"พปชร." หมดอายุ? นับเวลารอแยกย้าย

 ผลการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม. พื้นที่หลักสี่ จตุจักร เรียกได้ว่าตบหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่กระทบไปถึง บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหมอย่างรุนแรง

 หลังก่อนหน้านี้เมื่อกลางเดือนมกราคม พปชร.ก็พ่ายแพ้เลือกตั้งซ่อมใน จ.ชุมพร และสงขลา ให้แก่แชมป์เก่าประชาธิปัตย์ 

 ​ครั้งนั้น "บิ๊กตู่" อาจเอาตัวรอดไปได้ เพราะผู้นำทัพคือ "บิ๊กป้อม" - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรค พปชร. และ "ผู้กองมนัส" หรือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการ ที่คนใต้ออกมาสั่งสอน โดยเฉพาะปมปราศรัยหาเสียง "คนจนคนรวย" จึงทำให้ 2 คนดังกล่าวรับบาปเคราะห์ไป

 ​แต่เมื่อกลับพื้นที่เลือกตั้งซ่อม กทม.ถือว่าผลเลือกตั้งมีความชัดเจนกว่า เพราะด้านหนึ่ง พปชร. ในฐานะเป็นแชมป์เก่า และครั้งนั้น พปชร.ชนะเพราะพลังลุงตู่ และครั้งนี้ช่วงโค้งสุดท้ายผู้สมัครก็โหน พล.อ.ประยุทธ์อีกครั้ง และที่สำคัญยังไร้เงาภาพ "ร.อ.ธรรมนัส" อีกด้วย 

 ​ผลคะแนนของ พปชร.ที่ออกได้เพียง 7,906 คะแนน เท่านั้น แตกต่างจากเลือกตั้งปี 2562 ที่นายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.กทม. ได้คะแนน 34,907 คะแนน เรียกว่าคะแนนหล่นวูบไปอย่างน่าใจหาย 

 ​ขณะที่พรรคการเมืองอื่นๆ ที่หวังโหนกระแสนายกฯ เช่นกัน คือ พรรคกล้าได้ 20,047 คะแนน พรรคไทยภักดีได้ 5,987 คะแนน และเมื่อรวมทั้งหมดได้ 33,940 คะแนน

 ​แตกต่างจากพรรคการเมืองที่ไม่เอา "พล.อ.ประยุทธ์" คือ พรรคเพื่อไทยได้ 29,416 คะแนน พรรคก้าวไกลได้ 20,361 คะแนน และพรรคไทยศรีวิไลย์ได้ 244 คะแนน รวมทั้งหมด 50,021 คะแนน 

 ​ผลการเลือกตั้งซ่อม แพ้ 3 ครั้งรวด คอการเมืองฟันธงไปล่วงหน้าว่า พปชร.และ "ลุงตู่" ขายไม่ได้แล้ว และอยู่ถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ 

 ​โดยสาเหตุของ พปชร.พ่ายแพ้ คนการเมืองวิเคราะห์ว่า ประการแรก ประชาชนต้องการสั่งสอนรัฐบาลที่เหิมเกริมกับการถืออำนาจ ผ่านระบอบการสืบทอดอำนาจ และเบื่อ "บิ๊กตู่" ที่อยู่มานานเข้าปีที่ 8 ในเดือน ส.ค.65 ใช่หรือไม่ 

 ​ประการที่สอง คนส่วนใหญ่ต้องการให้การเมืองกลับมาสู่วิถีประชาธิปไตย และไม่ต้องการพรรคการเมืองที่สนับสนุนฝ่ายสืบทอดอำนาจใช่หรือไม่ 

 ​ประการที่สาม ประชาชนไม่ทนกับปัญหาความขัดแย้งภายใน พปชร.ของกลุ่มก๊วนต่างๆ จากนักการเมืองร้อยพ่อพันแม่ที่เข้ามาแย่งชามข้าว มากกว่ามุ่งหน้าแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน 

 ​ประการที่สี่ นโยบายหาเสียงของ พปชร.ไม่สามารถทำได้จริง อย่างเช่น เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรี เงินเดือน 20,000 บาท เป็นต้น 

 ​ฉะนั้น คน พปชร.หากยากไปต่อ อาจต้องแยกย้ายหาพรรคใหม่สังกัดใช่หรือไม่ แต่ต้องไม่ลืมว่า "กลุ่ม 3 ป." ยังมีจุดแข็งคือ วุฒิสภาจำนวน 250 คนเป็นองครักษ์ และสามารถเลือกนายกฯ ได้ 

 ​ฝ่ายแรกคือ "ทีมลุงป้อม" ย้ายไป พรรค "เศรษฐกิจไทย" โดยมี "ผู้กองธรรมนัส" พร้อมด้วย ส.ส. 18 คนไปปักหลักรอแล้ว ที่มี พล.อ.วิชญ์ เทพหัวดิน ณ อยุธยา เป็นหัวหน้าพรรค นายอภิชัย เตชะอุบล เป็นเลขาธิการพรรค และมีชื่อ พล.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ หรือ "บิ๊กป๊อด" น้องชาย พล.อ.ประวิตร เป็นที่ปรึกษาพรรค  

​​ เชื่อว่าพรรคนี้จะทำไซส์พรรคขนาดกลาง ที่สามารถเข้าได้กับทุกขั้ว และโดยเฉพาะบทบาท "บิ๊กป้อม" อาจเปลี่ยนไปอยู่เบื้องหลังคุมเกมหลังลงจากหลังเสือมาแล้ว มิให้ถูกเสือแว้งกัด    

​ส่วน "บิ๊กตู่" หากยังคิดว่าตัวเองขายได้ จากแผนเดิมต้องการยึด พปชร. แต่เมื่อผลการเลือกตั้งซ่อม กทม.ออกมาแพ้แบบหลุดลุ่ย อาจต้องเริ่มมองพรรคการเมืองอื่นๆ หรือพรรคเกิดใหม่ที่รอสแตนด์บาย และคาดว่ามีรัฐมนตรีสายตึกไทยคู่ฟ้า อาทิ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส และ ส.ส.นกแล ที่ยังเชื่อมั่นในตัวนายกฯ เช่น ส.ส.ภาคใต้ ย้ายตามไปด้วย  

 ​ขณะที่ กลุ่มสามมิตร ขออยู่ให้ครบวาระ 4 ปี และประเมินสถานการณ์การเมืองข้างหน้าอีกครั้ง เพราะมีธงชัดคือ ต้องอยู่ฝ่ายผู้ชนะเท่านั้น และเชื่อว่าตัวเองอยู่จุดเลือกตั้ง ไม่ว่าจะย้ายไปกับ "บิ๊กตู่" เพราะยังมี ส.ว. 250 เสียงหนุนหลัง หรือหากเห็นว่าไปไม่ไหว พรรคเพื่อไทยก็เป็นคำตอบ   

 ​เว้นแต่ "บิ๊กตู่" รู้ตัวเอง และ ขอพอแค่ครบเทอม นักการเมือง พปชร.สายนี้ก็ตัวใครตัวมัน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'หมอชัย' โนคอมเมนต์ นายกฯ ทาบ 'จักรพล' นั่งโฆษกรัฐบาล

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีทาบทามนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. โควตากำแพงเพชร

'อนันต์' การันตี 'ลุงป้อม' ส่งชื่อนั่ง รมต. มั่นใจคุณสมบัติไร้มลทิน ลั่นเก้าอี้ตัวนี้โควตากำแพงเพชร ไม่ท้อหากชวดตำแหน่ง เชื่อพรรคไม่แตกแม้ผลออกมาเป็นอย่างไร

นายกฯ ร่วมผู้นำ 17 ประเทศ แถลงเรียกร้องปล่อยตัวประกันในกาซา

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "วันนี้ ผมร่วมกับผู้นำ 17 ประเทศที่มีตัวประกันที่ยังอยู่ในกาซา ออกถ้อยแถลงร่วมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด