้นำชุมชนในหมู่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ นอกจากจะทำหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัย บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนผู้อพยพแล้ว ยังคงต้องหมั่นคอยไปเอาอาหารให้กับสัตว์เลี้ยงด้วย

