ชาวบ้านชายแดน ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา อพยพหนีสงคราม ครัวเรือนละ 2-5 พันบาท

ชาวบ้านแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่อพยพหนีภัยสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ทยอยลงทะเบียนรับเงินเยียวยาต่อเนื่อง ล่าสุดมีผู้ได้รับผลกระทบลงทะเบียนแล้วกว่า 7 พันครัวเรือน จากจำนวนผู้ที่อพยพออกจากพื้นที่กว่า 19,000 ครัวเรือน อปท.กำนัน ผญบ.ออกให้บริการรับลงทะเบียนในหมู่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวก และลดภาระค่าใช้จ่าย เผยยังใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง

6 กันยายน 2568 - ชาวบ้านแนวชายแดน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ที่อพยพหนีภัยสู้รบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ทยอยนำเอกสารหลักฐาน สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และใบมอบอำนาจ (กรณีไม่สามารถยื่นคำร้องด้วยตนเองได้) ไปยื่นลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาจากสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามมติคณะรัฐมนตรีที่มีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และจังหวัดตราด โดยตามระเบียบหลักเกณฑ์จะมีการจ่ายเยียวยาให้กับประชาชนต้องอพยพครัวเรือนละ 2,000 บาท สำหรับการอพยพไม่เกิน 7 วัน และเยียวยาครัวเรือนละ 5,000 บาท สำหรับผู้ที่อพยพตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป

จากข้อมูลพบว่าอำเภอบ้านกรวด มีประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบไทย-กัมพูชา 9 ตำบล กว่า 19,000 ครัวเรือน ซึ่งขณะนี้มีประชาชนมาลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาแล้วกว่า 7,000 ครัวเรือน

ขณะที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้ง 11 แห่ง ในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ได้ร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงพื้นที่ออกให้บริการรับลงทะเบียนในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน หลังจากรับลงทะเบียนในแต่ละวัน ก็จะมีการประชาคมทุกเย็นวันพุธ และนำรายชื่อเสนอคณะกรรมการระดับอำเภอ และระดับจังหวัด เพื่อส่งให้กระทรวงพิจารณาอนุมัติช่วยเหลือเยียวยาตามขั้นตอนต่อไป

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนที่มาลงทะเบียน บอกว่า ดีใจที่รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาช่วงที่ต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ เพราะไม่ได้ทำมาหากิน และทุกวันนี้ก็ยังใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงเพราะสถานการณ์ตามแนวชายแดนยังตึงเครียด ขณะที่ ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า จากการสอบถามชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างรู้สึกดีใจที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเยียวเยียวในช่วงที่อพยพออกนอกพื้นที่ ทำให้ไม่ได้ประกอบอาชีพต้องขาดรายได้ ซึ่งส่วนมากก็จะอพยพออกนอกพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2 สัปดาห์

ขณะที่ทาง อปท.ก็ได้ร่วมกับกำนัน ผญบ.ออกให้บริการรับลงทะเบียนที่ศาลากลางหมู่บ้าน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน

จากการสอบถามประชาชนส่วนมากก็ยังรู้สึกระแวงใช้ชีวิตไม่เป็นปกติ เพราะสถานการณ์ชายแดนยังคงตึงเครียด

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รัฐบาลยกเว้น 'ค่าไฟ' พ.ย. 420 ล้าน เยียวยาน้ำท่วมสงขลา

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเยียวยาและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลา เดินหน้าไปอย่างมาก โดยปัจจุบันสามารถนำประชาชนกลับบ้านไปได้กว่า 90%

นายกฯ ลั่นหากเกิดเหตุชายแดนหลังยุบสภา รัฐบาลรักษาการยังมีอำนาจสนับสนุนเต็มที่

นายกฯ ย้ำไม่มีปัจจัยบอกเหตุ ก็ต้องมีแผนป้องกัน โดยเฉพาะตามแนวชายแดน มั่นใจผู้ว่าฯ ดูแลได้ หากอยู่ในช่วงยุบสภา ปฎิเสธข่าวการเจรจาที่ออตตาวาไม่เป็นผล

นายกฯ สั่งผู้ว่าฯ 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา ต้องมีความพร้อมเต็มที่ ดูแล-อพยพประชาชน

นายกฯ มอบนโยบายชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน สั่งผู้ว่าฯ 7 จังหวัดเตรียมแผนดูแลประชาชน เผย ยืมสตาร์ลิงค์ทหารไว้สื่อสารแล้วเปรียบ ”ชรบ.“ เป็นกำแพงมหึมาดูแลแนวหลังให้ปลอดภัย - สร้างความสบายใจให้ทหารไม่ต้องพะวงหลังห่วงครอบครัว ชี้ ใครคิดรบกับไทยคงประสาทไม่ดี

นายกฯ สวมชุด อส. นำคณะบินตรวจราชการ จ.บุรีรัมย์ มอบนโยบาย ชรบ.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม

โถ! ทภ.2 เรียกร้องกัมพูชาหยุดวางทุ่นระเบิด ย้ำธำรงความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้าน

รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากการรวบรวมหลักฐานเชิงประจักษ์ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ที่พื้นที่เกิดเหตุเมื่อปี พ.ศ. 2568

ชาวบ้านรวมกลุ่มปลูกพืชผักสวนครัว-เมล่อนญี่ปุ่น โกยรายได้งาม

ชาวบ้าน เกษตรกร ชาวอำเภอพลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ รวมกลุ่มปลูกผักและปลูกเมล่อนญี่ปุ่น ปลอดสารพิษ 100% มีตลาดรับซื้อชัดเจน จากอาชีพเสริมกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้หาเลี้ยงครอบครัว ได้มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น