สัปดาห์นี้ 28-31 พ.ค. มีการเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญ ซึ่งก็จะมีการประชุมทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ในส่วนของวุฒิสภาจะประชุมกันวันที่ 29-30 พ.ค. โดยไฮไลต์สำคัญคือ การประชุมวันที่ 30 พ.ค. ที่จะมีการ "ประชุมลับ" เพื่อโหวต "ให้ความเห็นชอบ-ไม่เห็นชอบ" กับรายชื่อ "บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ" หรือ ป.ป.ช.ใหม่ 3 คน ที่กรรมการสรรหาคัดเลือกและส่งชื่อมาให้ สว.โหวต ท่ามกลางกระแสข่าว บิ๊กการเมือง-ซอยรางน้ำที่คุมเสียง สว.สีน้ำเงิน จะมีการส่งสัญญาณมายัง สว.สีน้ำเงิน ในช่วงค่ำวันที่ 29 พ.ค.นี้ว่าจะให้โหวตเห็นชอบทั้ง 3 รายชื่อเลยแบบยกแผง หรือจะโหวตเห็นชอบแค่บางรายชื่อ สำหรับ 3 รายชื่อที่ลุ้นไปนั่งเป็น ป.ป.ช. ประกอบด้วย
-ประกอบ ลีละเปสนันท์ รองประธานศาลฎีกา อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา อดีตประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการสรรหาให้ถูกเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช.คนใหม่ แทน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ อดีตประธาน ป.ป.ช.ที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว โดยพบว่านายประกอบกว่าจะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ กรรมการสรรหาที่มีประธานศาลฎีกาเป็นประธาน ต้องโหวตถึง 3 รอบ
-เพียรศักดิ์ สมบัติทอง อธิบดีอัยการภาค 2 อดีตอธิบดีสำนักงานคณะกรรมการอัยการ ที่จะมาแทน วิทยา อาคมพิทักษ์
-ประจวบ ตันตินนท์ ผู้สอบบัญชีอิสระ และอดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท จัสมิน อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) - อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีทีแอนด์ที จำกัด (มหาชน) - อดีต ผอ.การยาสูบแห่งประเทศไทย - อดีตกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ตงฮั้ว โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งทำธุรกิจสื่อ โดยจะมาแทนนางสุวณา สุวรรณจูฑะ โดยร่ำลือกันว่า นายประจวบเป็น บุคคลมากคอนเน็กชัน ในหลายวงการ แต่พบว่าสมัยเป็น ผอ.โรงงานยาสูบ ปี 2551 เกิดปัญหาการทำงานกับสหภาพโรงงานยาสูบ เพราะโดนร้องเรียนหลายเรื่อง จนต้องยื่นใบลาออกในปี 2552
ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวที่ถูกพูดถึงทางการเมืองว่า คนการเมืองซอยรางน้ำและ สว.สีน้ำเงิน ต้องการให้มีการโหวต ป.ป.ช.ใหม่โดยเร็ว เพื่อเอาคนเข้าไปเป็น ป.ป.ช.เพื่อคุมเสียงข้างมากใน ป.ป.ช. ในการพิจารณาคดีสำคัญๆ ทางการเมือง เช่น คดีชั้น 14 ทักษิณ ชินวัตร ที่ ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน เจ้าหน้าที่รัฐ 12 คนไว้แล้ว รวมถึงคำร้องคดีที่ สว.สีน้ำเงิน 92 คน เข้าชื่อกันยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนเอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีสอบสวนการเลือก สว.โดยมิชอบ
รวมถึงคดีสำคัญทางการเมืองอื่นๆ ที่อยู่ในแฟ้ม ป.ป.ช.เวลานี้ เช่น คดีอดีต สส.พรรคก้าวไกล 44 คน ร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ที่ ป.ป.ช.มีการเรียก สส.พรรคประชาชน 25 คน ที่ประกอบด้วยแกนนำพรรคเกือบทั้งหมด ไปรับทราบข้อกล่าวหาและชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้ว - คดี ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. กับพวกรวม 8 คน เรียกรับเงินหรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ และธุรกิจผิดกฎหมายอื่น 18 ประเภท - คดีบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.กับพวก เรียกรับผลประโยชน์เว็บพนันออนไลน์ และความผิดฐานฟอกเงิน เป็นต้น
ท่ามกลางกระแสข่าวพลิกไปมา เดิมทีข่าวบอกว่า อาจจะมีหนึ่งชื่อไม่ผ่าน เพราะ ซอยรางน้ำ-สว.สีน้ำเงิน มีการ
“เช็กประวัติทางลับ-ลึก”
ของทั้ง 3 ชื่อ พบว่ามี หนึ่งชื่อที่มีที่มา-ที่ไป ที่โยงกับ “ขั้วการเมืองฝั่งตรงข้าม” พรรคสีน้ำเงินและ สว.สีน้ำเงินที่อยู่ในปีกรัฐบาลด้วยกันเอง เลยจะให้ สว.สีน้ำเงินตีตก!
แต่ข่าวอีกทางบอกว่า ฝ่ายการเมืองซอยรางน้ำเคลียร์แล้ว ผนวกกับการเมืองขั้วสีน้ำเงินไม่ต้องการเปิดศึกรอบด้าน หากจะโหวตคว่ำคนดังกล่าวที่มีเครือข่ายในกระบวนการยุติธรรม ผนวกกับเช็กขุมกำลังในตึก ป.ป.ช.แล้ว หากรอบนี้ดันเข้าไปได้สัก 2 ชื่อบวกกับ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบันบางคน ที่มีสายสัมพันธ์กับขั้วอำนาจเก่ายุค คสช.รวมกันก็มีเสียงเกินกึ่งหนึ่งในกรรมการ ป.ป.ช.
ทำให้ข่าวตอนต้นสัปดาห์ยังลือกันว่าอาจจะผ่านทั้ง 3 ชื่อ เพื่อเข้าไปเป็น
"ขุมกำลังขั้วการเมืองสีน้ำเงินในตึก ป.ป.ช.ที่สนามบินน้ำ”
อย่างไรก็ตาม สว.สีน้ำเงิน ให้ข้อมูลมาว่า การโหวต ป.ป.ช.ใหม่ 3 คน สุดท้ายสัญญาณจะชัดตอนเย็นวันที่ 29 พ.ค. ที่จะมีการส่งซิกมาว่า ให้ สว.โหวตเห็นชอบ-ไม่เห็นชอบรายชื่อ ป.ป.ช.อย่างไร
“สถานการณ์ ณ ตอนนี้ ช่วงสุดสัปดาห์ ที่ สว.ได้ยินมาคือ อาจจะโหวตผ่าน 3 รายชื่อ แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่าอาจจะมีบางคนไม่ผ่าน เพราะมีการเช็กข้อมูลแล้วพบว่ามีสายสัมพันธ์กับฝ่ายตรงข้ามขั้วสีน้ำเงิน แต่ได้ยินมาว่าเคลียร์กันได้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเคลียร์กันระดับไหน แต่ก็ยังไม่แน่ อาจจะมีบางคนไม่ผ่านก็ได้ ต้องรอสัญญาณสุดท้าย
การประชุมวุฒิสภา วันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ค.นี้ คงมี สว.บางคนถามข้อมูลนอกรอบกับ สว.ที่เข้าไปเป็น กมธ.สอบประวัติ ว่าจากการเรียกทั้ง 3 คนไปสัมภาษณ์แสดงวิสัยทัศน์เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้รู้ข้อมูลก่อนวันโหวต 30 พ.ค.
ความชัดเจนว่าจะโหวตผ่านทั้ง 3 ชื่อหรือไม่ หรือจะผ่านแค่บางชื่อ จะทราบแน่ชัดช่วงเย็นวันที่ 29 พ.ค.ที่ สว.จะมาประชุมวุฒิสภา แต่จะชัดมากขึ้นว่าใครผ่าน ใครไม่ผ่าน ก็ตอน 8 โมงเช้าวันโหวต 30 พ.ค.ที่จะเป็นสัญญาณสุดท้ายเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา เวลา สว.โหวตเรื่องสำคัญๆ สัญญาณสุดท้ายจะมาตอนเช้าของวันนั้นๆ” แหล่งข่าว สว.ให้ข้อมูล
ส่วนความพยายามของ สว.บางส่วน เช่น สว.กลุ่มอิสระ-สว.กลุ่มสีขาว ที่เคลื่อนไหวเรียกร้องให้ สว.งดการโหวตเห็นชอบ ป.ป.ช.ใหม่ 3 ชื่อ และงดโหวตตั้ง กมธ.สอบประวัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการการเลือกตั้งคนใหม่คือ ณรงค์ กลั่นวารินทร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา รวมถึงการตั้ง กมธ.สอบประวัติบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญใหม่ 2 คนคือ ศาสตราจารย์ ร.ต.อ.สุธรรม เชื้อประกอบกิจ และ สราวุธ ทรงศิวิไล อดีตอธิบดีกรมทางหลวง สมัย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ เป็น รมว.คมนาคม
มองตามรูปเกม ดูจากที่ นันทนา นันทวโรภาส ที่ออกตัวล่ารายชื่อ สว.ส่งศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อขอให้มีคำสั่งให้ สว.หยุดปฏิบัติหน้าที่การโหวตองค์กรอิสระ แต่ได้ลายเซ็น สว.มาแค่ 12 คน ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า การขวางทาง สว.สีน้ำเงินด้วยวิธีนี้คงไม่ได้ผล
เพราะขนาด สว.สีน้ำเงิน อยู่ในสภาพโดนรุกไล่บดขยี้อย่างหนัก สว.กลุ่มดังกล่าวที่อ้างว่ามีประมาณ 30-40 เสียง แต่ก็หารายชื่อ สว.ได้แค่ประมาณ 12 ชื่อ
ทำให้ศุกร์ที่ 30 พ.ค.นี้ สว.สีน้ำเงินจะใช้มติเสียงข้างมากดันให้มีการโหวต ป.ป.ช.
เพราะในศึกสัประยุทธ์ ระหว่าง "ทักษิณ-ทวี-ดีเอสไอ-อนุกกต." กับฝ่าย "พรรคสีน้ำเงิน-สว.สีน้ำเงิน" ที่คุมเชิงกันอยู่ แต่ลึกๆ เอากันถึงตาย
การส่งคนไปคุมองค์กรอิสระและศาล รธน.คืออีกหนึ่ง "ไพ่การเมือง" ที่ขั้วสีน้ำเงินต้องทำให้สำเร็จ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จิรุตม์-มณฑลลุ้นผงาดกกต. สีน้ำเงินคุมเสียงข้างมาก7เสือ
เมื่อมีความชัดเจนทางการเมืองว่า “พรรคเพื่อไทย” จะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังการโหวตร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า 2569
'ภัยพิบัติการเมือง เมื่อกฎบริจาค กลายเป็นสนามแข่งพรรคใหญ่'
ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างน้ำท่วมในหลายพื้นที่ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกมาชี้แจงแนวทางการบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
พลิกเกม"น้ำท่วม"สู้ศึกเลือกตั้ง สมรภูมิการเมืองช่วงชิงชัยชนะ
แรงกดดันของสังคมที่มีต่อ "อนุทิน ชาญวีรกูล" นายกรัฐมนตรี หลังเหตุการณ์มหาอุทกภัยที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พุ่งเป้าไปที่ความผิดพลาด บกพร่อง และล่าช้า ในการสั่งการเข้าช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
วิกฤตน้ำท่วมทำรัฐบาลรวน อาจป่วนถึงการแก้รัฐธรรมนูญ
วิกฤตในการบริหารสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ของภาคใต้ โดยเฉพาะที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นอกจากความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมหาศาลแล้ว ยิ่งทำให้รัฐบาลสูญเสียความน่าเชื่อถือในสายตาสาธารณชน
รัฐบาลอ่อนหัด โครงสร้างล้าหลัง ฉุดเชื่อมั่น'อนุทิน-ภท.'จมดิ่งกับน้ำท่วม
วิกฤตมหาอุทกภัยถล่ม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ศูนย์กลางเศรษฐกิจภาคใต้ สร้างความหายนะราวกับคลื่นสึนามิ ซากปรักหักพังของเมืองเสมือนวันสิ้นโลก
ปี69เดือด!เลือกตั้งทุกระดับ 'กกต.-ประชาชน'ตัดสินอนาคต
ปี 2569 กลายเป็นปีที่ท้าทายที่สุดสำหรับประชาธิปไตยไทย ด้วยการเลือกตั้งหลายระดับที่กระชั้นชิดกันอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่คาดว่าจะพ่วงด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ และบันทึกความเข้าใจ (MOU)


