ผลสอบ-มติ “แพยสภาฯ” แรงสั่นสะเทือนถึงศาลฎีกา “สมศักดิ์” จิ๊กซอว์พลิกเกม!

แม้การเสาะหาข้อเท็จจริงปม ป่วยทิพย์ นักโทษเทวดา ทักษิณ ชินวัตร ถึงตอนนี้โมเมนตัมจะเทไปที่ ศาลฎีกา หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรับเรื่องไว้ไต่สวน และจะเปิดห้องพิจารณาคดีเพื่อไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.

ทว่ายังต้องจับตาการไต่สวน-สอบสวนของทั้ง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ตั้งอนุกรรมการไต่สวน และ แพทยสภา ที่ตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจสอบสวนจริยธรรมแพทย์ รพ.ตำรวจ และ รพ.ราชทัณฑ์ ที่รักษาตัวทักษิณ ที่มีความคืบหน้าออกมาเป็นระยะ โดยเฉพาะแพทยสภา ที่มีข่าวว่าจะมีการนัดประชุมวันที่ 8 พ.ค.

เพราะหากผลสรุปการสอบสวนและมติของแพทยสภาออกมาทางใดทางหนึ่ง ในวันที่ 8 พ.ค. หรือต่อให้เข้าไม่ทันวันที่ 8 มิ.ย. แต่เดดไลน์ช้าสุดก็คือต้องเข้าที่ประชุมแพทยสภาเดือนถัดไป ที่ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 12 มิ.ย. ที่ก็คือ 1 วันก่อนถึงวันไต่สวนของศาลฎีกาฯ

อ่านสถานการณ์ไว้ว่า ผลสอบ-มติแพทยสภา จะมีผลต่อการไต่สวนของศาลฎีกาฯ พอสมควร เช่น หากผลสอบที่อนุกรรมการสอบสวน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแพทย์ทั้งหมด สรุปผลออกมาว่ากระบวนการรักษาและการออกหนังสือรับรองต่างๆ ของแพทย์ทั้งของ รพ.ตำรวจ และ รพ.ราชทัณฑ์ เป็นการรักษาและออกหนังสือทางการแพทย์ที่ผิดปกติ เข้าข่ายจงใจช่วยเหลือทักษิณ

ผลที่จะตามมาคือ จะทำให้หนังสือชี้แจงข้อเท็จจริง-พยานหลักฐานต่างๆ ที่ศาลฎีกาฯ สั่งให้ รพ.ตำรวจ-กรมราชทัณฑ์-รพ.ราชทัณฑ์ ส่งมาให้ศาลฎีกาฯ จะขาดน้ำหนัก-ความน่าเชื่อถือลงไปอย่างมาก เพราะเชื่อได้ว่า ยังไงองค์คณะของศาลฎีกาฯ ต้องรับฟังและให้น้ำหนักกับการสอบสวนของแพทยสภามากพอควร

ยิ่งถ้าหากมีการนำผลสรุปการสอบสวนเข้าที่ประชุมแพทยสภา วันที่ 8 พ.ค.นี้ได้ทัน ไม่เจอโรคเลื่อน-การล็อบบี้ให้เลื่อนออกไปอีก หลังเคยเลื่อนมาแล้วเมื่อ 10 เม.ย.

 เชื่อได้ว่ามีโอกาสสูงที่ ศาลฎีกาฯ อาจทำหนังสือถึง แพทยสภา เพื่อขอให้ส่งผลการสอบสวนและมติที่ประชุมแพทยสภา-รายงานการประชุมแพทยสภามาให้ ศาลฎีกาฯ

รวมถึงอาจเรียกตัวแทนแพทยสภา เช่น นพ.อมร ลีลารัศมี ประธานอนุกรรมการสอบสวนฯ มาเบิกความวันที่ 13 มิ.ย.นี้ก็ได้เช่นกัน

ซึ่งจะทำให้รูปคดีการไต่สวนในชั้นศาลฎีกาฯ อาจไม่เป็นผลดีกับทักษิณ รวมถึงคนที่เกี่ยวข้อง ที่ต้องลุ้นระทึกกับชะตากรรมที่จะตามมา

กระนั้นหากผลสอบสวนของแพทยสภาฯ ออกมาตรงกันข้าม คือผลสอบออกมาในทางที่เป็นคุณกับทักษิณ ก็อาจมีผลต่อการไต่สวนของศาลฎีกาฯ ที่อาจเป็นบวกกับทักษิณได้เช่นกัน

 จึงต้องลุ้นกันว่า คณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ของแพทยสภา จะสรุปผลสอบสวนเข้าที่ประชุมแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค.นี้หรือไม่ โดยหากเสนอ ก็ต้องลุ้นต่อไปว่า แล้วผลการประชุม-ลงมติของแพทยสภาจะออกมาอย่างไร จะเห็นด้วย-คัดค้าน-วีโต้ กับผลการสอบสวน ในวันดังกล่าว หรือจะเสนอให้มีการสอบสวนเพิ่มเติม หรือเสนอให้เลื่อนการลงมติชี้ขาดออกไปก่อน ซึ่งหากออกมารูปนี้ ย่อมทำให้สังคมมองว่า แพทยสภาที่ต้องการยื้อ มีเจตนาอะไรบางอย่างหรือไม่?

และก่อนจะถึงวันประชุมแพทยสภา ที่ปกติก็อยู่ในความสนใจของคนที่ติดตามเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ถึงตอนนี้ก็ยิ่งน่าติดตามมากขึ้น

เมื่อ จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตประธาน นปช.-หัวหอกหลักฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ออกมาระบุว่า ให้จับตาดูผลการสอบสวนของแพทยสภาในวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งจะส่งผลถึงการนัดพร้อมหรือไต่สวนของศาลฎีกาฯ และ ป.ป.ช. เรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ

 “ผลสอบสวนจริยธรรมแพทย์ของคณะอนุกรรมการแพทยสภาในวันที่ 8 พ.ค.นี้ โดยมีรายงานแว่วมาว่า สั่งพักใบอนุญาตแพทย์ รพ.ตำรวจเบื้องต้น 2 คน และสอบเพิ่มเติมอีก 5 คน ทั้งแพทย์ 2 โรงพยาบาลคือ รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์ และผลสอบคาดจะออกมาหนักกว่า 2 คนแรก” จตุพรระบุไว้เมื่อ 3 พ.ค.

เรื่องนี้ “ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภาฯ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่รักษาทักษิณ ชินวัตร” ให้ข้อมูลอัปเดตว่า ให้รอดูผลการประชุมแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค. ไม่อยากพูดอะไรออกไปก่อน

ส่วนข่าวที่ออกมาว่าผลสอบของแพทยสภามีการเสนอให้สั่งพักใบอนุญาตแพทย์ 2 คน และสอบเพิ่มเติมอีก 5 คน รวมเป็น 7 คน “นพ.อมร” กล่าวแบบสงวนท่าที ไม่ตอบรับ-ไม่ปฏิเสธ โดยตอบว่า “คงไม่ยืนยันอะไรทั้งนั้น ต้องรอฟังผลการประชุมแพทยสภา เรื่องข่าวที่ว่ามีการเสนอให้ลงโทษและสอบสวนหมอ 7 คน เพิ่งทราบข่าววันนี้มีคนส่งข่าวมาให้ดู แต่ผมตอบอะไรไม่ได้ ขอให้ไปรอติดตามผลการประชุมแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค.นี้ ข่าวที่ออกมา ผมก็ไม่รู้ว่าคนที่พูดเขาเอาข้อมูลมาจากไหน ผมไม่ยืนยันและไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น ดูวันที่ 8 พ.ค.นี้ว่าเรื่องนี้จะเข้าที่ประชุมแพทยสภาวันที่ 8 พ.ค.นี้ได้ทันหรือไม่ หากเข้าได้ ก็รอฟังเนื้อหาที่จะออกมา แพทยสภาเขาก็จะจัดการกันเอง ต้องไปทีละขั้นตอน” นพ.อมร ปธ.สอบสวนแพทยสภาระบุ 

สำหรับกระบวนการพิจารณาของแพทยสภาในการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ที่มีการร้องเรียนไปที่แพทยสภานั้น ก่อนหน้านี้ “รศ.(พิเศษ) นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ กรรมการแพทยสภา” เคยชี้แจงไว้ว่า มีทั้งสิ้น 7 ขั้นตอน

...โดยขั้นตอนที่อนุกรรมการสอบสวนฯ ชุด นพ.อมร กำลังสอบสวน อยู่ในขั้นตอนที่ 4 ซึ่งเมื่อสอบสวนเสร็จ ต้องส่งเรื่องให้อนุกรรมการกลั่นกรองที่มีบุคคลภายนอก ซึ่งไม่ใช่แพทย์ แต่เป็นผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายระดับประเทศ ให้ความเห็นต่อคดีเพื่อให้มีความแน่นหนาต่อการทำสำนวน ที่เป็นขั้นตอนที่ 5

จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 6 คือส่งให้ที่ประชุมใหญ่คณะกรรมการแพทยสภา เพื่อพิจารณาว่าผู้ถูกร้องมีความผิด ต้องลงโทษหรือไม่ หรือยกข้อกล่าวหา

สุดท้ายจะเป็นลำดับที่ 7 เสนอต่อสภานายกพิเศษ ซึ่งถ้าสภานายกพิเศษใช้อำนาจวีโต้-โต้แย้ง เรื่องจะต้องย้อนกลับมายังคณะกรรมการแพทยสภาลงความเห็น โดยหากที่ประชุมแพทยสภาลงมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม ทางผู้ถูกร้อง (หากถูกลงโทษ) ถ้าไม่เห็นด้วยก็สามารถยื่นร้องต่อศาลปกครอง แต่ถ้าที่ประชุมแพทยสภาเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 จะถือว่ายึดตามความเห็นของสภานายกพิเศษ

พบว่าคนที่เป็นสภานายกพิเศษ ก็คือ รมว.สาธารณสุขโดยตำแหน่ง ที่ก็คือ “สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข” แกนนำพรรคเพื่อไทย ผู้ใกล้ชิดแนบแน่นกับทักษิณ

 ทว่า เรื่องนี้ไม่ต้องถึงสมศักดิ์ มือรับจบ เพราะแค่มีข่าวออกมาว่า ผลสอบของแพทยสภาชี้ว่าการรักษาทักษิณของแพทย์ที่เกี่ยวข้องใน รพ.ตำรวจ และ รพ.ราชทัณฑ์ มีความผิดปกติ พฤติการณ์ส่อเข้าข่ายผิดจรรยาบรรณแพทย์ แค่นี้ก็จะมีผลอย่างมากต่อการไต่สวนของศาลฎีกาฯ และการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช. โดยแพทย์ที่เกี่ยวข้องก็เสี่ยงเสียชื่อเสียงในวงการแพทย์ แม้ต่อให้มีการช่วยเหลือให้พ้นผิดไม่ต้องโดนลงโทษด้วยอำนาจพิเศษของสภานายกพิเศษ นามสมศักดิ์ก็ตาม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิ๊งค์' โพสต์ภาพคู่ 'ทักษิณ' สุขสันต์วันพ่อ อดทนไว้ เราจะได้ไปเที่ยวรอบโลกด้วยกัน

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ภาพถ่ายร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร พร้อมระบุข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า

รู้จักน้อยไปจริง! กระทุ้ง 'อนุทิน' เผยตัวตนให้มากขึ้น

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า หรือเรารู้จักท่านนายกรัฐมนตรีน้อยไปจริงๆ

'ทักษิณ' ร่วมเวที 'เสก โลโซ' ร้องเพลงใจสั่งมา ในเรือนจำกลางคลองเปรม

"ทักษิณ" ขึ้นเวทีเรือนจำฯ ควงไมโครโฟนร้องเพลง "ใจสั่งมา" บรรยากาศอบอุ่นมวลความสุข เพื่อนผู้ต้องขังกว่า 1,000 คน ต่างลุกโชว์สเต็ปแด๊นซ์

เพจดังงัดภาพใหม่กว่า ตบหน้าแฟนคลับพรรคแดง ขว้างงูไม่พ้นคอ ทักษิณก็รู้จัก 'เบน สมิธ'

จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ หลังปรากฏภาพนายเบน สมิธ ถ่ายร่วมเฟรมกับบุคคลระดับสูงในแวดวงการเมืองไทย ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ

เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569