แมตช์แรกสนธิ-จตุพร ทักษิณต้องรับโทษ-ต้าน'กาสิโน'

แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่าสุดท้าย สนธิ ลิ้มทองกุล พี่ใหญ่บ้านพระอาทิตย์ จะจับมือกับ จตุพร พรหมพันธุ์-นิติธร ล้ำเหลือ จากกลุ่มคณะหลอมรวมประชาชน เพื่อร่วมกันทำภารกิจการเคลื่อนไหวทางการเมืองเรื่องแรกคือเรื่องใด หลังทั้ง 2 ฝ่ายเปิดตัวร่วมกันบนเวทีความจริงมีหนึ่งเดียว ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา

แต่เมื่อดูจากการปักหลักของกลุ่ม คปท.-กองทัพธรรม และเครือข่ายพันธมิตรฯ ที่ยังคงปักหลักตั้งเวทีอยู่ที่สะพานชมัยมรุเชฐข้างทำเนียบรัฐบาล บนเป้าหมายหลักคือการ "คัดค้านร่างกฎหมายกาสิโน" ที่จนถึงขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลเพื่อไทยยังคงเดินหน้าจะผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือกฎหมายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีการเปิดกาสิโนให้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาฯ หลังมีการเปิดสภาฯ 3 ก.ค. หลังร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวถูกบรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาฯ เป็นเรื่องแรกของวาระการประชุมสภาฯ ในปัจจุบัน กลุ่มเครือข่ายต้านกาสิโนก็คงหวังลึกๆ ว่า หากกลุ่มบ้านพระอาทิตย์มาช่วยเติมพลังในการเคลื่อนไหวคัดค้านร่างกฎหมายกาสิโน ก็จะทำให้การเคลื่อนไหวต้านเปิดกาสิโนดูมีพลังมากขึ้น ยามเมื่อรู้แน่ชัดว่า รัฐบาลเพื่อไทยสั่ง สส.รัฐบาลโหวตร่าง กม.กาสิโนวันใด

ตรงนี้ก็อยู่ที่ “สนธิ-บ้านพระอาทิตย์” แล้วว่าจะเอาด้วยหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาหากดูจากความเคลื่อนไหวในช่วงหลังๆ จะพบว่ากลุ่มสนธิ-บ้านพระอาทิตย์ ที่เคยออกมาเคลื่อนไหวนัดรวมตัวก่อนหน้านี้ หลักๆ จะเป็นเรื่อง MOU 2544 ไทย-กัมพูชาเป็นธงหลักมากกว่า

จนสนธิเคยบุกไปยื่นหนังสือที่ข้างทำเนียบรัฐบาล เพื่อส่งถึงนายกรัฐมนตรีให้ยกเลิก MOU 2544 มาแล้วเมื่อช่วง ธ.ค.2567 ขณะที่เรื่อง “กาสิโน” กลุ่มสนธิยังไม่ได้ออกตัวคัดค้านแบบขึงขังเหมือนกรณี MOU 2544

สำหรับ MOU 2544 ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องเช่นกันที่กลุ่มจตุพร-นิติธร ทนายนกเขา เคลื่อนไหวคัดค้านการเดินหน้าของรัฐบาลเพื่อไทยที่ต้องการเปิดเจรจากับกัมพูชา เพื่อทำข้อตกลงร่วมกันในการขุดเจาะแหล่งพลังงาน โดยยกปมการคัดค้านว่า ข้อตกลงดังกล่าวเสี่ยงจะพาประเทศไทยไปสู่การ “เสียดินแดน” ให้กับกัมพูชา

ทำให้ถึงตอนนี้ นโยบายการหาแหล่งพลังงานใหม่ ที่ก็คือการทำข้อตกลงกับกัมพูชาในพื้นที่ อ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเล ไทย-กัมพูชา แม้จะเป็นหนึ่งในนโยบายรัฐบาลเพื่อไทย ตั้งแต่ยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน มาจนถึงแพทองธาร ชินวัตร ที่แถลงต่อรัฐสภา แต่จนถึงขณะนี้ไม่มีอะไรคืบหน้า หลังมีกระแสต่อต้าน-เรียกร้องให้ยกเลิก MOU 2544 ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนรัฐบาลเพื่อไทยคงเกรงว่าจะถูกปลุกกระแสรัฐบาลเพื่อไทยทำให้ประเทศเสียดินแดน จึงถอนคันเร่งนโยบายดังกล่าว 

 ดังนั้นเรื่อง MOU 2544 ฝ่ายสนธิ-จตุพร จึงมีจุดร่วมที่ตรงกัน แต่เมื่อตอนนี้รัฐบาลเพื่อไทยยังไม่ขยับเรื่องนี้ ก็เลยทำให้ประเด็น MOU 2544 คลายความร้อนแรงลงไป

ทำให้หลังจากนี้ต้องรอดูว่า การขยับของจตุพร-สนธิ หากจับมือกันจะเกิดการเคลื่อนไหวประเด็นใดที่จะเป็นธงนำ? 

ซึ่งระหว่างทางก่อนที่สภาฯ จะเปิดในเดือน ก.ค. ไม่แน่อาจมีสถานการณ์บางอย่างแทรกซ้อน ที่ทำให้สนธิ-จตุพร อาจต้องมาหารือกันว่าจะเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ เช่น หากสุดท้าย วันที่ 13 มิ.ย. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดไต่สวนคดีชั้น 14 ซึ่งหากสุดท้ายศาลฎีกาเห็นว่ากระบวนการรับโทษของทักษิณ 6 เดือนที่ รพ.ตำรวจไม่ถูกต้อง จนสั่งให้กลับไปรับโทษใหม่ แล้วตัวทักษิณปฏิเสธกระบวนการยุติธรรม หลบหนีไปก่อนหรือหลัง 13 มิ.ย.

หากสถานการณ์เป็นแบบนี้ อาจทำให้ไม่แน่ สนธิ-จตุพร-คปท.และเครือข่าย เช่น กองทัพธรรม อาจต้องออกมาเคลื่อนไหวอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะหากทักษิณหลบหนีไม่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาลฎีกา ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง ในยุครัฐบาลที่ลูกสาวตัวเองเป็นนายกฯ เรื่องแบบนี้ยังไงแพทองธาร ลูกสาวทักษิณ ในฐานะผู้นำประเทศและกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะบอกไม่รู้ไม่เห็น ปฏิเสธความรับผิดชอบก็คงฟังไม่ขึ้น เรื่องนี้ก็อาจเป็นวาระที่ทำให้คนได้เห็นการจับมือร่วมกันของสนธิ-จตุพรก็เป็นไปได้ ถ้าสถานการณ์พาไปและคุยกันลงตัว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดขั้นตอนหย่อนบัตร8ก.พ.69 บัตร3ใบเลือกตั้งพ่วงประชามติ

ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูกาลการเลือกตั้งทั่วไปเพื่อเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) อย่างเป็นทางการ โดยในครั้งนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทยที่จะมีการเลือกตั้ง สส. พร้อมกับการทำประชามติหนึ่งเรื่องในวันเดียวกัน โดยกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.2569 ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 17.00 น. ตามประกาศของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

'ภท.-ปชน.' แตกหักปม112 'พท.' ตัวแปรรอร่วมรัฐบาล

การเลือกตั้งวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 กำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงโค้งสำคัญ พรรคการเมืองต่างเร่งนำเสนอนโยบาย แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และทีมรัฐมนตรี เพื่อขอโอกาสประชาชนเข้ามาบริหารประเทศในอีก 4 ปีข้างหน้า

'จตุพร' ฟันธงเลือกตั้งวนลูปสับปลับ 'สงคราม-เงินเทา' ตัดสินชะตาบ้านเมือง

'จตุพร' ชี้เลือกตั้งแข่งกันสับปลับแล้วอ้างจำเป็นกอดคอตั้ง รบ. คาดพรรคใหญ่ปล่อยของซัดกันนัว ระบุ 3 ปัจจัยทั้งสงคราม เงินเทาสแกมเมอร์ และขุดดิจิทัลฟุตพริ้นท์ซ้ำเติมพูดแล้วลืมทำ ฟาดกันน่วม ชี้ ปชน.-พท.-ภท. กวาดเสียง แย่งชิงพรรคกลาง-เล็กตั้ง รบ.กลับกลอก

ภูมิใจไทยพลัส-เปิดเกมใหญ่ ชูรัฐมนตรีคนนอก ลุยเลือกตั้ง

บรรยากาศการเมืองปลายปี 2568 ต่อเนื่องต้นปี 2569 เดินหน้าเข้าสู่โหมดเลือกตั้งเต็มรูปแบบ หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งเตรียมเปิดรับสมัคร สส.ปลายเดือนธันวาคม ก่อนจะหย่อนบัตรในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 พรรคการเมืองต่างเร่งเปิดตัวผู้สมัคร นโยบายหาเสียง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในช่วงโค้งสุดท้าย

‘บิ๊กป้อม’ ถอย ดัน ‘ตรีนุช’ เลือกตั้งสุดท้ายของ ‘พปชร.’

‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ประกาศถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ทั้งที่อีกไม่กี่ชั่วโมงจะถึงวันรับสมัคร สส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดในวันที่ 27-28 ธันวาคมนี้

คิกออฟเลือกตั้ง69เช็กความพร้อมกกต. เปิดคู่มือผู้สมัครสส.ก่อนออกหาเสียง

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ครั้งใหม่ หลังจากพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2568 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค.2568