ชาวนาบุรีรัมย์ วอนเห็นใจ 'ตากข้าวบนถนน' ต้องผึ่งแดดให้แห้งก่อนขายโรงสี

เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาขอความเห็นใจ จากประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน หลังจากช่วงนี้ได้เริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวปลูกนาปี แต่นาข้าวกลับถูกน้ำท่วมขัง ซ้ำฝนยังตกลงมาต่อเนื่อง จำเป็นต้องนำมาตากผึ่งแดดลดความชื้นริมฝั่งถนนลาดยาง วอนโปรดเข้าใจและเห็นใจชาวนา

6 พฤศจิกายน 2568 - ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงนี้ในหลายพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ รวมถึงหลายจังหวัดทางภาคอีสาน เกษตรกรชาวนาที่ได้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปีพันธุ์หอมมะลิ กข 15 ได้เริ่มทยอยเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเปลือกที่กำลังสุกงอมได้ที่กันแล้ว

โดยในปีนี้ พบว่าแปลงนาของเกษตรกรในหลายพื้นที่ของ จ.บุรีรัมย์ โดยพาะพื้นที่ราบลุ่มและอยู่ใกล้กับแหล่งน้ำ ได้มีน้ำเอ่อ่เข้าท่วมแปลงนาหลายแห่ง ทำให้เกษตรกรชาวนาจำเป็นต้อวเร่งรีบทำการเก็บเกี่ยวข้าว เพื่อไม่ให้ข้าวเปลือกจมน้ำเสียหายไปมากกว่านี้ ซึ่งภายหลังทำการเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกที่จมน้ำ เกษตรกรบางรายได้นำข้าวเปลือกไปขายแบบสดๆ ทันที ทำให้โรงสีหลายแห่งไม่รับซื้อ และให้นำมาตากผึ่งแดดให้แห้งกว่านี้ ถึงจะรับซื้อ

แต่หากจะรับซื้อก็จะรับซื้อในราคาที่ต่ำ อยู่ที่ประมาณ ก.ก.ละ 7-9 บาท จากราคาปกติที่รับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 10-12 บาท แต่ไม่เกิน 14 บาทต่อ ก.ก. ชาวนาจำใจต้องนำข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวและโรงสีไม่รับซื้อ นำมาตากผึ่งแดดให้แห้งสนิทดี ก่อนที่จะนำไปขายให้กับโรงสี เพื่อให้ได้ราคารับซื้อที่ดีกว่า

นายสำเภา ชาวนา ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ บอกว่า ทำนา 10 กว่าไร่ ผลผลิตได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เนื่องจากนาข้าวถูกน้ำท่วม และต้นข้าวส่วนใหญ่จมน้ำ พอจะเอาข้าวเปลือกที่เกี่ยวเสร็จแล้วไปขายยังโรงสี ก็ขายไม่ได้ราคา หากโรงสีจะรับซื้อก็ให้ราคาต่ำที่กิโลกรัมละประมาณ 8-9 บาท แต่ทางโรงสีก็ไม่รับซื้อ จึงจำเป็นต้องนำข้าวเปลือกมาตากแดดริมถนน ให้แห้งก่อนนำไปขายใหม่อีกครั้ง

การตากแดดในแต่ละครั้ง ถ้าจะให้แห้งสนิทดีก็ต้องใช้เวลาในการตากประมาณ 3-4 วัน ต้องขออภัยคนที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงนี้ด้วย ที่พวกตนได้นำข้าวเปลือกมาตากแดดริมถนน และทำให้เกะกะเส้นทางและอาจจะกีดขวางการจราจร ซึ่งจะตากเพียง 3-4 วันข้าวแห้งดีก็จะเก็บกลับคืน

นายสุรชัย ชาวนาอีกราย บอกว่า ทำนา 12 ไร่ ก็ได้ผลผลิตดีอยู่ แต่ติดตรงที่มีมรสุมเข้ามาในช่วงที่เข้าตั้งท้องและออกรวง ทำให้ต้นข้าวล้มจมน้ำ พอตอนเกี่ยวข้าวฝนก็ตกลงมาอีก พอจะเอาไปขายโรงสีก็ไม่รับซื้อ เพราะว่าข้าวมันเปียกชื้น และมีเศษหญ้าเมล็ดวัชพืชปนมาเยอะ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ข้าวก็เปียกที่ตากก็มีน้อยจึงจำเป็นต้องนำมาตากแดด ไล่ความชื้นบริเวณริมสองฝั่งถนนลาดยางทางเข้าออกหมู่บ้าน

‘ก็ต้องขอความเห็นใจจากผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในช่วงนี้ด้วย เพราะไม่มีที่ตาก ส่วนจะตากตามพื้นดินก็มีความชื้นสูงทำให้ข้าวแห้งช้า ก็เลยขอความอนุเคราะห์นำข้าวมาตากไว้ข้างทาง ซึ่งใช้เวลาไม่นานก็หมดแล้ว เพราะช่วงนี้เป็นช่วงเกี่ยวข้าวของชาวนาขอความเห็นใจให้ชาวนาอย่างพวกตนด้วย โดยในบางครั้งอาจจะมีการตากข้าวลำเส้นขาวขอบทางไปบ้าง รวมถึงจะได้หากรวยยาง และเศษกิ่งไม้มาทำเป็นสัญลักษณ์ เพื่อบ่งบอกว่ามีเศษกองวัสดุอยู่ข้างหน้า เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบ และขับขี่ด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย’ ชาวนา ต.ทุ่งวัง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กล่าว

ขณะที่ นางภาณินี ชาวนาอีกราย บอกว่า ปีนี้ผลผลิตข้าวขาดทุน เพราะว่าน้ำมันเยอะและท่วมนาข้าว ทำให้ต้นข้าวล้มจมน้ำด้วย พอจะเอาไปขายยังโรงสีๆก็ไม่รับซื้อ และให้นำกลับมาตากแดดให้แห้งดีก่อน พอกำลังจากใกล้จะแห้งฝนก็ตกลงมาอีก ซึ่งราคาข้าวที่ทางโรงสีรับซื้อตอนนี้ถ้าเปียกชื้นมากก็จะรับซื้อที่กิโลกรัมละ 7-8 บาท ก็มีทั้งโรงสีที่รับและไม่รับซื้อข้าวเปียก ถ้าข้าวแห้งมีความชื้นน้อยก็จะรับซื้ออยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 12 บาท

นางภาณินี บอกด้วยว่า ก็ต้องขอความเห็นใจจากผู้ใช้รถใช้ถนน ว่าทำไมชาวนาเราถึงตากข้าวบนพื้นดินไม่ได้ เพราะจะทำให้ข้าวเสียและแห้งช้า พร้อมทั้งขอให้ขับรถด้วยความระมัดระวังด้วย.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข้าวเปียกขายไม่ออก! ชาวนาบุรีรัมย์หอบข้าวตากริมถนน สู้ฝน-สู้ราคา

หลังพายุ “คัลแมกี” ถล่มทำข้าวเปียกชื้น โรงสีไม่รับซื้อหรือกดราคาต่ำกว่า 10 บาทต่อกิโล ชาวนาหลายหมู่บ้านใน อ.เมือง บุรีรัมย์ ต้องขนข้าวเปลือกกลับมาตากหน้าบ้าน ริมถนน หวังไล่ความชื้นก่อนนำไปขายใหม่เพื่อใช้หนี้และเลี้ยงครอบครัว

พระแท้ที่พึ่งชาวบ้าน! เจ้าอาวาสวัดดังสุโขทัย ออกคำสั่งให้ตากข้าวได้เลย ไม่ต้องขออนุญาต

เพจเฟซบุ๊ก กลฺยาณวชิโร ภิกขุ วัดใหญ่ชัยมงคล สุโขทัย เผยแพร่คำสั่งเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล เรื่องห้ามขออนุญาตตากข้าว เนื่องจากชาวบ้านกำลังเก็บเกี่ยวข้าว

อันตรายตากข้าวเปลือกบนถนน ร้องรัฐไม่นิ่งเฉย ออกประกาศป้องกัน

บุรีรัมย์ พ่อหนุ่มเคราะห์ร้าย ขี่ จยย.ชนกองข้าวดับ เรียกร้องรัฐออกประกาศ ห้ามตากข้าวบนถนน ควรหาลานปูนให้ตาก ป้องกันเกิดเหตุซ้ำรอย

วัดเอื้อชุมชน เปิดให้ชาวบ้านตากข้าวเปลือกเต็มพื้นที่โดยไม่เก็บเงิน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีของเกษตรผู้ปลูกข้าวในเขต จ.ขอนแก่น เนื่องจากขณะนี้ทุกพื้นที่เริ่มทำการเกี่ยวข้าวและตากข้าวหลังการเก็บเกี่ยว ซึ่งก็ยังพบว่า ริมถนนสายต่างๆในพื้นที่ชุมชนหมู่บ้าน ยังคงมีการตากข้าวเปลือกกันเช่นเดิม นอกจากนี้ยังพบว่า พื้นที่หน้า อบต.โรงเรียน รวมถึงลานวัด ก็ยังเป็นสถานที่ ในการตากข้าวเปลือกของชาวบ้านในพื้นที่อีกด้วย