ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้เวลา 2 วัน 24-25 มีนาคม ก่อนลงมติวันนี้ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งลีลาของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในการแจงข้อซักฟอกถือว่าสามารถสะกดอารมณ์ได้ดี ไม่ปล่อยหมัดเด็ดตรงๆ ใส่ฝ่ายค้าน แต่ใช้ความนิ่งตอบเจ็บๆ ในบางช่วงเช่นกัน
ไม่ว่าจะการชี้แจงกรณีข้อพิพาทเขากระโดง กรณีที่ดินอัลไพน์ กรณีราคาพลังงานที่แพงขึ้น การแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 หรือการชี้แจงข้อกล่าวหารุนแรงเรื่องการเลี่ยงภาษีที่กำลังถูกเชื่อมโยงไปถึงขั้นฟ้องจริยธรรม ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่นายกฯ “ยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามกระบวนการ ตามข้อกฎหมายทุกอย่าง การกล่าวหาว่าหนีภาษีไม่ได้เป็นความจริงเลย และเป็นเรื่องที่ตรงข้าม แม้ดิฉันจะอายุน้อยกว่าท่าน แต่ก็มั่นใจว่าเสียภาษีให้รัฐมากกว่าแน่นอน”
หรือจะเป็นการลุกตอบการอภิปรายของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่นายกฯ อิ๊งค์ตอบย้อนศรคำพูดที่บิ๊กป้อมเคยพูดไว้ในสภาว่า “สิ่งที่พูดไม่เป็นความจริง”
ซึ่งการชี้แจงของนายกฯ จากวันแรกที่ใช้คำตรงๆ ไปหน่อย แต่ดูซอฟต์ลงมาในวันที่ 2 ตอบสมภาวะผู้นำมากขึ้น
ขณะที่การแจงข้อมูลต่างๆ ของนายกฯ ใน 2 วันของการซักฟอกถือว่าทำการบ้านมาดี ทั้งการเตรียมตัว และการเกร็งข้อสอบถือว่าพอใช้ได้ โดยมีทีม “พรรคร่วมรัฐบาล” แบ่งกำลังกันขึ้นชี้แจงแทนนายกฯ ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและอยู่ในความรับผิดชอบ เช่น ปมส่งชาวอุยกูร์กลับจีน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลุกขึ้นชี้แจงเรื่องพลังงานค่าไฟฟ้าแพง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน รับหน้าที่ตอบ
หรือปมที่ดินเขากระโดง สนามกอล์ฟอัลไพน์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ช่วยชี้แจงแทน ส่วนปมชั้น 14 ที่พุ่งตรงไปถึงนายใหญ่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ทำหน้าที่แจงแทนนายกฯ เป็นต้น ทำให้การอภิปรายในวันที่ 2 นายกฯ อิ๊งค์แทบไม่ต้องออกแรงมาก
ถือว่าตรงตามที่ได้เตี๊ยมกันไว้ในวงดินเนอร์หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ทุกฝ่ายทำหน้าที่ประคองแม่ทัพเมื่อถูกฝ่ายค้านพาดพิง นอกจากนี้ยังมี “ทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภา” ที่มี 20 ขุนพลทำหน้าที่องครักษ์คู่ขนานไปด้วย
รวมถึงมีวงมอนิเตอร์เวทีซักฟอกของนายใหญ่ ที่เป็นคุณพ่อของนายกฯ คอยเกาะติดการซักฟอกตลอดเวลาให้เจ้าตัวได้อุ่นใจ และโทรหา พร้อมส่งข้อความติวเข้มนายกฯ อิ๊งค์เป็นระยะ จึงทำให้เวทีซักฟอกครั้งแรก น.ส.แพทองธาร ไม่แสดงออกถึงความกังวล มีรอยยิ้ม แอบส่งมินิฮาร์ทให้ช่างภาพได้บันทึกภาพ แถมร่วมเวทีสภาวันที่ 2 ยังใส่ชุดโทนสีดำให้ดูขรึมน่าเกรงขามอีกด้วย
และจากภาพความสามัคคีของทีมพรรคร่วมรัฐบาลที่เห็นได้ใน 2 วันเต็มของการอภิปราย ก่อนลงมติในวันนี้ 26 มีนาคม หากลองเช็กเสียงโหวตของแต่ละขั้วจาก สส.ของทั้ง 2 ฝ่ายในสภารวม 492 เสียง “ฝ่ายรัฐบาลมี 320 เสียง” แบ่งเป็นพรรคเพื่อไทย 142 เสียง ภูมิใจไทย 68 เสียง รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง ประชาธิปัตย์ 25 เสียง กล้าธรรม 24 เสียง ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง ประชาชาติ 9 เสียง ชาติพัฒนา 3 เสียง ไทรวมพลัง 2 เสียง และประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง
ขณะที่ “ฝ่ายค้าน 172 เสียง” แบ่งเป็นพรรคประชาชน 143 เสียง พลังประชารัฐ 20 เสียง ไทยสร้างไทย 6 เสียง เป็นธรรม 1 เสียง ไทยก้าวหน้า 1 เสียง และรวมพลังชาติไทย 1 เสียง
แน่นอนว่าเสียงของรัฐบาลที่มากกว่าไม่น่าจะมีปัญหาในเรื่องของการโหวต ด้วยเสียงที่เกินกึ่งหนึ่งทำให้ขั้วฝ่ายค้านไม่สามารถล้มนายกฯ อิ๊งค์ได้ แม้ก่อนหน้านี้จะมีบางพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยมีปัญหากับ “นายใหญ่” มาก่อน
อย่างพรรคภูมิใจไทย ที่เกรงกันว่าจะมีปัญหาเรื่องเสียงโหวต แต่หลังจากดินเนอร์สานสัมพันธ์หัวหน้าพรรคร่วมฯ กับนายกฯ อิ๊งค์นัดล่าสุดที่โรงแรมโรสวูด และการออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนหลายครั้งของนายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย จึงเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด เชื่อว่าจะไม่มีใครแตกแถว
ขณะเดียวกันในการออกเสียงโหวตรอบนี้ รัฐบาลอาจจะได้เสียงเพิ่มมากขึ้น หลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แย้มว่าจะมีงูเห่าสนับสนุนนายกฯ เพิ่มอีก 10 เสียงจากพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งคาดการณ์กันว่าส่วนหนึ่งจะเป็นเสียงจาก “พรรคไทยสร้างไทย” และ “พรรคพลังประชารัฐ” ที่อาจเป็นการยกมือโหวตเพื่อส่งสัญญาณปูทางย้ายซบพรรครัฐบาลในอนาคตหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ การประกาศของ ร.อ.ธรรมนัส ครั้งนี้หากมีใครย้ายซบพรรคกล้าธรรมขึ้นมา ก็จะเป็นการเพิ่มเก้าอี้ สส.ที่จะส่งผลถึงโควตารัฐมนตรีของพรรคกล้าธรรมที่จะมีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้นด้วย
งานนี้เชื่อว่าทุกคะแนนเสียงจากพรรคร่วมรัฐบาลจะหนักแน่นเทโหวตให้นายกฯ สมกับที่เจ้าตัวทุ่มเทสะกดอารมณ์โชว์ภาวะผู้นำที่ดีในการตอบคำถามซักฟอก ส่วนจะได้เพิ่มอีก 10 เสียงแบบข้ามขั้วหรือไม่ ได้รู้กันวันนี้!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'อนุทิน' ขี่กระแสชาตินิยม รวมบ้านใหญ่สู่รัฐบาล 4 ปี
“ประเทศไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่ม แต่จำเป็นต้องปกป้องตัวเอง”, “รัฐบาลสนับสนุนการทำหน้าที่ของกองทัพอย่างเต็มที่”, “นี่เป็นเรื่องของสองประเทศ ไม่ใช่เรื่องของคนนอก” และ “การหยุดยิงจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อกัมพูชาแสดงความจริงใจ และต้องแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรม”
ศึกชิง ‘เมืองกล้วยไข่’ ‘กล้าธรรม’ ปะทะ ‘รัตนากร’
1 ในพื้นที่เป้าหมายสำคัญของ ‘พรรคกล้าธรรม’ ภายใต้การนำของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.ศึกษาธิการ ในฐานะหัวหน้าพรรค คือ จ.กำแพงเพชร
เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ
ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
3 แคนดิเดต 'ปชน.' ทำมือเบอร์ 46 แจงเหตุปาร์ตี้ลิสต์เหลือ 99
3 แคนดิเดต 'ปชน.' ทำมือสัญลักษณ์หมายเลข 46 ลุยหาเสียงทันที ชวนประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิล่วงหน้า แจงบัญชีรายชื่อเหลือ 99 คน ถอนตัวไป 1

