ติดประกาศขับไล่ 'โรงแรมตรัง' ภายใน 15 วัน หลังค้างค่าเช่าเทศบาลกว่า 50 ล้านบาท

ทน.ตรัง-บังคับคดีลุยติดประกาศขับไล่ โรงแรมตรัง และ บริวาร ย้ายทรัพย์สินออกจากอาคารคามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภายใน 15 วัน หลังค้างค่าเช่าให้กับเทศบาลนครตรัง บานเบอะกว่า 50 ล้านบาท  นายกเล็กฯ เผยหากฝ่าฝืนพร้อมคล้องโซ่ปิดตายทันที เตรียมเปิดให้ผู้ประมูลรายใหม่ ส่วนค่าความเสียหายโดยรวมคาดว่าเกินร้อยล้านบาท

2 มี.ค.2565 - เวลาประมาณ 11.00 น. ว่าที่ร้อยตรี สุวิทย์ นาคะวัจนะ นิติกรเจ้าของสำนวนคดี และเจ้าพนักงานบังคับคดี หมายเลขดำที่ พ.36/2561 คดีหมายเลขแดงที่ พ 730/2562 ศาล จ.ตรัง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เทศบาลนครตรัง เจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้ทำการนำประกาศเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดี จ.ตรัง ลงวันที่ 2 มี.ค.65 ตามที่เทศบาลนครตรัง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง บริษัทเกาะหวังเนเจอร์รัลรีสอร์ท จำกัด หรือบริษัทเกาะวังเนเจอร์รัล รีสอร์ท จำกัด หรือบริษัทอ่าวสรรค์ จำกัด ขับไล่ลูกหนี้ตามตามคำพิพากษาและบริวารพร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินออกไปจาก อาคารโรงแรมตรัง เลขที่ 134/2-5 และอาคารพาณิชย์ เลขที่ 136/6 , 136/8 , 136/10 และ 136/12 ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ตามสัญญาเช่า

โดยลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ปิดประกาศ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นบริวารของ บริษัทเกาะหวังเนเจอรัลรีสอร์ท จำกัด หรือบริษัทเกาะหวังเนเจอรัลรีสอร์ท จำกัด หรือบริษัทอ่าวสวรรค์ จำกัด และเจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายต่อไป

ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง (ปัจจุบัน) กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ตนเข้ามารับตำแหน่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ได้เข้ามาดำเนินการในเรื่องคดีค้างเก่าของเทศบาลนครตรังที่มีอยู่ เช่นเรื่องโรงแรมตรัง ที่มีปัญหาเรื้อรังมานานซึ่งทางผู้เช่าโรงแรมตรัง จากเทศบาลนครตรัง ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบันมีปัญหาไม่จ่ายค่าเช่าให้ทางเทศบาล ซึ่งทำให้เกิดความเสียหาย เพราะผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญา ทางเราจึงได้ฟ้องร้องต่อศาล เพื่อที่จะขับไล่ให้ออกไปจากพื้นที่ ที่ได้มาเช่า พร้อมด้วยอาคารที่ใต้โรงแรมตรังอีก 8 ห้อง เป็นผู้ที่โรงแรมตรังได้เช่าช่วงไป ทางเทศบาลนครตรังก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ตรงนั้นมา มูลค่าความเสียหายปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 54,320,000 ล้านบาท ค่าเช่ารายเดือนอยู่ที่ประมาณ 300,000 บาทเศษต่อเดือน และค่าเช่าต่างตอบแทน ปีละประมาณ 2.5 ล้านเศษอีก ต้องจ่ายทุกเดือนกันยายนของทุกปี ก็ไม่ได้จ่าย

ดร.สัญญา กล่าวอีกว่า ตอนเรายื่นฟ้องศาล เราทำเพียงแค่ขับไล่และขอชดใช้ตามที่ทางเทศบาลสูญเสียทั้งหมด ได้ดำเนินการตามชั้นต้นของจังหวัดตรังทั้งหมด ทางเทศบาลนครตรังก็ได้ชนะคดีทั้งหมด ทางฝ่ายผู้เช่าก็ได้อุทธรณ์ทั้งหมด และคำสั่งศาลอุทธรณ์ก็ได้ออกมาแล้วว่าจะต้องออกไป ทางเทศบาลนครตรังได้แจ้งไปยังบังคับคดี จ.ตรัง เพื่อติดหมายขับไล่นับตั้งแต่วันนี้เป็นเวลา 15 วัน ถ้ายังไม่ออกไป จากที่เช่าอยู่ เราก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะถ้าเราไม่ทำก็เท่ากับเราละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ไปเช่นกัน ตนก็กลัวเหมือนกันเรื่องการละเว้นก็ต้องพยายามสะสางไว้ทั้งหมด เพื่อให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย

ดร.สัญญา กล่าวอีกว่า หากเกิน 15 วันแล้วหากผู้เช่ายังฝาฝืน ทางเทศบาลก็สามารถที่จะล็อคกุญแจได้ทันที หลังจากการขับไล่สำเร็จแล้วเราก็จะเปิดให้มีการประมูลให้กับผู้ที่สนใจ ที่จะเข้ามาทำกิจการต่อ เราก็ไม่รู้ว่าสภาพข้างในโรงแรมเป็นอย่างไร เพราะเขาไม่ได้ให้เราเข้าไปตรวจสอบ หลังจากขบวนการเสร็จสิ้น เราก็จะตั้งคณะกรรมกาสอบเพื่อเข้าไปดูว่าอะไรที่เป็นทรัพย์สินของทางเทศบาล หากสมบัติของผู้เช่ายังอยู่ เราก็ต้องนำมาทำรายการเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อไปในอนาคต

ส่วนความเสียหายที่เทศบาลควรจะได้รับ หากคิดเป็นตัวเลขมันคงเกิน 100 ล้านบาท รวมถึงค่าเสียหายจากการเช่าช่วงบ้านข้างล่าง 8 ห้องอย่างน้อยก็จะคิดค่าเช่าเดือนละ 18,000-25,000 บาท ขั้นต่ำ บางห้องก็ 20,000-30,000 บาท สำหรับผู้เช่ารายย่อยก็เสียค่าเช่าให้กับผู้เช่าอยู่ยังไม่ดำเนินการแต่หากเราเข้าไปบังคับคดีแล้วผู้เช่ารายย่อยก็ต้องมาดำเนินการติดต่อมาดามเทศบาลนครตรังเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยากาศโรงแรมในวันนี้สภาพอาคารโดยรวมดูค่อนข้างเก่า ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่ไม่มีนักท่องเที่ยวหรือประชาชนเข้าพัก พบเพียงพนักงานซึ่งอ้างตัวว่าเป็นญาติของผู้บริหารบริษัทฯ เข้าคุยกับเจ้าหน้าที่แต่เพียงผู้เดียว และไม่มีส่วนในการตัดสินใจใดๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นายกฯแป้น' กอดเก้าอี้บนน้ำตาชาวหาดใหญ่ เมินถูกล่ารายชื่อขับไล่

“นายกฯแป้น” ลั่น ไม่เล่นอะไรอีกแล้ว แต่เรื่องลาออกก่อนวาระ ขอดูก่อน ยัน “ทำเต็มที่ที่สุด” แล้วแต่ประชาชน หากจะล่ารายชื่อขับไล่ออกจากตำแหน่ง

ตรังคึกคัก! ‘นิพิฏฐ์’ เผย ‘ชวน’  ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้

นาย นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความว่า  ท่านชวน หลีกภัย ไม่ได้สู้กับใคร แต่ใครจะสู้กับท่านผมไม่รู้

'นิพิฏฐ์' เล่าให้ฟัง พาพรรคพวกไปตรังหา 'นายหัวชวน'

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งเมื่อวันที่ 3 ต.ค. เพื่อสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาเป็นหัวหน้าพรรค โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก